“อาคม”เต้น สั่งขนส่งออกมาตรฐาน “เบรก-เอบีเอส-การหน่วงความเร็ว” บังคับใช้กับรถโดยสารสาธารณะ ลดความสูญเสียจากอุบัติ ลั่น 1 ม.ค.ปีหน้า บังคับใช้มาตรฐาน “เบาะ-ตัวถัง-วัสดุห้องโดยสาร” ฝ่าฝืนไม่รับจดทะเบียน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกรณีรถทัวร์ท่องเที่ยวคว่ำ ที่อ.วังน้ำเขียวและ เหตุรถบัสเช่าเหมารับแรงงานเมียนมา ไฟลุกไหม้จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น กระทรวงคมนาคมได้สั่งให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เข้มงวดหามาตรการป้องกันและแนวทางการลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุจากรถโดยสาร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีประชาชนเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาจำนวนมาก
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 นี้ ขบ. เตรียมที่จะบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านวิศวกรรมยานยนต์ของรถโดยสาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.มาตรฐานความแข็งแรงของที่นั่ง ซึ่งประกอบด้วย ความแข็งแรงของโครงสร้างที่นั่งและพนักพิงหลัง จุดยึดที่นั่ง พื้นรถหรือตัวถังที่ใช้ติดตั้งที่นั่ง อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดที่นั่งกับพื้น และมาตรฐานความแข็งแรงของจุดยึดเข็มขัดนิรภัยทั้งแบบติดตั้งกับที่นั่งและแบบติดตั้งกับตัวถังรถ ทั้งนี้ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสาร
2.มาตรฐานการลุกไหม้ของวัสดุสำหรับตกแต่งภายในตัวรถโดยสาร จะต้องเป็นวัสดุทนไฟหรือลามไฟช้า เช่น เบาะที่นั้ง ผ้าม่าน ที่ปูพื้น ที่ปูผนัง ผนัง เป็นต้น 3.มาตรฐานตัวถังรถ โดยจะบังคับใช้กับรถใหม่ทุกคันที่จะมาจดทะเบียนหากตรวจพบอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน ขบ.จะไม่รับจดทะเบียน ทำให้ไม่สามารถนำรถมาวิ่งบนท้องถนนได้
นายอาคมกล่าวว่า นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ขบ.ไปพิจารณาออกประกาศเพื่อกำหนดมาตรฐานสมรรถนะของระบบห้ามล้อ, สมรรถนะของระบบการป้องกันการล็อกของล้อ (เอบีเอส) และระบบหน่วงความเร็ว (Retarder) เพิ่มเติม เพื่อควบคุมและมาตรฐานความปลอดภัยรถโดยสารให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายขนส่งทางบก พิจารณามาตรการควบคุมรถโดยสาร 2 ชั้น ซึ่งประกอบด้วย การยกเลิกการจดทะเบียน กำหนดเส้นทางห้ามวิ่งที่มีความเสี่ยงต่ออันตรายและกำหนดอายุการใช้งานของช่วงล่าง เพื่อลดการนำรถเก่ามาต่อทะเบียน รวมทั้งมาตรการสนับสนุนทางการเงินให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการเปลี่ยนจากรถ 2 ชั้น เป็นรถชั้นเดียวมาตรฐาน ปรับลดความสูงของรถโดยสารสองชั้น ความสูงต้องไม่เกิน 4.0 เมตร ตามกฎหมายกำหนด คาดว่าจะนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาได้ภายใน 2 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระบบระบบการป้องกันการล็อกของล้อ (เอบีเอส) และระบบหน่วงความเร็ว (Retarder) นั้นปัจจุบัน จะมีเฉพาะในรถที่มีราคาแพง เพราเป็นระบบความปลอดภัยทันสมัยที่เสริมเข้ามากับตัวรถ โดยระบบหน่วงความเร็วนั้น ส่วนใหญ่มีติดตั้งใช้ในรถขนาดใหญ่แถบประเทศแถบยุโรป ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยหน่วงความเร็วเสริมอุปกรณ์เบรค ช่วยลดความเร็วของรถในช่วงที่เป็นทางลดชันเช่น การขับลดลงเขา
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ว่า ขบ. ได้ประสานให้รถโดยสารหมวด 30 หรือรถเช่าเหมา ที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นรถวิ่งเสริมให้กับบริษัทขนส่ง จำกัด ต้องเข้าทำการตรวจสภาพก่อนนำรถออกมาวิ่งให้บริการเสริม รวมทั้งต้องถูกสุ่มตรวจสถานะรถ ตามสถานีขนส่งระหว่างทางด้วย เพื่อให้เกิดความพร้อมภัยสูงสุด หากรถคันใดไม่ผ่านการตรวจสภาพ จะถูกห้ามใช้รถทันที รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของคนขับด้วยหากไม่พร้อมสั่งเปลี่ยนคนขับทันที
เบื้องต้นมีรถหมวด 30 รวมประมาณ 311 คัน ที่สมัครเข้าร่วมเป็นรถเสริมของบขส. และอยู่ระหว่างการตรวจสภาพรถ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น บขส. แจ้งว่า ในช่วงสงกรานต์มีความต้องการรถรถวิ่งเสริมประมาณวัละ 400 คัน แต่ขณะนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมเพียง 311 คน โดยในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ขบ.ได้เชิญผู้ประกอบการรถหมวด 30 มาหารือ เพื่อขอความร่วมมือให้นำรถมาช่วงวิ่งเสริม โดยนำรถในส่วนที่เป็นรถเช่าเหมาที่ใช้ในการรับส่งพนักงานมาวิ่งเสริมให้ครบ 400 คัน ตามความต้องการ
โดยขณะนี้ ผู้ประกอบการรถหมวด 30 จากจ.อยุธยา และจ.ฉะเชิงเทราย แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม เพิ่มรวมอีก 400 คัน รวมเป็นทั้งสิ้น 600 คัน ซึ่งเกินกับความต้องการการเดินทางแล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องรถเสริมเพียงพอช่วงสงกรานต์แน่นอน
