น.ส.บุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ กล่าวว่า งานแสดงสินค้าของขวัญของแต่งบ้าน สินค้าแฟชั่น หรือ กิฟต์ เฟส บาย ไทยแลนด์เบสท์บาย 2017 (Gift Fest by Thailand Bestbuy 2017) ได้เปิดแล้วและพร้อมให้ผู้บริโภคมาจับจ่ายซื้อสินค้าส่งท้ายปลายปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 13-17 ธ.ค. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งงานนี้ต่อยอดมาจากงานไทยแลนด์เบสท์บายที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 โดยการสนับสนุนของสมาคมของขวัญของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน ที่ในแต่ละปีจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบงานให้เหมาะกับเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภค
สำหรับปีนี้ภายในงานได้คัดเลือกสินค้ามาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ โดยแบ่งกลุ่มสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่มองหาของขวัญเพื่อจะมอบให้ถูกใจผู้รับ อาทิ สินค้ากลุ่มของแต่งบ้าน ของใช้ในครัวเรือน สินค้าดีไซน์จากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ สินค้ากลุ่มแฟชั่น ซึ่งปีนี้ลดราคาสูงสุดถึง 70% และปีนี้ได้เพิ่มสินค้าใหม่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าไอที เก็ตเจ็ด ใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของขวัญให้คนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล และสินค้าสำหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม สินค้านวัตกรรม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและยุโรป อีกทั้งยังได้ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจนำสินค้ามาจัดจำหน่ายภายในงานด้วย
นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการส่งมอบของขวัญให้กับคนพิเศษ จึงได้ร่วมกับเคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส (Kerry Express) ผู้ให้บริการส่งพัสดุชื่อดัง ที่จะมาให้บริการส่งของขวัญ พรัอมฟรีอุปกรณ์การห่อสินค้า เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อสินค้าในงาน ขณะเดียวกันปีนี้จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ 3 ต่อ รับของกำนัล ทั้ง ถุงผ้าลาย บัตรสตาร์บัค และบัตรของขวัญห้างเซ็นทรัล เป็นต้น
อย่างไรก็ดี คาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้หลังได้รับการกระตุ้นจากภาครัฐในหลายๆ มาตรการ ทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการส่งเสริมการค้าการลงทุน ส่งผลให้กำลังซื้อของภาคประชาชนเริ่มปรับตัวดีขึ้น และในช่วงโอกาสสำคัญที่กำลังจะมาถึงอย่างเทศกาลปีใหม่คิดว่าตลาดของขวัญของชำร่วยจะขยายตัวขึ้นได้ในระดับที่ดี และจะเป็นผลดีต่อการจัดงาน โดยคาดว่าภายในงานจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานตลอดระยะเวลา 5 วัน ไม่น้อยกว่า 120,000 คน
