เปิดใจ ‘ตุ๊ยตุ่ย’ – เพราะความหูเบาของตัวเองที่คิดว่าคนอื่นไม่ดีไปหมด ทำให้ “ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด” พิธีกร และนักแสดงสาวอารมณ์ดีเกือบเสียคนดีรอบตัวไป อย่างเพื่อนซี้ ส้ม ณัชพร ที่เอ่ยขออโหสิกรรมกันกลางรายการ

หนิง-ตุ๊ยตุ่ย-เบนซ์

ล่าสุดออกมาเปิดเผยชีวิตสุดติสต์แตกของตัวเอง หลังทิ้งวงการหายหน้าหายตาไป 3 ปีเต็ม ผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่องวัน 31 โดยมีหนิง ปณิตา และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร พร้อมเผยว่า ตอนนี้มุมมองความรักตัวเองเปลี่ยนไป จากเคยมีแฟนเป็นผู้ชายตอนนี้หันมาคบหญิงด้วยกัน เพราะมองลึกเข้าไปข้างในมากกว่าภายนอก

จู่ๆ ก็หายไปจากวงการบันเทิง หลายคนบอกว่าติสต์แตก ?
“เป็นความเชื่อที่ผิดมากกว่า ไม่มีวิจารณญาณ ไม่มีตรงกลาง ไม่ตรวจสอบ ตรวจทานตัวเองมันใช่ มันถูกหรือเปล่า ไม่สังเกตคนรอบข้างว่าเขาอยากจะเตือนเรา พอถึงเวลานึงอาก็เปลี่ยนไป หายหัวไปเลย คือมองว่าตัวเราดี พรรคพวกของเรานั้นดี คนอื่นทำอะไรก็ไม่ถูกไม่ควร เรานึกว่าตัวเราดีเอง”

ไม่มีใครกล้าติเรา ?
“ตอนนั้นไม่มีใครกล้าติเรา มันเกิดจากความหลงผิด ถ้าเราดีจริงๆ ก็ไม่ติเตียนคนอื่น ถ้าเราดีนักเราต้องเข้าใจคนอื่น อาสามารถตัดสินคนอื่นได้ด้วยคำพูดของใครก็ตามที่เราหลง เหมือนเราไม่มีวิจารณญาณ”

เห็นว่าแม่ส้ม (ส้ม ณัชพร เจ้าของรายการ) ก็โดนอาตัดสินด้วยหรอ
“โอ๊ย ส้มนี่ชั่วช้าเลย คือเจ้าตัวหรือคนบางคน เขายังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นที่ชังของอา เอาจริงๆ พอจะมารายการนี้ เราก็คุยข้อมูลกับครีเอทีฟแล้ว เราก็นึกได้ว่าเคยตัดสินส้มไว้ด้วยว่าส้มมันเลว แต่เราก็นึกไม่ออกที่ไปตัดสินเขา คือ ณ ขณะนั้นเราฟังอะไรเยอะแยะว่าส้มไม่ดี เราเลยตัดสินเลย เราขี้เกียจมาสืบด้วย เหมือนกับว่าเราฟังคนกล่าวถึงแบนนั้น แบบนี้ เรารีบเชื่อ รีบตัดสิน”

รู้สึกยังไงที่อาตัดสินเราไปเรียบร้อยแล้ว
ส้ม : งง คือจริงๆ พอครีเอทีฟเขาคุยข้อมูลแล้วรู้เรื่องนี้มา เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตุ่ยคิดแบบนั้น แล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่าตุ่ยจะคิดไม่ดีกับเรา

อาตุ่ย : กรรมทั้งหลายกาย วาจา ใจ กรรมที่น่าติเตียนทั้งสิ้น ที่มีต่อเพื่อนโดยที่เพื่อนไม่รู้ตัว เกิดจากที่เรารับฟังแล้วก็เชื่อคนอื่นแล้วตัดสิน คุณอาจจะคิดว่าคุณฉลาด ดีพร้อม วันหนึ่งคุณอาจจะคิดว่าคุณหลงอะไรมากๆ หรือศรัทธาใดๆ คุณต้องรู้จักมีวิจารณญาณ คุณต้องใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์มาตรวจสอบอันนั้นด้วย มิฉะนั้นคุณจะเสียอะไรหลายๆ อย่าง คืออย่างอา อาไม่มีอินเนอร์เลยว่าส้มเขาทำอะไร รู้แต่ว่าเค้าไม่ดีก็คือไม่ดี

ส้ม : นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ยินว่าเขาไม่ได้มีเรื่องกับเราโดยตรง เพราะในชีวิตเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วอยู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่ชอบขี้หน้าเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว

อาตุ่ย : ในอดีตเคยคิดว่าส้มเจ๋ง สามารถเลี้ยงลูกผู้อื่นเสมือนลูกตน วันใดต้องปล่อยก็ปล่อยเป็น คือเรารู้สึกรักแล้วก็ศรัทธามันมาก เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ

เปิดใจ 'ตุ๊ยตุ่ย'

ขออโหสิกรรมเพื่อนซี้

วันนี้อยู่ด้วยกันตรงนี้มีอะไรอยากจะบอกกันมั้ย
อาตุ่ย : แม้ว่าเอ็งไม่เคยรู้ใดๆ ว่าข้าเคยคิดไม่ดีใดๆ ซึ่งดีแล้วมันก็บริสุทธิ์อยู่ในนั้น ใจที่มันแปดเปื้อนคือใจของฉันที่คิดไม่ดีต่อเธอ ฟังคำผู้อื่นที่คิดไม่ดีมากกว่าความดีของเธอได้อย่างไร ในขณะนั้นฉันเป็นได้อย่างไร กรรมใดๆ ที่น่าติเตียน ทั้งความคิด การกระทำ คำพูด ที่อาเคยทำต่อส้ม อาต้องกราบขอขมาส้มด้วย ขอให้เพื่อนอโหสิกรรมต่อเพื่อนด้วยค่ะ

ส้ม : สำหรับเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นกรรมอะไรยิ่งใหญ่เลย เราดีใจที่ตุ่ยกลับมาเป็นตุ่ยเพื่อนเราคนเดิม

อารมณ์ไหนที่อยู่ดีๆ ก็คลายจากตรงนั้นได้
“มันมีความเอ๊ะบางอย่าง อาว่าอาอาจจะหมดเวรหมดกรรมด้วยแหละ ในช่วงที่เราคลั่งๆ อยู่เนี่ย มันก็เอ๊ะนิดนึงว่าคนเราจะไม่ชอบคนอะไรเยอะแยะไปหมด แต่พอมันมีมากคนเข้า เราก็รู้สึกว่าเราเริ่มตรวจสอบ แล้วถ้าเราอยู่ตรงนี้อีกจะเป็นยังไง เราก็เลยถอยออกมานิดนึง มองในแง่ดีของคนอื่นบ้าง มองคนอื่นด้วยความรัก ความเมตตาจริงๆ บ้าง”

แล้วตอนนี้อายังติดต่อกับกลุ่มเพื่อนอาที่ทำให้เรารักและศรัทธาอยู่มั้ย ?
“ไม่เลยค่ะ รู้สึกว่าใครจะทำอะไรให้เกิดขึ้น ถ้าเราเป็นคนมั่นคงหนักแน่นแต่แรก เราก็จะไม่มีความเสียหายของหัวใจเกิดขึ้น ความเชื่อที่ผิดมันก็ทำให้เรากระทำที่ผิด มันทำให้เราสูญเสียเพื่อนบางคน แต่บางคนเขาโดนเราทำไม่ดีต่อเขาไปอีก เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่ดี แล้วเราก็สนิทด้วย แล้วคนคนนั้นเขาก็รักในตัวเรามาก แล้วพอเขาโดนอะไรแบบนี้ เขาก็จะเจ็บปวดใจมาก”

เห็นว่าไปไหว้พระขอพรด้วย ?
“คือที่หลุดมาได้ส่วนนึงเพราะอาจจะสิ้นเวรสิ้นกรรมด้วย แล้วก็อธิษฐานว่าสิ่งใดที่เป็นมิจฉา ความผิด คนไม่ดีได้โปรดแสดงตัวตนออกมาด้วย เราก็คิดว่าคนที่เราไม่ชอบเขา เขาจะแสดงตัวตนออกมา ปรากฏว่าสิ่งที่เหมือนดีก็แสดงให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีดีจริงๆ นั่นแหละ”

ประเด็นเรื่องความรักได้ข่าวว่ามีแฟนคนล่าสุด ไม่ใช่ผู้ชายแล้วก็ไม่ใช่ทอม ใครจีบใครก่อน ?
“เริ่มมากจากเพื่อนกัน อยู่ด้วยกันได้ ทำอะไรด้วยกันได้คือผู้หญิงอยู่กับผู้หญิงมันดี เรารักคนที่ข้างในมองข้ามภาพภายนอกของเค้าไป”

เปลี่ยนจากชายมาเป็นหญิงแตกต่างกันยังไง ?
เราไม่ได้รู้สึกอะไร พอมีแฟนเป็นผู้ชายบางทีก็รู้สึกอึดอัด พอเป็นผู้หญิงมันมีความรู้สึกกลมกลืน คือคนนี้เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอา แล้วเจอกันในกลุ่มมานาน เรารู้สึกว่าเขาใจดี รู้สึกว่าเขาเป็นพลังบวก มุมมองความรักเราก็เปลี่ยนไปด้วยวัย ด้วยเวลาต่างๆ ทุกอย่างมันเปลี่ยนได้เสมอ

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ล้วงลึก “ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด” https://www.youtube.com/watch?v=wVA9f00yCHo&feature=youtu.be

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน