นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนก.ค. 2565 ปรับตัว เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 7 เดือน จากระดับ 41.6 เป็น 42.4 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของ ผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 27.3 เป็น 27.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัว ดีขึ้นจากระดับ 48.3 เป็น 49.3

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม โอกาสหางานทำ และรายได้ในอนาคต อยู่ที่ระดับ 36.4 39.8 และ 50.8 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ที่อยู่ในระดับ 35.7 39.2 และ 49.8 ตามลำดับ

เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้น แต่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 เพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต จากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในเดือนก.ค. ว่า ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 36.3 เป็น 37.9 แต่ยังต่ำกว่า 50 ขณะที่ดัชนีเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภค การค้า การลงทุนและ การจ้างงาน ปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการมาอยู่ที่ระดับ 45.1, 42.8, 40.4,34.1 และ 33.4

“ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ เชื่อว่าจะเป็นความเชื่อมั่นในช่วงขาขึ้น โดยภาคธุรกิจมองว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้ว จากการส่งออกที่ขยายตัวดี ปีนี้คาดว่าจะโต 6-8% การท่องเที่ยวก็ดีขึ้นหลังเปิดประเทศ และการออกมาตรการกระตุ้น เราเที่ยวด้วยกัน และวันหยุดยาวของรัฐบาล คาดว่าจะทำให้ทั้งปีมีนักท่องเที่ยว 8-10 ล้านคน ส่วนฝั่งของผู้บริโภคนั้น จะรับรู้การฟื้นตัวช้ากว่า เพราะยังกังวลเรื่องราคาน้ำมันแพง การขึ้นดอกเบี้ย และภาวะสงคราม แต่ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นในอนาคต”

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ เพราะจะกระทบต่อจีดีพีเพียง 0.005% เท่านั้น แต่หากปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง รวมเป็นทั้งสิ้น 0.75% ก็จะกระทบจีดีพีเพียง 0.1-0.2% เท่านั้น ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ของรัฐจะช่วยตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไปจนถึงสิ้นปี การขึ้นดอกเบี้ยจึงไม่น่าจะบั่นทอนกำลังซื้อ หรือกระทบค่าครองชีพประชาชน ในปีนี้มากนัก รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันคาดว่าจะต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะฉุดให้เงินเฟ้อในประเทศต่ำลงได้

ดังนั้นคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงเติบโตได้ในอัตรา 3-3.5% โดยเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ผู้บริโภคจะกลับมาบริโภคสินค้าและบริการโดดเด่นขึ้นในปลายไตรมาสที่ 3 ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั้งปีคาดว่า จะอยู่ที่ 6-6.5%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน