ครม. ไฟเขียว กฎหมาย เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. เอาผิดคดีทุจริต ตลาดหุ้น เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้(27มี.ค.)มีมติ เห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดทุน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สามารถควบคุมและดูแลการทำงานของหลักทรัพย์ในตลาดได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการแก้ไขนี้ยังมุ่งหวังที่จะจัดการกับปัญหาการทุจริตและการดำเนินการที่ผิดกฎหมายในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบและลงโทษผู้ที่กระทำผิด

“เรื่องราวนี้เห็นความจําเป็นและประโยชน์ แล้วก็สิ่งที่จะต้องทํางานร่วมกันแก่เจ้าหน้าที่ ก็คงจะต้องดําเนินการต่อไป คือส่งให้ทางกฤษฎีกา เพื่อจะดู คาดว่าใช้เวลาพิจารณา 2-3 สัปดาห์ ก่อนที่เราจะออกกฎหมายต่อไป”

ทั้งนี้ สำหรับสาระสำคัญของเรื่องเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีประเด็นดังนี้

1. การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการกำกับดูแลการขายหลักทรัพย์โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์อยู่ในครอบครอง (การขายชอร์ต)

2. การยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน เพิ่มความเข้มแข็งของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน

3. การกำหนดสิทธิของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้ครอบคลุมถึงการดำเนินการแทนผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย

4. การรายงานข้อมูลการก่อภาระผูกพันในหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.

5. การเพิ่มมาตรการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบการกระทำความผิดและยับยั้งความเสียหายและการมอบหมายบุคคลอื่นจัดการทรัพย์สินที่ยึดอายัด

6. การสอบสวนคดีที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุนหรืออาจมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

7. มาตรการการลงโทษกรณีมีการปฏิบัติฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ ซึ่งมาตรการทางกฎหมายดังกล่าวข้างต้นจะเป็นเครื่องมือในการยับบั้งความเสียหายและบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายในการกระทำความผิดที่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจสามารถบรรลุผลได้อย่างแท้จริง อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมันให้นักลงทุนในตลาดทุนและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและตลาดทุนให้กลับ

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการเพิ่มอำนาจในการทำคดีของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ นั้น เชื่อมั่นว่า จะส่งผลดีต่อตลาดทุนโดยรวม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการกำกับดูแลการซื้อขายและการตรวจสอบการทำธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะช่วยให้การดำเนินการทางคดีและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดในตลาดทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้รวดเร็วมากขึ้น อันจะช่วยป้องปรามให้ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดเกิดความเกรงกลัว โดยมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดเพิ่มเติมในร่างกฎหมายดังกล่าว สามารถจะเสริมสร้างความเชื่อมั่น (Trust & Confidence) ให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของตลาดทุนไทยในขณะนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน