คลัง สั่งกรมสรรพสามิต คุมเข้มกักตุนบุหรี่ เหตุยี่ปั๊วหวั่นขึ้นภาษี 40% คาดราคาแพงขึ้น 20 บาทต่อซอง ด้านสมาคมค้ายาสูบจี้จับตาบุหรี่เถื่อนทะลักเข้าไทย
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพศิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต กำลังดูแลสถานการณ์การกักตุนบุหรี่ โดยการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ขณะนี้ยังเป็นการคาดเดาของผู้ประกอบการ ผู้ค้า ดังนั้น กรมสรรพสามิตคงต้องลงไปตรวจตราเรื่องการกักตุนมากขึ้น
นายอาคม กล่าวต่อว่า ขณะที่ความคืบหน้าเรื่อง อีแสตมป์ เป็นโครงการที่กำลังทำอยู่ ซึ่งจะใช้กับทั้งเครื่องดื่ม บุหรี่ แต่คงไม่ทันในการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ คงดำเนินการตามขั้นตอน เป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นตามมา
ด้านนางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า กระแสข่าวที่คลังเตรียมปรับภาษีบุหรี่ ส่งผลทำให้ร้านค้าส่งรายใหญ่ หรือยี่ปั๊วเริ่มกักตุนบุหรี่ เพื่อรอการปรับภาษีที่อาจจะมีผล 1 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกันยังพบว่าบางร้านได้เริ่มวางขายในราคาที่บวกขึ้นแล้ว ซึ่งการปรับขึ้นราคาถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือบุหรี่หนีภาษีที่จะทะลักเข้ามาในตลาดที่ขณะนี้ มีจำนวนมาก
นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า สมาคมจึงขอร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งติดตาม และจับกุมผู้ค้าบุหรี่หนีภาษี เพราะเมื่อมีการปรับขึ้นภาษี ส่งผลให้ราคาบุหรี่แพงขึ้น อาจทำให้ผู้สูบหันไปบริโภคสินค้าหนีภาษี เพราะประหยัดกว่า สุดท้ายจะกระทบต่อรายได้ของร้านค้าและการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐบาล
“ในช่วงที่ผ่านมาจากการติดตามข้อมูลจากร้านค้าส่ง พบว่าเริ่มมีตัวแทนจำหน่ายส่งบุหรี่ให้น้อยลง จากเดิมที่เคยสั่งได้รอบละ 3-5 ลัง ก็ลดลงเรื่อยๆ จนไม่มีมาส่ง ทำให้ทางร้านไม่มีบุหรี่มากพอที่จะขายส่งได้ จึงเหลือไว้เพียงขายปลีกให้ลูกค้าเท่านั้น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า หากมีการปรับภาษีบุหรี่ปัจจุบันจาก 20% สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาท เป็น 40% จะส่งผลให้ราคาขยับขึ้นอีก 15-20 บาทต่อซอง” นางวราภรณ์ กล่าว
