นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 2561 มีเงินสะพัดรวม 35,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 24,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 506,136 คน เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน คนไทยเที่ยวไทยทำรายได้สะพัด 10,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.5% จากปีก่อน โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว 3.10 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 12.4% จากปีก่อน

ขณะเดียวกัน ในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ 283,564 คน เพิ่มขึ้น 31.4% มีค่าใช้จ่าย 8,345 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งเรื่องของเงินบาทแข็งค่า และช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดยาว ทำให้คนไทยนิยมเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

“ตัวเลขการเดินทางของคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ใช้การใช้เงินไปเที่ยวอย่างฟุ่มเฟือย แต่เชื่อว่าการเดินทางดังกล่าวเป็นการเดินทางออกไปหาประสบการณ์การท่องเที่ยวในต่างแดน เพราะเมื่อประเทศเจริญมากขึ้น คนก็นิยมเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นเป็นธรรมดา”

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่งปีนี้ถือว่ามีจำนวนเพิ่มสูงมากถึง 12.4% เพิ่มขึ้นจากสถิติตามปกติที่ช่วงนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8-9% และเมื่อแยกเป็นการท่องเที่ยวในเมืองหลักและเมืองรองพบว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวเมืองหลักมากที่สุด โดยมีตัวเลขเดินทางกว่า 1.9 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท ส่วนเมืองรองมีคนไปเที่ยว 1.16 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็นเงินประมาณ 2,400 ล้านบาท

สำหรับช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.608 ล้านคน ขยายตัว 15.35% สร้างรายได้ 573,312.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไทยเที่ยวไทย (ม.ค.-ก.พ.) จำนวนรายได้ 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.45% รวมรายได้ช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ประมาณ 754,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 17.63% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ เงินรายได้ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1 ส่งผลต่อจ้างงาน สร้างรายได้ให้กับภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ ไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในไตรมาส 1 รายได้ 7.54 แสนล้านบาท คิดเป็น 19% ของจีดีพี แบ่งเป็นรายได้ 2.11 แสนล้านบาท หรือ 28% เป็นรายได้ที่เกิดจากการช็อปปิ้ง รายได้ 1.72 แสนล้านบาทหรือ 22.8% เป็นรายได้จากที่พัก โรงแรม รายได้ 1.04 แสนบ้านบาท หรือสัดส่วน 13.8% เป็นรายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม รายได้ 6.8 หมื่นล้านบาท หรือ 9% เป็นรายได้ที่เกิดจากค่ายานพาหนะ ค่าขนส่ง และ รายได้ 1.99 แสนล้านบาท หรือ 26.4% เป็นรายได้ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือทีทีเอเอ ประเมินว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีคนไทยเดินทางไปต่างประเทศ ขยายตัวถึง 10% โดยจุดหมายที่นิยมอันดับ 1 ยังเป็นประเทศญี่ปุ่น มากถึง 30% ส่วนอันดับที่ 2 คือ ยุโรป ขณะที่อันดับ 3 เป็นการเดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียน

นอกจากนี้ ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง หรือจังหวัดท่องเที่ยวขนาดเล็กตามนโยบายของรัฐบาลนั้น จากการเก็บข้อมูลพบว่า ในเดือนก.พ. 2561 พบว่า มีคนเดินทางไปเที่ยวยังเมืองรอง 55 จังหวัด เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเข้าพักถึง 68% ขยายตัวมากถึง 4.3% ซึ่งตามปกติแล้วอัตราเข้าพักตามปกติจะอยู่แค่เพียง 2% เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน