‘แอฟ’ ปัดทะเลาะ ‘สงกรานต์’ – วันที่ 12 มิ.ย. ที่ลานบีคอน 3 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ นางเอกหน้าหวาน ให้สัมภาษณ์ในงาน “ดีวานา : ออง ชอง เต้ ปาร์ เลอ โพเอม” ถึงเรื่องที่ถูกเพื่อนพิธีกรร่วมในรายการหนึ่งแกล้งให้พูดคำว่า “ผัว” ออกทีวี หลังจากตัวเองอ่านข่าวแล้วเปลี่ยนมาใช้คำว่า “สามี” แทน
ถามถึงเรื่องที่พิธีกรร่วมในรายการหนึ่ง แซวว่าเราไม่ยอมพูดคำว่า “ผัว” ?
“(ยิ้ม) ปกติก็โดนแหย่ โดนแกล้งประจำอยู่แล้วค่ะ ถือเป็นน้องใหม่ ประสบการณ์น้อยสุด จริงๆ แพท(ณปภา) ถือเป็นรุ่นพี่นะ เลยมีการรับน้องบ้าง น่ารักๆ ค่ะ ตลกดี ถามว่าวันนั้นทำไมถึงไม่กล้าพูดคำนี้ จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นว่ากล้าหรือไม่กล้าค่ะ แต่ว่าเป็นธรรมดา ถ้าเห็นเราจะเปลี่ยนคำไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้มานั่งคิดว่าไม่กล้าพูดหรืออะไรค่ะ คิดแต่ว่าเปลี่ยนคำแล้วก็อ่านไปเลย ไม่คิดว่าเพื่อนๆ จะเห็น(หัวเราะ)”
ตอนเขาแกล้งให้พูดคำนี้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง?
“(หัวเราะ) ขำค่ะ ส่วนที่คนแซวเยอะว่าพูดออกมาแล้วก็ยังดูผู้ดีและไม่แรงเลย เอาจริงๆ ก็อ่านตามข่าวนะ ไม่ได้พูดเอง”
จริงๆ เราจะพยายามเลี่ยงไม่พูดเลยใช่ไหม?
“ไม่เคยมีโอกาสพูดมากกว่าค่ะ”
โดยปกติคำแบบนี้จะไม่ได้พูดเลยใช่ไหม เราคิดว่ามันเป็นคำหยาบสำหรับเราหรือเปล่า?
“เปล่าค่ะ แต่แค่ไม่คุ้นเฉยๆ หลังจากนี้ถ้าต้องเจออีกในข่าวที่ต้องเล่าจะกล้าพูดมั้ย อันนี้เดี๋ยวลองดู อะไรที่ได้ก็เต็มที่ค่ะ”
มันทำให้เราต้องปรับตัวเยอะขึ้นไหม?
“ปรับตัวค่ะ ต้องปรับตัวหลายอย่าง อย่างภาษาก็เพิ่งรู้ว่าต้องมาเจออะไรแบบนี้ ซึ่งปกติจะไม่ได้เจอ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรค่ะ ขำๆ สนุกดี แต่จริงๆ ถามว่าเริ่มชินมั้ย มันก็เครียดน้อยลงค่ะ แต่ว่าแต่ละวันก็ดี บางวันก็ไม่ดี แล้วแต่เป็นวันๆ ไป เพราะบางครั้งเราก็คาดการณ์อะไรมากไม่ได้ บางวันเราก็เจอเรื่องที่เราสามารถแชร์ได้มากหน่อย บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราแชร์ได้น้อยค่ะ แล้วแต่วัน”
คิดไหมว่าจะพูดให้ทันพี่ๆ คนอื่นอย่างไร?
“ง่ายมากค่ะ คือยังไงก็ไม่ทัน(หัวเราะ) ในความรู้สึกเราไม่ได้คิดว่าสุดท้ายแล้วจะต้องพูดเร็ว คือจะให้พูดเร็วเท่าน้องแพทหรือว่าเร็วแบบอาตุ่ย คือเบสิกของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว อยู่ๆ เราจะมามุขเยอะ ความสามารถล้ำเหมือนอาตุ่ยก็คงไม่ใช่ คงเป็นแนวเรา แต่แค่อยากรู้สึกว่าเมื่อไหร่อยากแชร์เรื่องอะไรก็อยากทำให้เต็มที่ คือไม่คิดว่าต้องพูดให้ทัน แต่เพียงว่าในส่วนของเรา เราอยากจะทำให้ดีที่สุด อยากแชร์อะไรก็อยากจะได้แชร์นะ อยากพูดบ้าง อยากแชร์สิ่งดีๆ เผื่อเป็นประโยชน์ให้กับสังคมบ้าง(ยิ้ม)”
ได้ลองทำงานพิธีกรแล้วเรารู้สึกอย่างไรบ้าง โอเคไหม?
“อืม โอเคไหม ต้องถามคนดูค่ะว่าคนดูโอเคไหม แต่ฟีดแบ็กก็ดีนะคะ มีคนให้กำลังใจเยอะค่ะ มันก็ยังคงความเป็นเราในมุมมองที่เปลี่ยนไปบ้างจากการเล่นละคร แต่ช่วงแรกๆ มันก็เครียดค่ะ ด้วยความใหม่และความตื่นเต้น แต่ช่วงหลังไม่เครียดแล้วค่ะ เรารู้ว่าบางวันมันก็ธรรมดา ซึ่งบางวันเราทำได้ดีหน่อย บางวันก็เฉยๆ ค่ะ”
มีอะไรที่เราต้องปรับมากที่สุด?
“คงเป็นลักษณะของการแชร์ข่าวค่ะ เพราะว่าปกติจะชินกับการที่พี่ๆ น้องๆ นักข่าวถาม แล้วเราก็ตอบ แต่อันนั้นมันเป็นจังหวะที่ไม่มีใครถามคุณนะ คุณต้องหาจังหวะแล้วอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาเอง มันไม่ได้เกิดจากคำถาม ต้องกล้าที่จะแสดงความเห็นนิดหนึ่ง”
ถามถึงที่ ‘สงกรานต์ เตชะณรงค์’ ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง แล้วคนตีความไปว่าเราทะเลาะกันบ่อยเรื่องการเลี้ยงลูก?
“ตีกับลูกหรือตีกับคุณสงกรานต์ ถ้าตีกับลูกตีตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ(หัวเราะ) คือถ้าให้แอฟเดานะคะ เขาน่าจะพูดเล่นให้บรรยากาศมันสนุกมากกว่า เพราะปกติเราแทบไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีโอกาสได้ตีกันหรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้คุยกัน”
แนวทางการเลี้ยงลูกของเราสองคนต่างกันไหม?
“ต่างอยู่แล้วค่ะ แต่อันนี้แอฟต้องยืนยันก่อนว่าเราไม่ได้ตีกัน เพราะเราไม่ได้คุยกันอย่างที่บอก บวกกับพื้นฐานของคุณสงกรานต์ เขาไม่ได้จะต้องมานั่งตกลงกันอยู่แล้วว่าจะเลี้ยงลูกแนวไหน ถ้าหากจะทำก็ทำเลย”
เวลาที่สงกรานต์เอาน้องไปเลี้ยง เราจะต้องมีข้อกำหนดหรือตกลงอะไรกันก่อนไหม?
“หลักๆ จะขอแค่ถ้าหากเป็นวันธรรมดาอยากให้ส่งน้องกลับบ้านเร็วๆ เพราะน้องต้องไปโรงเรียน ดังนั้นถ้าหากน้องเขานอนไม่พอ เช้าวันรุ่งขึ้นจะเป็นปัญหากับแอฟมาก ซึ่งแอฟไม่อยากจะบังคับลูกไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่เขายังง่วงนอนอยู่ อยากให้ลูกไปโรงเรียนอย่างมีความสุข แอฟเลยต้องขอให้คุณสงกรานต์เขาช่วยส่งลูกกลับบ้านเร็วๆ แต่ถ้าหากเป็นช่วงวันศุกร์หรือวันเสาร์ก็ตามสบายเลย”
สงกรานต์เขาได้มาคุยกับเราบ้างไหม หลังจากที่ไปออกรายการและคนตีความไปอย่างนั้น?
“ไม่มีค่ะ อย่างที่บอกเราไม่ได้คุยกัน ซึ่งการไม่ได้คุยกันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเราไม่ติดต่อกันนะคะ เรายังติดต่อกันอยู่ในเรื่องของการรับส่งลูก แต่เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นไม่ได้คุยกันค่ะ”
เวลาที่คุณสงกรานต์เขาพาน้องไปทำกิจกรรมลุยๆ ส่วนตัวเราโอเคไหม?
“แล้วแต่กิจกรรมค่ะ ถ้าหากอายุเขาถึงตามสถานที่นั้นๆ แอฟก็โอเค แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีกิจกรรมที่แอฟไม่โอเคนะ”
เขาต้องรายงานเราก่อนไหมว่าวันนี้จะต้องพาน้องไปทำอะไรบ้าง?
“รายงานเลยเหรอ(หัวเราะ) ไม่มีค่ะ มีแต่แอฟถามมากกว่า ซึ่งแอฟจะถามเขาเป็นบางครั้งว่าทำอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้แพลนตารางตัวเองถูก หรือถ้าหากน้องไม่สบายอยู่เราก็จะต้องถามให้รู้ไว้ เพราะไม่อยากให้เขาไปแพร่เชื้อหรือติดเชื้อเพิ่ม คือตามมุมมองของแม่เนอะ”
ระหว่างเรากับสงกรานต์ไม่ได้คุยกันนานแค่ไหนแล้ว?
“คืออย่างที่บอกคุยกันทุกอาทิตย์ เพราะเขาต้องมารับลูกทุกอาทิตย์ คือวันไหน กี่โมง แต่ก็แค่นั้นค่ะ”
ทุกวันนี้สเตตัสที่เป็นอยู่ถือว่าลงตัวแล้วหรือเปล่า
“ก็มันนานแล้วนะคะ ปีกว่า ปีครึ่ง”
จะมีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนสถานะไปอีกไหม หรือจะมีการตกลงอีกรอบหรือเปล่า?
“ทุกอย่างตอนนี้ยังเหมือนเดิมค่ะ แอฟยังรอเหมือนเดิม เขาก็ยังไม่ได้เข้ามาอะไร คือถ้าเร่งแล้วได้ผล ก็อยากจะเร่งค่ะ(ยิ้ม)”