นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทย ไทยสมายล์ และนกแอร์ ร่วมกัน ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเที่ยวบินร่วมบริการ (โค้ดแชร์) เส้นทางไป-กลับ ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน เป็นเส้นทางนำร่อง ถือเป็นการเริ่มต้นโครงการไทยกรุ๊ป ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้สายการบินทั้ง 3 แห่ง จัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารและทำตลาดร่วมกัน รวมทั้งยังเป็นการ เพื่อตอบรับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองอีกด้วย

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้นกแอร์จะเป็นผู้ให้บริการทำการบิน โดยมีการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ร่วมทำการขาย ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางและโอกาส ในการจำหน่ายบัตรโดยสาร รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจให้แก่สายการบินของไทยในตลาดภายในประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการนำนักท่องเที่ยวเข้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน อย่างน้อยปีละ 20,000 คน ซึ่งในส่วนของเส้นทางแม่ฮ่องสอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทราโอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนและเห็นว่ามีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ดี

“การทำโค้ดแชร์ครั้งนี้ถือเป็นนำร่องตามนโยบายไทยกรุ๊ป ที่ 3 สายการบินจะทำเที่ยวบินร่วมกัน และในอนาคตจะต้องขยายเส้นทางอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะในเมืองรอง รวมทั้งจะต้องมีการใช้ทรัพยากรร่วมกันด้วย เพื่อเร่งลดต้นทุนภาพรวมให้กับทุกองค์กร เช่น ร่วมกันซื้ออุปกรณ์ต่างๆ การประกันภัย น้ำมันเชื้อเพลิง เพราะหากซื้อรวมกันเป็นตำนวนมากต้นทุนจะต่ำลง รวมไปถึงการ การซ่อมเครื่องบิน ร่วมกัน คาดว่าจะทำให้ต้นทุนต่อที่นั่งต่อกิโลเมตรลดลง และรายได้ภาพรวมจากทำโค้ดแชร์เพิ่มขึ้น 5%”

นายอุษณีย์กล่าวว่า คาดว่าปีนี้ ไทยสมายล์จะมีการทำโค้ดแชร์เมืองรอง เพิ่มได้อีก 2 เส้นทาง คือ สุวรรณภูมิ-สกลนคร และสุวรรณภูมิ-นครพนม โดยจะใช้เครื่องแอร์บัส 320 ทำการบิน เพราะเป็นเมืองที่มีศักยภาพเนื่องจากติดกับประเทศลาว อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้จะต้องวางร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสำรวจจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่มีศักยภาพต่อไป

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นกแอร์จะนำเครื่องบินเอทีอาร์ แบบใบพัด ขนาด 72 ที่นั่ง มาบินในเส้นทางนำร่อง ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน ราคาค่าโดยสารประมาณพันกว่าบาท ความถี่ 3 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ โดยจะบินเฉพาะวันพุธ ศุกร์ และ อาทิตย์ เที่ยวบินแรก 25 มี.ค. 2561 คาดว่าจะเต็มทุกเที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม ปีนี้นกแอร์มีแผนที่จะทำโค้ดแชร์เมืองรองเพิ่มอีก 1 เส้นทางคือ เพรชรบูรณ์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา รวมถึงเมืองรองอื่นๆ ที่ยังมีไม่การทำการบิน

“ความร่วมมือไทยกรุ๊ปครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะในอนาคต 3 สายการบินจะมีการซื้อประกันภัย ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงร่วมกัน คาดว่าจะทำให้ปี 2561 นกแอร์สามารถประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม นกแอร์จะประชุมบอร์ดในวันพฤหัส ซึ่งจะเสนอผลการดำเนินงานปี 2560 ส่วนแผนการดำเนินงานปี 2561 อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนหลายรายการ ประกอบด้วยแผนการบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าปีนี้ราคาจะอยู่ในระดับปัจจุบันคือประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ หรือปรับลดลงเล็กน้อย, แผนการทำประกันอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากค่าเงินบาทมีการเปลี่ยนแปลงไปมากมีแนวโน้มจะแข็งค่าต่อเนื่องต่อไป รวมไปถึงแผนการปรับเส้นทางการบินในประเทศจีน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน