นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการนำคณะนักธุรกิจไทยกว่า 60 ราย ในสาขาธุรกิจต่างๆ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 4-5 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่า กัมพูชาเป็นตลาดที่เติบโตสูง จีดีพีโตเฉลี่ย 7-8% ต่อเนื่อง เป็นผลจากการปฏิรูปนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ (FDI) เพื่อใช้กัมพูชาเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก
รวมทั้งยังเร่งพัฒนาภาคท่องเที่ยว และเกษตรต่อเนื่อง แต่ยังคงขาดความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการเก็บรักษา แปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร จึงเป็นโอกาสของภาคธุรกิจไทยในการเข้าไปร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูป การท่องเที่ยว และภาคบริการ ที่เป็นจุดแข็งของผู้ประกอบการไทย โดยในปี 2564 ไทย-กัมพูชา มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 7,972.40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.26% แบ่งเป็น ส่งออก 7,077.24 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 895.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการค้าของไทยยังเกินดุลอยู่ที่ 6,182.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา เสนอให้รัฐบาลไทยรื้อฟื้น โครงการเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ช่วงอรัญประเทศ-ปอยเปต โดยเชื่อมต่อจากสถานีอรัญประเทศ ถึงสถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ฝั่งไทย ระยะทาง 6 ก.ม. ซึ่งได้มีการระงับการเดินรถไปช่วงโควิด-19 และภายหลังการขนส่งบนเส้นทางนี้จะต้องขออนุมัติเป็นครั้งๆ ไป ทำให้ขนส่งสินค้าไม่สะดวก และเสียเปรียบด้านต้นทุนการขนส่งหากเทียบกับสินค้าจากจีนและเวียดนาม หากเปิดการเดินรถไฟจากกัมพูชาเพื่อเข้าไปรับตู้สินค้าในพื้นที่ จ.สระแก้วได้ จะทำให้ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าไทยและช่วยเรื่องการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย”
นายสนั่น กล่าวว่า นักธุรกิจไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายปาน สรศักดิ์ รมว.พาณิชย์กัมพูชา โดยฝ่ายไทยขอให้กัมพูชามีช่องทางหรือหน่วยงานให้คำแนะนำข้อมูลที่ชัดเจนในการทำธุรกิจในกัมพูชา ความร่วมมือในอุตสาหกรรมอัญมณี และ ความร่วมมือด้านการศึกษาในการเปิดหลักสูตรหรือวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในกัมพูชา
นอกจากนี้ คณะฯ ยังร่วมเปิดงานแสดงสินค้า Cambodia Architect & Decor 2022 งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรม และบริการด้านการก่อสร้าง และตกแต่งระดับนานาชาติ, Cambodia Health & Beauty Expo 2022 งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและบริการด้านสุขภาพและความงาม และ Cambodia FoodPlus Expo 2022 งานแสดงสินค้าด้านธุรกิจและบริการด้านอาหารเครื่องดื่ม แฟรนไชส์ รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก โดยนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานกว่า 150 ราย
