สาวแกร่งแห่งปี แมวเก้าชีวิต ‘แพท-ณปภา’
แมวเก้าชีวิต ‘แพท-ณปภา’ – เป็นสาวฮอตที่มีกระแสข่าวได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปีจอที่ผ่านมา สำหรับดาราสาวสุด สตรอง ‘แพท’ณปภา ตันตระกูล แต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวดี ข่าวร้าย สาว แพทสามารถรับมือได้หมด และถึงจะเจอมรสุมที่ถาโถม ทว่าสาวแกร่งคนนี้ก็ยังมองว่าเรื่องที่เกิด ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ดี
เปิดศักราชใหม่รับปีหมู เปิดด้วยทัศนคติและมุมมองดีๆ ของสาวตัวเล็กแต่ใจใหญ่คนนี้กัน
ภาพรวมชีวิตในปีที่ผ่านมา (2561) เป็นยังไงบ้าง ?
แพท – “ถือเป็นปีที่ดีกับตัวเองนะคะ แม้จะเจอหลายเรื่องที่เข้ามา ยอมรับว่าหนักอยู่ จะว่าไปมันก็หนักมาตั้งแต่ปี 2560 แล้ว ตั้งแต่เรื่องพี่เบนซ์ (อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช) มามันก็ผ่านไปได้เรื่อยๆ จนถึงปีนี้อย่างที่เห็นกัน รวมถึงเรื่องของคุณพ่อซึ่งเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว แพทแค่ออกมาพูดเฉยๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติเขา แต่ทุกเรื่องก็ผ่านไปได้ นอกจากนี้ก็ชีวิตดี งานดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคะแนนเต็ม 10 แพทก็ให้คะแนนชีวิตตัวเองเต็ม 10 นะคะ ด้วยความที่มองทุกอย่างเป็นบวกอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะไปมองว่ามันไม่ดีตรงไหน ในเมื่องานก็มีทำ เงินก็มีใช้ ลูกก็น่ารัก ครอบครัวก็ดี เพื่อนก็ดี ทุกอย่างคือมันดีไปหมด แพทว่าอะไรก็ตามถ้าเรามองว่ามันดีมันก็จะดีค่ะ”
เรื่องที่ทำให้เสียใจและดีใจที่สุด?
แพท – “เรื่องที่เสียใจที่สุดบอกเลยไม่มี เพราะไม่ได้มีการสูญเสียอะไรเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา โอเคบางเรื่องอาจมีผลต่อความรู้สึกบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตาที่ไหลส่วนใหญ่เป็นน้ำตาแห่งความสุขหรือตื้นตัน ฉะนั้นเรื่องที่ทำให้แพทดีใจมากที่สุดก็ไม่มีเหมือนกัน ในทุกเรื่องดีๆ ที่เข้ามาสำหรับแพทคือทำให้ดีใจและมีความสุขทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ อีกอย่างแพทไม่ได้เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร แต่เทียบเอาจากความรู้สึกของตัวเองนี่แหละค่ะ”
แพลนในปีนี้?
แพท – “ยังไม่มีแพลนอะไรเลย แค่หวังว่าอยากมีงานให้ทำแบบนี้ทุกปีทุกวัน อยากมีเวลาให้ลูก สามารถพาลูกไปโรงเรียนและทำกิจกรรมกับลูกได้ แค่นี้พอแล้ว คงเพราะแพทเป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน วันนี้ได้เท่านี้ก็คือโอเคดีแล้ว หรือถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ค่อยเอาใหม่”
รู้สึกอย่างไรที่คนมองว่าชีวิตของแพทยิ่งกว่า…แมวเก้าชีวิต?
แพท – “ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน อย่างบางเรื่องที่เจอ ถ้าเป็นเรื่องจริงแพทว่าสังคมก็คงไม่ให้อภัยหรอก แต่เผอิญว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับแพทนี่ แล้วทำไมแพทต้องมารับอะไรตรงนี้ แค่นี้ก็หนักแล้วนะ ในทางกลับกัน ถ้ามันเกิดเป็นเรื่องจริงแล้วแพทไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แบบนั้นสังคมก็ไม่ให้อภัยหรอก แต่ที่ทุกอย่างมันผ่านมาได้เพราะมันมีเหตุและผล สังคมฟังแล้วเข้าใจ ไม่ได้ให้อภัยหรือเป็นกำลังใจส่งๆ”
คิดว่าอะไรที่ทำให้ชื่อ ‘แพท-ณปภา’ ยังอยู่ในวงการมาได้จนถึงทุกวันนี้?
แพท – “(หัวเราะ) หมายถึงว่าทำไมยังอยู่มาได้นานใช่มั้ย โชคดีที่ชื่อของตัวเองไม่ได้หายไปไหน จะมีอยู่ช่วงหนึ่งหลายปีก่อนหน้านี้ที่หลายคนรู้สึกว่าแพทหายไป ในคำว่าหายจริงๆ แล้วไม่ได้หายหรอก แค่บางทีละครยังไม่ออกอากาศ บวกกับตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานพิธีกร คนเลยไม่ค่อยเห็นหน้า พูดง่ายๆ ก็เหมือนดาราทั่วไปที่ว่าไปถ่ายละครซึ่งเรื่องนึงใช้เวลา 7-8 เดือน แล้วก็ยังไม่ได้มีละครออกอากาศ ส่วนละครที่ถ่ายไว้ก็ยังเป็นสต๊อก แล้วพอจะออกอากาศก็มาทีเดียวพร้อมกันหลายเรื่อง แต่ช่วงหลังที่รู้สึกว่าเห็นหน้าแพทบ่อย เพราะแพทเป็นฟรีแลนซ์ สามารถไปทุกช่องได้ก็แค่นั้นเอง อย่างปีนี้ (2562) ต้นๆ ปีละครออกอากาศ 2 เรื่อง คนก็จะตกใจอีกว่าเห็นทำงานเยอะแยะยังเอาเวลาที่ไหนไปถ่ายละครได้อีก ต้องอธิบายให้ฟังว่าเรื่องนึงถ่ายไว้นานมากเกือบ 2 ปีแล้ว ส่วนอีกเรื่องเพิ่งจะปิดกล้องไป แต่มันดันมาออกไล่ๆ กันเท่านั้นเอง”
คนชินภาพการเป็นพิธีกรมากกว่านักแสดงไปแล้ว ปี 2562 จะได้เห็นภาพการเป็นนักแสดงมากขึ้นไหม?
แพท – “ณ ตอนนี้น่าจะใช่แบบนั้น ภาพพิธีกรหรืองานรายการต่างๆ ชัดกว่า ส่วนละครเรื่องใหม่ที่จะต้องถ่ายทำปีนี้ยังไม่มี มีติดต่อเข้ามาแต่ยังไม่ได้รับ จริงๆ งานพิธีกรมันเวิร์กกับคนที่เป็นแม่ เวลาถ่ายละครเรื่องหนึ่งต้องเสียเวลาไปกับการอยู่กองทั้งวัน แต่งานพิธีกรยิ่งถ้าเป็นรายการสดหนึ่งชั่วโมง มันสามารถทำให้เราจัดการเวลาของตัวเองในแต่ละวันได้ และสามารถไปทำอะไรต่อหลังจากนั้นได้อีกตั้งเยอะ”
ปีที่ผ่านมา (2561) เห็นแพททำงานในแต่ละวันแล้วเหมือนร้อนเงิน ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?
แพท – “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ส่วนตัวชอบและสนุกกับการทำงาน แพทไม่ได้มีเงินเหลือมากมายขนาดที่จะทำงาน ชิลชิลได้ หรือไม่ได้ดังขนาดที่จะรออีเวนต์เข้ามา 1-2 ตัวแล้วอยู่ได้อีกหลายปี ฉะนั้นแพทต้องทำหมด เก็บเล็กผสมน้อย ห้าพัน หมื่นนึง หมื่นห้า แพทก็ไปแล้ว ไม่ปล่อยเวลาสูญเปล่า ค่อยๆ เก็บเดี๋ยวก็ได้เป็นก้อนใหญ่ ทำงานเก็บเงินทุกวันนี้ก็เพื่อลูก แพทมีค่าใช้จ่ายเยอะ ภาระที่บ้านคือแพทคนเดียว ยิ่งตอนนี้มีลูกด้วย ซึ่งพี่เบนซ์ไม่ได้รับผิดชอบทั้งหมด นั่นแปลว่าเราสองคนต้องช่วยกันในส่วนของลูก รวมถึงช่วยเลี้ยงลูก แล้วหน้าที่หลักๆ คือแพท”
ข้ามปีแล้วสถานการณ์ความสัมพันธ์ของแพท กับพี่เบนซ์เป็นยังไงบ้าง?
แพท – “โอเคขึ้น ตอนนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆ ช่วยกันดูแลลูก คือเราสองคนไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้แค่ช่วยกันเลี้ยงลูกเฉยๆ แต่เวลาที่พี่เบนซ์มีอะไรเขาก็จะมาปรึกษาก่อนแทบทุกเรื่อง เพียงแต่อาจจะไม่ได้คุยกันตลอดเหมือนคนอื่นหรือคู่สามีภรรยาทั่วไป แต่เราคุยกันเหมือนเพื่อน พี่เบนซ์ยังให้ความไว้วางใจกับแพทที่หนึ่ง บางทีเขารู้สึกเฟลกับเพื่อนก็มาเล่าให้ฟัง เลยรู้สึกว่าถ้าพี่เบนซ์แฮปปี้แบบนี้แพทก็แฮปปี้ ทุกวันนี้ไม่ได้ทำหน้าที่สามีภรรยา แต่ทำหน้าที่ของพ่อกับแม่ไปเองโดยที่พี่เบนซ์ก็ไม่ได้ให้คำตอบ แต่ แพทก็รู้สึกว่าพี่เบนซ์เขาไม่ได้ปฏิเสธ นั่นก็แปลว่าเป็นคำตอบจากเขานั่นแหละ แต่เขาแค่ขี้เกียจพูดมากกว่า ซึ่งที่เป็นอยู่แบบนี้เขาก็สบายใจขึ้นด้วยมากกว่าที่จะมานั่งตอบว่าจะมาเป็นอะไรยังไง คือเหมือนให้เข้าใจไปอย่างนี้แหละ โดยที่เขาไม่ต้องพูด”
พี่เบนซ์ยังไม่เคลียร์ แต่แพทเคลียร์ใช่ไหม?
แพท – “เคลียร์ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องมานั่งรอแล้วว่าเดี๋ยวความเป็นครอบครัวอาจจะกลับมา ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะแพทรอคำตอบทำให้ตัวเขารู้สึกกดดัน ฉะนั้นก็ไม่ต้องรอ ไม่ต้องมีคำถาม และไม่ต้องมีคำตอบ แพทสรุปให้เลยว่าตอนนี้หน้าที่ที่แพททำอยู่คือแม่ของเรซซิ่ง ซึ่งก็คือหน้าที่ที่เป็นมาตั้งแต่แรกและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ส่วนหน้าที่อื่นเพิ่มเติมตอนนี้ยังไม่มี”
สมมติในอนาคตถ้าเกิดมีผู้ชายเข้ามาล่ะจะทำยังไง?
แพท – “ส่วนตัวคงยังเปิดใจไม่ได้ค่ะ โอเคที่ตอบไปว่ามันเคลียร์ มันคือเคลียร์ในเรื่องความรู้สึก แต่ความจริงก็ยังค้างคาอยู่ ฉะนั้นการที่ใครจะเข้ามามันยังไม่ใช่เวลา อีกอย่างแพทยังแฮปปี้กับการทำงาน เลี้ยงลูก อยู่กับลูก พาลูกไปเที่ยว ณ ตอนนี้อยู่แบบนี้ก็แฮปปี้ดี ไม่ต้องมีแฟนก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)”
เรซซิ่ง…กลายเป็นขวัญใจของใครหลายคนไปแล้ว?
แพท – “เขาน่ารักนะคะ ในฐานะของคนเป็นแม่รู้สึกว่าโชคดี จะมีเด็กสักกี่คนที่เกิดมาแล้วมีคนมากดไลก์เยอะแยะขนาดนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าแพทอยากให้ลูกโดนคนกดไลก์เยอะๆ นะ แค่รู้สึกดีใจแทนเรซซิ่งว่าเอ็งจะรู้มั้ยว่ามีคนรักเอ็งมากมายขนาดนี้ กลายเป็นว่าตอนนี้แพทไม่ต้องลงรูปตัวเองในไอจีก็ได้ แต่ไม่ลงเรซซิ่งไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะมีคนเข้ามาคอมเมนต์ถามหา แพทเองเวลาที่ได้อยู่กับลูกมีความสุขมาก ทำให้สามารถผ่านช่วงต่างๆ ไปได้ ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตทุกอย่างสำหรับแพทมันดูเป็นเรื่องเล็กไปหมด เพราะจุดโฟกัสมันเปลี่ยนไป ทุกอย่างไปอยู่ที่ลูก และก็คิดแค่ว่าอยากให้เขามีความสุขที่สุด เรซซิ่งคือความโชคดีของทั้งแพทและพี่เบนซ์เลยค่ะ”
เรซซิ่งเป็นอะไรในชีวิตแพท?
แพท – “เรซซิ่งเป็นกล่องของขวัญที่มีทุกอย่างอยู่ในนั้น ทั้งกำลังใจ พลังงาน และแสงสว่างที่ส่องให้แพทรู้ว่าข้างหน้าจะต้องทำอะไรบ้างค่ะ”
ถ้ามีพร 3 ข้ออยากขออะไรบ้าง?
แพท – “ข้อแรก ขอให้คุณแม่หมายถึงคุณย่าอะค่ะ กลับมาเดินได้ แข็งแรง และรู้เรื่องทุกอย่าง ข้อสอง อยากให้เรซซิ่งโตมาอย่างมั่นคง ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีที่เลี้ยงดูทุกคนได้ไปเลย และข้อสาม อยากให้สุขภาพของตัวเองแข็งแรงเพื่อจะอยู่จนวันที่เห็นเรซซิ่งประสบความสำเร็จ”
ปีนี้ปีกุน เช็กดวงไว้ล่วงหน้าไหมว่าจะมีอะไรเข้ามาในชีวิตอีกหรือเปล่า?
แพท – “พอจะเช็กอยู่บ้างค่ะ ปีนี้ปีหมู ธาตุดิน ส่วนแพทเกิดปีเสือ ซึ่งหมูกับเสือเป็นคู่มิตรกันอยู่แล้วเลยไม่ห่วงอะไร ถามว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ มั้ย คงไม่ขนาดนั้น เพราะมันก็ต้องขึ้นอยู่กับราศีด้วย บางคนเกิดปีเสือเหมือนกัน แต่ตกอยู่ในลัคนาราศีที่ราหูเล็งดาวอยู่พอดี ฉะนั้นไม่ได้หมาย ความว่าพอปีหน้าไม่ชงแล้วทุกอย่างจะดีไปหมด ถ้าเกิดราหูย้ายแล้วมาเล็งลัคนาเราพอดี ต้องไปดูอีกว่าอยู่ในเรือนอะไร ปีหน้าเท่าที่แพทเช็กดวงมาค่อนข้าง กลางๆ หมายความว่า 4 เดือนดี อีก 4 เดือนตก แต่ไม่ใช่ตกแบบเละเทะนะ แค่อาจจะไม่ได้ดีเท่า 4 แรก ซึ่งมันสลับๆ วนไปแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะยังไง แพทก็พร้อมจะรับและสู้ไปกับทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ”
ปีกุนคือปีหมู คิดว่าตัวเองเป็นหมูอะไร?
แพท – “หมูสามชั้นค่ะ (หัวเราะ) คือเป็นหมูที่หลายคนชอบบอกว่าไม่อยากกินๆ แต่ความจริงที่ไม่อยากกินเพราะกลัวอ้วน ซึ่งถ้าเขาได้ลองก็จะรู้สึกว่าอู้ย…ต้องโดนอะ ต้องซ้ำอะ หมูสามชั้นของแพทคือรับโชคสามชั้น งานสามชั้น ทองสามชั้น เงินสามชั้น ทุกอย่างที่เป็นเรื่องดีๆ ในปี 2562 ก็ขอให้ได้แบบสามชั้นค่ะ (หัวเราะ) รวมถึงทุกคนด้วยนะคะ ขอให้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดี ทำอะไรประสบความสำเร็จ เดินทางไปไหนก็ปลอดภัย มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่นกันทุกคน สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
