น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ GULF ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (“Gulf Renewable Energy”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้น 100% เข้าลงนามในสัญญาความร่วมมือในการลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน (Joint Venture Agreement) และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อศึกษาและลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกับ GUNKUL เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆ รวมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมพลังงานต่างๆ เช่น ระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในอนาคต ภายใต้การร่วมทุนดังกล่าว Gulf Renewable Energy และ GUNKUL จะถือหุ้นเท่ากันที่ 50%

ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองกลุ่มบริษัท โดย GULF มีความชำนาญในธุรกิจผลิตไฟฟ้า รวมถึงมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งและกว้างขว้างในเครือข่ายทางธุรกิจ ในขณะที่ GUNKUL มีความชำนาญด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร และในด้านการก่อสร้าง

ดังนั้น ความร่วมมือดังกล่าวจะเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนของบริษัทร่วมทุนเพื่อบรรลุเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับกรอบแผนพลังงานชาติ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050

นอกจากนี้ การลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว ยังสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของ GULF และยังตอบโจทย์ของลูกค้ารายใหญ่อย่างกลุ่มผู้ให้บริการรายใหญ่ (Hyperscaler) ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามทิศทางพลังงานโลก

ด้านน.ส.นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายงานกลยุทธ์การลงทุนและธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ความร่วมมือนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญของ GUNKUL ที่จะต่อจิ๊กซอว์ด้านพลังงานให้ครบจนถึงสเกลระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะทำให้บริษัทร่วมทุนนี้เป็นตัวแทนขับเคลื่อนโครงการพลังงานหมุนเวียนที่มีศักยภาพในอนาคต

ทางบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในและต่างประเทศ มองว่าประสบการณ์ความชำนาญในด้านธุรกิจสาธารณูปโภค และเครือข่ายธุรกิจของ GULF ผนวกกับความเชี่ยวชาญของ GUNKUL ในการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้าที่ครอบคลุมตั้งแต่โรงไฟฟ้า ระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า จนถึงผู้ใช้ไฟฟ้าแบบครบวงจร จะขับเคลื่อนให้เกิด Synergy ร่วมกัน และทำให้ภายในปี 2023 GUNKUL สามารถบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตพลังงานสะอาดรวมตามเป้าที่ทางบริษัทฯ ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

น.ส.นฤชล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากโอกาสที่ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมกันเปลี่ยนทุกพื้นที่ให้สามารถเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานสะอาดบนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ที่รองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าในทุกมิติที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และจะเป็นความร่วมมือที่ไม่ได้จำกัดแค่มิติของสิ่งแวดล้อมแต่รวมไปถึงมิติทางด้านสังคมและเศรษฐกิจผ่านรูปแบบของคาร์บอนเครดิตและใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) เพราะปริมาณคาร์บอนที่ลดได้จากอัตราส่วนของพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ เชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและสร้าง Green Energy Landscape ของประเทศให้เป็นจริงขึ้นมาได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน