นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ กอนช.มีประกาศ ฉบับที่ 27/2565 เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำโขง และได้ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง พบว่าในช่วงวันที่ 11-12 ส.ค. 2565 มีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มมากขึ้น

คาดการณ์ในช่วง 13-14 ส.ค. 2565 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ในอัตราประมาณ 9,000-10,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ด้านท้ายเขื่อนไซยะบุรีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงบริเวณริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 เมตร อย่างฉับพลัน ในช่วงตั้งแต่วันที่ 14-18 ส.ค. 2565

กรมชลประทาน เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยสั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนและเกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์

พร้อมทั้งพิจารณาความเหมาะสมในการบริหารจัดการน้ำตามศักยภาพ ตลอดจนเตรียมแผนรับสถานการณ์ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น ทั้งทางด้านบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันท่วงที

หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 และสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ www.rid.go.th http://swoc.rid.go.th/ https://www.facebook.com/Wmsc.Irri หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมชลประทาน 1460

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน