นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์มากมายว่าร้านธงฟ้าประชารัฐที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐขึ้นราคาสินค้า ว่า สั่งการให้กรมการค้าภายใน (คน.) เข้าไปตรวจสอบ พร้อมกันกับวางแผนพัฒนาสินค้าในกลุ่มร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการได้แข่งขันได้ โดยเรียกผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) เข้ามาหารือพร้อมกันกับขอความร่วมมือให้ส่งสินค้าให้กับร้านค้าปลีกต่ำกว่าราคาตลาด โดยมีราคาจำหน่ายที่ชัดเจน

อีกทั้งยังสั่งการให้คน. เข้าไปตรวจสอบราคาสินค้าในร้านค้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เกี่ยวกับราคาขายของแต่ละร้าน ว่ามีราคาเป็นธรรมกับผู้บริโภค ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในบางรายการอย่างที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ โดยยึดราคาเปรียบเทียบกับร้านในบริเวณใกล้เคียง หากมีราคาสูงกว่าจะต้องมีการตักเตือนและหารือเพื่อปรับราคาให้สอดคล้องกับราคาของร้านบริเวณเดียวกัน

“ได้ประชุมกับซัพพลายเออร์ จึงขอความร่วมมือในการให้นโยบายไปว่าร้านค้าธงฟ้าฯ จะต้องมีสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาด และทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงได้เข้าหารือเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลต้องเร่งรัดให้เข้าถึง พร้อมกันกับสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเข้าไปตรวจสอบภาพรวมของร้านค้าธงฟ้าฯ ตลอดจนราคาขายปลีกสินค้า เทียบกับร้านบริเวณใกล้เคียงต้องไม่ขายแพงกว่า หากพบต้องเข้าหารือของให้ปรับปรุงแก้ไข หากร้านไหนมีปัญหาทำไม่ได้ต้องพิจารณา เพราะถือว่าไม่มีความสามารถในการแข่งขัน”

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวต้องเน้นวิธีการเจรจาหารือและรับฟังปัญหาเพื่อให้ปรับตัว เพราะร้านค้าธงฟ้าประชารัฐมีเกือบ 2 หมื่นร้าน ต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการวางระบบในช่วงเริ่มต้น ซึ่งร้านที่เข้าร่วมโครงการมีการร้องเรียนเข้ามาไม่ถึงร้อยล้าน และเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการดำเนินการจริงเพียงหลักสิบล้าน

“การกระทำดังกล่าวทางกระทรวงถือว่าไม่ได้เป็นความผิด ให้โอกาสพิจารณาปรับตัวได้ไหม ทำได้ไหม อยู่กันแบบไม่รุนแรง ต้องค่อยๆ แก้ไขกันไป ตอนนี้ผมมี 2 หมื่นร้านถือว่าใหญ่มากต้องให้เวลาปรับตัวแก้ไขปัญหา ใจเย็นๆ ขอให้อดทน ที่ร้องเรียนเข้ามามีเพียงไม่ถึงร้อยร้านค้าจาก และเมื่อเข้าไปตรวจสอบจริง เพียงสิบถึงยี่สิบร้านค้า ที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ นับร้อยเข้าไปตรวจสอบจริงกลับไม่มี มีการกลั่นแกล้งไม่ต้องการให้โครงการนี้สำเร็จ หากเราพบจริงไม่มีการถอยแน่นอน แต่ที่ได้รับรายงานเข้ามาส่วนใหญ่ไม่เป็นความจริง บางร้านเข้ามาร้องเรียน เพราะไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ร้องเรียนเข้ามาส่วนใหญ่ไม่จริงแต่แชร์กันไปแล้ว เช่น น้ำปลา 70-80 บาท มีรูปแชร์คนก็ตื่นตัว แต่พอไปตรวจแล้วกลับไม่พบ แค่เอาป้ายไปติดถ่ายรูปแล้วเอาออก”

ปัจจุบัน หลังดำเนินโครงการมาได้กว่า 2 เดือน มีการติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ร้านธงฟ้าประชารัฐแล้วมากกว่า 18,000 ร้านค้า ตอนนี้อยู่ระหว่างทบทวนและปรับปรุง เพื่อขยายไปสู่การทำงานในเฟส 2 ต่อไป

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้หารือกับซัพพลายเออร์ ให้มีราคาแน่นอน พร้อมกันกับจัดสรรสัดส่วนสินค้าเฉพาะที่ต่ำกว่าราคาทั่วไป เพื่อจัดเป็นมุมธงฟ้าเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน พร้อมกันกับสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดตรวจสอบราคาจำหน่ายสินค้าในร้านธงฟ้า โดยเปรียบเทียบราคาให้เป็นธรรมสอดคล้องตลาดตลาด โดยพิจารณากับร้านข้างเคียงที่ต้นทุนขนส่งใกล้เคียงกัน จึงชัดเจน

“ได้หารือกับซัพพลายเออร์จัดสินค้าราคาพิเศษให้ร้านธงฟ้า พร้อมกันกับตรวจสอบหากร้านธงฟ้าร้านไหนขายแพงกว่าร้านใกล้เคียง ถือว่าไม่ถูกต้อง อาจจะถูกตัดสิทธิ์ได้ หลักการอะไรแพงหรือถูกให้เทียบกับร้านข้างเคียง สินค้าประเภทเดียวกันบอกว่าแพง เทียบอยู่คนละจังหวัดค่าขนส่งแตกต่างกัน แต่ร้านบริเวณใกล้กันมีต้นทุนเหมือนกันจึงต้องขายใกล้เคียงกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน