น.ส.สายทิพย์ เชวงทรัพย์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ GoDaddy ผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนในระดับโลก กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการ โดยเร่งเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สอดรับกระแสการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งการเติบโตของเอสเอ็มอีมีส่วนสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ระบุว่า มูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2564 คาดว่าจะเติบโต 6.1% คิดเป็นมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ในขณะที่มูลค่าอีคอมเมิร์ซของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ในทางกลับกัน มูลค่าอีคอมเมิร์ซของกลุ่มเอสเอ็มอีกลับเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 13.9% จากปี 2562 มาอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านล้านบาท ในปี 2564

“ด้วยแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องอินเตอร์เน็ตและการค้าออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่ง ผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีต่างพากันเข้าสู่ช่องทางการขายออนไลน์ มาจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากเริ่มก้าวสู่โลกออนไลน์ และผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพื่อขยายธุรกิจ โดยจะใช้แพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย เป็นตัวเลือกแรกที่เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ใช้ และมีหลายรายเริ่มใช้โซเชี่ยลมีเดียควบคู่ไปกับการสร้างเว็บไซต์ของตนเอง เนื่องจากการอาศัยโซเชี่ยลมีเดียเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการทำธุรกิจออนไลน์ที่มั่นคงในระยะยาว”

อย่างไรก็ดี GoDaddy พร้อมจะสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ด้วยโซลูชั่นสำหรับการสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ทำได้ง่ายและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่สูง คือ ชุดเครื่องมือออนไลน์แบบครบวงจร ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างเว็บไซต์ให้สำเร็จ แต่ยังครอบคลุมไปถึงขั้นตอนช่วยให้คำแนะนำต่างๆ ในการทำธุรกิจออนไลน์ให้แข็งแกร่ง เช่น การลงทุนในกลยุทธ์การพัฒนากลยุทธ์การตลาดออนไลน์โดยใช้อีเมล์ หรือการใช้ประโยชน์จากโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ เพื่อขายสินค้า พร้อมช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า และพัฒนาแผนเชิงกลยุทธ์ต่างๆ ในการสร้างการเติบโต เพื่อหวังว่าในปี 2565 สถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน