นายคะทสึฮิโตะ โอซะวะ กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามร่วมทุนกับ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนการถือหุ้น 49% เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม 2 โครงการแรก บนถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงศ์ และบนถนนสาทร ซอย 12 มูลค่ารวม 9,100 ล้านบาท โดยจะเปิดการขายในครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 100 ปี หรือตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งอาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก โรงแรม ตลอดจนยังมีการพัฒนาอพาร์ตเมนต์ภายใต้ชื่อบริลเลีย ประมาณ 2,000 แห่งในญี่ปุ่น ทั้งยังบริหารอาคารสำนักงานทั่วประเทศญี่ปุ่นรวมกว่า 200 อาคาร แต่โดยส่วนใหญ่อยู่ในโตเกียว โดยเฉพาะอาคารบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟโตเกียว ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของเกือบทั้งหมด ทั้งยังขยายการลงทุนในประเทศจีน ที่เมืองเทียนจิน ในสหรัฐอเมริกา เวียดนาม และโดยเฉพาะการขยายการลงทุนในประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2549 เพื่อเป้าหมายที่จะมุ่งขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคอาเซียนให้ได้ อาทิ การเข้าลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ในย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เพื่อพัฒนาอาคารสำนักงาน ที่ยู่อาศัย โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก เป็นต้น

พร้อมกับยังเตรียมลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียด้วย ซึ่งจนถึงปัจจุบันบริษัทได้มีการพัฒนาอาคารพักอาศัยในญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 60,0000 ยูนิต และกว่า 10,000 ยูนิต ในประเทศจีน

“ส่วนการตัดสินใจร่วมทุนกับ ไรมอนแลนด์ เพื่อขยายการลงทุนในไทยเป็นครั้งแรกนั้น โดยนโยบายบริษัทต้องการลงทุนในระยะยาวด้านที่พักอาศัย เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างมีเสถียรภาพ ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

ด้านนายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ในเบื้องต้นภายใน 5 ปี มีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมปีละ 2 โครงการ โดยเฉพาะใจกลางกรุงเทพฯ ในระดับราคาเริ่มต้นที่ 10-20 ล้านบาทขึ้นไป และยังมองไปถึงจังหวัดในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลอย่างหัวหิน ภูเก็ต และพัทยา ซึ่งยังมองไปถึงการลงทุนโรงแรมและอาคารสำนักงาน พร้อมวางแผนจะขยายโอกาสการลงทุนนอกประเทศไทยด้วย

โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะต่ำกว่าปี 2560 ที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทเปิดต้วโครงการใหม่ค่อนข้างน้อย แต่เชื่อมั่นว่าตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไปรายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหรือมีรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจร้านอาหารไทย บ้านหญิง โดยเมื่อต้นปีบริษัทได้เริ่มขยายสาขาในสิงคโปร์เป็นครั้งแรกรวม 2 สาขา ยอดขายเป็นที่น่าพอใจและเตรียมจะขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน