คอลัมน์ กระแสร้อน

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

นับเป็นความภูมิใจของคนทำงาน เมื่อภาพยนตร์ของตัวเองได้ถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลหนังต่างประเทศ

โดยล่าสุดสาว “ตั๊ก” บงกช เบญจรงคกุล ยิ้มแก้มปริ เมื่อหนังเรื่อง “Sad Beauty เพื่อนฉัน…ฝันสลาย”โดย พ้อยท์อัพ ฟิล์ม และ เอ็ม พิคเจอร์ส ผลงานที่เธอนั่งแท่นผู้กำกับฯ เต็มตัวครั้งแรก ได้รับเลือกไปฉายในเทศกาล Udine Far East Film Festival ครั้งที่ 20 ที่ประเทศอิตาลี ระหว่าง 20-28 เมษายน แถมยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล White Mulberry ซึ่งเป็นรางวัลที่เพิ่งจัดขึ้นสำหรับผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ด้วย

ซึ่งก่อนเดินทางไปร่วมงานผู้กำกับฯ สาวคนเก่ง “ตั๊ก” ได้มาพูดคุยถึงความรู้สึกที่ภาพยนตร์และตัวเองจะได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์จากเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าภาพยนตร์ได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาล รวมถึงตัวเองได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล White Mulberry?

ตั๊ก – “คือพี่โขม(ก้องเกียรติ โขมศิริ) โทร.มาบอกว่าหนังได้เข้าฉายในเทศกาลนี้และตั๊กได้เข้าชิงในรางวัลผู้กำกับฯ หน้าใหม่ จากนั้นก็ได้รับการคอนเฟิร์มจากพี่ทองดี(โสฬส สุขุม) ที่ดูแลเรื่องสายงานเทศกาลต่างๆ ความรู้สึกแรกคือตกใจและดีใจมาก ปกติตั๊กส่งหนังตัวเองสมัครเข้าประกวดตามงานเทศกาลต่างๆ อยู่แล้ว แต่ผิดหวังมา 10 กว่าเทศกาล”

คิดว่าอะไรเป็นจุดที่ทำให้คณะกรรมการมองเห็นศักยภาพของหนังและตัวเราด้วย?

ตั๊ก – “คงเป็นหนังที่แปลกมั้งคะ(หัวเราะ) ตอนที่ทำ ตั๊กชวนพี่ปรัช(ปรัชญา ปิ่นแก้ว) พี่ปื๊ด(ธนิตย์ จิตนุกูล) และพี่ปุ๊ก(พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์) มาดู ทุกคนบอกว่ายังไม่เคยเห็นหนังแบบนี้ในไทย ที่เป็นเรื่องของเพื่อนจริงๆ และเป็นเพื่อนผู้หญิงด้วย มันแหวกแนวไปหน่อยมั้ย ฉายวันแรกรายได้ต่ำมาก(หัวเราะ) แต่เป็นหนังทางเลือกซึ่งเข้าใจได้ว่าผลตอบรับจะประมาณนี้ แต่พอได้ไปอยู่ในเทศกาล ตั๊กอยากรู้ว่าเขาชอบหนังเรื่องนี้เพราะอะไร เลยอีเมล์ไปถาม ซึ่งได้คำตอบว่า หนังถูกจัดอยู่ในคำจำกัดความที่ว่า Cult Films หรือ ภาพยนตร์เกินวิสัย คือหนังที่ไม่จำกัดแนว ไม่จำกัดความ ไม่มีขอบเขต ตีความได้หลากหลาย”

ส่วนตัวรู้จักเทศกาล Udine Far East Film Festival ขนาดไหน?

ตั๊ก – “บางคนไม่ค่อยคุ้นชื่อ แต่ด้วยความที่ตั๊กอยู่กับภาพยนตร์ก็จะรู้จักคุ้นหูเป็นอย่างดี เพราะพี่ๆ หลายคนไปเทศกาลนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว บางคนเคยได้รางวัลในสาขาที่เป็นป๊อปปูลาร์โหวต ส่วนตั๊กเพิ่งจะมีโอกาสปีนี้ปีแรกและเป็นรางวัลที่เป็นคณะกรรมการตัดสิน รวมถึงเป็นรางวัลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาครั้งแรก”

เป็นผู้กำกับฯ หญิงคนแรกของไทยที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลนี้ รู้สึกอย่างไร?

ตั๊ก – “รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรฟลุกเนอะ ตั๊กเหนื่อยกับหนังเรื่องนี้มามาก ก็ภาวนาว่ามันจะไปถึงจุดที่อยากให้ถึง คือตั๊กอยากจะทำหนังเรื่องใหม่แล้ว(หัวเราะ) แล้วก็หวังว่าหนังเรื่องนี้จะส่งผลให้ตั๊กได้ทำเรื่องใหม่ด้วย ตั๊กคิดว่าความสำเร็จไม่ได้มาแบบฟลุกๆ แต่ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง ตอนที่ทำเรื่องนี้อยู่ในช่วงที่แม่ป่วยพอดี เลยอยากหาอะไรทำที่ซัพพอร์ตจิตใจ ดีใจที่เทศกาลชอบในหนังแนวของตั๊กค่ะ”

“ตั๊กไม่ได้คาดหวังเรื่องรางวัล แต่ถ้าได้ก็คือกำไร ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เคยพูดกับแม่ไว้คือจะทำให้เห็นว่าภาพยนตร์มันไปได้ไกลกว่านี้ ตอนที่แม่บอกกับตั๊กว่าทำไมไม่เล่นละครซึ่งมันได้เงินเยอะกว่า ทำไมต้องมาเหนื่อยกับหนังเพราะมันไม่ได้เงินอะไรเยอะเลย แต่ตั๊กกำลังบอกแม่ว่าตัวเรามีเป้าหมาย เพียงแต่ว่าเป้าหมายของเรามันช้า เมื่อก่อนเคยเอาโปสเตอร์เทศกาลหนังต่างๆ มาแปะดูตลอด แม่ก็พูดตลอดว่าฝันลมๆ แล้งๆ แต่เขาก็สนับสนุนนะคะ อย่างตอนที่ทำหนังเรื่อง “นางฟ้า” แม่ก็ไปคุยกับพี่อ้วน(รีเทิร์น) ให้ช่วยมาเป็นนายทุน แต่ขณะเดียวกันแม่ก็เตือนสติตั๊กด้วย ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้ว อยากให้แม่เห็นว่าตั๊กทำได้นะ”

“สิ่งหนึ่งที่ตั๊กทำได้ด้วยคือสามีตั๊ก(บุญชัย เบญรงคกุล) เชื่อมั่น สนับสนุน และให้กำลังใจตลอด เขาเป็นคนที่ไม่ซ้ำเติมตั๊กเลย แม้ทำพลาดมาหลายครั้งในเรื่องการลงทุนทำภาพยนตร์ เขาก็พูดกับตั๊กว่าสิ่งที่ตั๊กต้องรู้คือธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยเงิน เมื่อไหร่ที่เราไม่ประสบความสำเร็จเลยก็คงต้องเปลี่ยนเส้นทาง เขาเตือนสติให้ตั๊กรู้ว่าต้องทำอะไร ตั๊กเลยได้เรื่องของความเป็นศิลปินและความเป็นนักธุรกิจจากเขาด้วย ศิลปินอย่างเดียวก็ไม่รอด ธุรกิจอย่างเดียวก็ไม่ใช่ตัวตั๊กอีก ต้องเอาทั้งสองอย่างมาบาลานซ์กัน”

จากนี้ตั้งใจจะทำหนังปีละเรื่องเลยไหม?

ตั๊ก – “ตั๊กอาจเว้นช่วงหนังแต่ละเรื่องนานหน่อย เพราะยังไม่มีทีมที่เชื่อมั่นในตัวตั๊กเท่าไหร่ ด้วยความที่เป็นผู้กำกับฯ ใหม่ แต่คิดว่าเทศกาลนี้จะทำให้ตั๊กได้ทำงานสะดวกขึ้น”

คิดอย่างไรที่คนส่วนใหญ่จะเชื่อมั่นในผู้กำกับฯ ที่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง?

ตั๊ก – “ความเท่าเทียมเรื่องเพศมันมีปัญหากันทุกประเทศอยู่แล้ว ซึ่งตั๊กคิดว่าอะไร แบบนี้มันเป็นปัญหาโลกแตกที่รอวันแก้ไข ที่ผ่าน มาตั๊กก็บ่นเรื่องนี้มาพอแล้วล่ะ(หัวเราะ) แต่เมื่อไหร่ที่ทำได้และทำให้ทุกคนเห็น นั่นแหละความเชื่อมั่นมันจะมาเอง ซึ่งตั๊กก็ต้องพยายามทำให้ได้ค่ะ”

ฝากถึงคนที่ให้กำลังใจมาตลอด?

ตั๊ก- “ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเชื่อมั่นและให้กำลังใจ อย่างพี่ทองดีที่เอาหนังตั๊กไปเดินสายสมัครประกวดให้ก็เชื่อมั่นว่าหนังเราไปได้เขาถึงทำให้ เอ็มพิคเจอร์สก็เชื่อมั่นว่าหนังเราฉายได้ แต่มันเป็นหนังทางเลือก ตั๊กรับได้มั้ยถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้ ตั๊กบอกว่ารับได้แน่นอนเพราะแค่อยากให้หนังได้ฉาย จากนั้นเขาก็ฉายให้ ขอบคุณสามีที่ให้ความเชื่อมั่นมาตลอดและให้งบมาด้วย สัญญาว่าตั๊กจะคืนงบเขาค่ะ (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน