นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นทางระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 20 – 25 ก.ย. 2564 ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง นั้น

ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำท่าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นไปตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) พิจารณาปรับลดการระบายน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยไม่กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่าง และให้ทำการประชาสัมพันธ์ก่อนระบายน้ำทุกครั้ง พร้อมกำชับให้ตรวจสอบอาคารชลประทาน ประตูระบายน้ำ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ หากเกิดฝนตกหนักลมกรรโชกแรง จนส่งผลต่ออาคารชลประทาน ให้เข้ารีบแก้ไขให้กลับมาพร้อมใช้งานโดยเร็วที่สุด

โดย มอบหมายเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ประจำพื้นที่เสี่ยง พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที หมั่นตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ และเร่งกำจัดอยู่เสมอ ตลอดจนประสานหน่วยงานระดับท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปได้ที่ โครงการชลประทาน ในพื้นที่ หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ได้ตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน