นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ PPP ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบให้เอกชนเข้าร่วม 4 โครงการ รวมมูลค่าลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ คือ โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณสถานีกลางบางซื่อแปลง A ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 32 ไร่ โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ในรูปแบบสร้าง บริหาร โอน (BOT) ระยะเวลา 30 ปี และก่อสร้างไม่เกิน 4 ปี มูลค่าการลงทุน 1.54 หมื่นล้านบาท

“การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทพัฒนาพื้นที่ศูนย์คมนาคมขนส่งพหลโยธิน ช่วยสนับสนุนให้เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ด้านทิศเหนือของกทม. อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และจะช่วยเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่รายได้หลัก (Non Core) และแก้ไขปัญหาหนี้สินทางการเงินของ รฟท.ได้อีกด้วย” นายเอกนิติ กล่าว

นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP ยังเห็นชอบโครงการขนาดกลาง ที่มีมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก มูลค่า 2,700 ล้านบาท 2.โครงการพัฒนาที่ดินคลังพัสดุคลองเคย ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการ 3,147 ล้านบาท และ 3.โครงการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุแปลง ชบ.350 บริเวณสนามกอล์ฟ บางพระ ของกรมธนารักษ์ มูลค่า 1,536 ล้านบาท

นายเอกนิติ กล่าวว่า คณะกรรมการ PPP เห็นชอบเพิ่มเติมโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.นครราชสีมา เข้ามาตรการเร่งรัดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP Fast Track) มูลค่า 32,600 ล้านบาท เป็นการกระจายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปสู่ภูมิภาคและแก้ไขปัญหาจราจรหนาแน่นในเมืองหลัก ทำให้ภายใต้โครงการ PPP Fast Track เพิ่มเป็น 12 โครงการ มูลค่าโครงการลงทุนเบื้องต้น 966,800 ล้านบาท โดยขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดติดตามโครงการให้เป็นไปตามกำหนดเวลา

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2561 จะมีโครงการลงทุนภายใต้ PPP Fast Track นำเสนอคณะกรรมการ PPP จำนวน 3 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 406,874 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าส่ายสีส้ม ช่วงตะวันตกและตะวันออก 195,642 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก 131,172 ล้านบาท และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ 80,060 ล้านบาท อีกทั้ง คณะกรรมการ PPP เห็นชอบหลักเกณฑ์เปรียบเทียบต้นทุน ความเสี่ยง และความคุ้มค่าในการลงทุน เพื่อเป็นเครื่องมือให้รัฐนำไปใช้ประเมินความคุ้มค่าและตัดสินใจในการร่วมลงทุนกับเอกชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน