นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงรายงานผลประเมินการดำเนินงาน ประจำปีบัญชี 2564 ของสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ว่า กรมบัญชีกลาง และ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้คะแนนกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรมเท่ากับ 4.098 คะแนน สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง

โดยสามารถดำเนินมาตรการด้านสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ควบคู่กับการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีผลิตภาพเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ คือ การปรับปรุงระบบดิจิตอลรองรับการให้บริการกลุ่มเป้าหมาย และใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้บริหารเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน กองทุนได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 13,000 กิจการ รวมวงเงินกว่า 19,000 ล้านบาท และพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควบคู่ไปด้วยกว่า 5,000 กิจการ ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 80,000 ล้านบาท

กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเร่งผลักดันให้เกิดธุรกิจในกลุ่มเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) และอุตสาหกรรมเป้าหมายภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานพันธมิตรจัดหาช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้

ขณะเดียวกันได้มอบหมายนายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนฯ เร่งยกระดับการให้บริการด้วยอีเซอร์วิส ควบคู่กับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อประกอบในการตัดสินใจของผู้บริหารกองทุน ซึ่งจะสามารถกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน