อยู่นิ่งไม่ได้ โย่ง อาร์มแชร์ เป็นทั้งเชฟ-นักกีฬา ยังเดินหน้าปั๊มลูก ลุ้นมีข่าวดีปีนี้

วันที่ 19 เม.ย. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ มาร่วมงานแถลงข่าวการเปิดตัว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เปิดคอร์สเรียนใหม่ Advanced Culinary Management Program จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องหันมาตั้งใจมุ่งมั่นเรื่องเรียนการทำอาหาร และเรื่องมีโอกาสเข้าคัดเลือกเป็นนักกีฬาโปโลทีมชาติไทย รวมถึงแพลนเตรียมมีทายาท

โดย โย่ง เผยว่า “ก็จริงๆ ผมชอบทำอาหารอยู่แล้วครับ ก็เลยอยากเรียนให้มันถึงที่สุด ผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วชอบลงลึก คิดว่าทำอาหารทานเอง ให้ภรรยา หรือทำให้คุณแม่มันไม่พอแล้ว ผมก็เลยเริ่มเรียนมาสัก 2 ปีแล้วครับ”

ที่เรียนจริงจังคือมีโปรเจ็กต์เปิดร้านหรือเปล่า ?
“ก็มีธุรกิจที่กำลังทำอยู่ เป็นธุรกิจสตูดิโอ เป็นพื้นที่ทำอาหารร่วมกัน ที่บ้านผมเองก็มีโต๊ะทำอาหาร อาจจะพิเศษให้เปิดจองครับ”

เป็นธุรกิจอาหารประเภทไหน ?
“ปกติบ้านคุณก้อยเขาทำธุรกิจอาหารอยู่แล้ว แต่อยู่ที่จ.เชียงใหม่ และส่วนตัวผมชอบอาหารเหนือ และชอบเทคนิกแบบฝรั่งเศส ก็คิดว่าจะเอาภูมิปัญญาดั้งเดิมที่มีอยู่มาผสมกัน อาจจะเป็นฟิวชั่นกันให้มันมีอะไรใหม่ขึ้นมาด้วยครับ”

ดูคอร์สเรียนทำอะไรต่อเนื่องไว้ไหม ?
“มีครับ ดูเป็นคอร์สสำหรับผู้ประกอบการครับ น่าสนใจเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เรียนเป็นอาหารคาว เป็นอาหารฝรั่งเศส และเดี๋ยวจะเพิ่มทำขนม เพราะว่าจะมีรายการเกี่ยวกับทำขนม ผมจะต้องไปเป็นผู้จัดการทีมด้วยครับ ก็ขอศึกษาเพิ่มขึ้นหน่อย ถามว่าแบ่งเวลาอย่างไร ผมทำหลายอย่างครับ แต่คุณก้อยคอยดูให้ เขาเป็นผู้จัดการผม ส่วนเรียนทำอาหารส่วนใหญ่จะเรียนวันเสาร์ครับ”

ตอนที่แนะนำตัวเราเป็นทั้งนักแสดงและนักกีฬาด้วยเหรอ ?
“ทำอะไรเยอะแยะเลยใช่ไหม(หัวเราะ) ความชอบเยอะครับ แล้วรู้สึกว่าเราพอมีเวลาว่าง ไม่อยากอยู่เฉยๆ ก็เพิ่มสกิลให้ตัวเองไปเรื่อยๆ ผมเป็นนักกีฬาของสมาคมโปโลแห่งประเทศไทย ปีนี้จะมีคัดทีมชาติเหมือน ปีที่แล้ว แต่ปีที่แล้วมีหลายอย่างที่ทำให้ไม่ได้ไปคัด ปีนี้ถ้าทุกอย่างลงตัว ก็จะต้องไปคัดตัวครับ มีซ้อมแข่งเรื่อยๆ ที่คลับอยู่แล้ว ครั้งนี้มีแข่งซีเกมส์ ก็ต้องลุ้นดูว่าจะติดทีมชาติ ได้ไปแข่งกับเขาหรือเปล่า”

เรื่องแพลนจะมีทายาทตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ?
“ก็พยายามกันอยู่ ที่ผ่านมาก็มีปรึกษาคุณหมอแล้ว ได้ไปเจอคุณหมอที่ใจดีมาก เรารู้สึกแฮปปี้มากที่ได้ไปปรึกษากับเขา ในเส้นทางที่เราไม่เคยทำ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอน คือผมเคยโพสต์ไว้ครั้งนึงว่าคุณก้อยเขาต้องฉีดฮอร์โมนเพื่อทำการกระตุ้นไข่ ตอนนี้เขาก็จะอายๆ ไม่ค่อยออกกล้องเท่าไหร่ เขากลัวว่าจะดูอ้วนครับ ก็คืออยู่ขั้นตอนนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อตอนปีใหม่ก็เกือบแล้ว แต่ก็ต้องลุ้นต่อ เพราะขั้นตอนแบบนี้มันเป็นเทคโนโลยีที่เราคาดเดาไม่ได้เหมือนกัน ต้องดูปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องของสภาพร่างกาย เวลา ความเครียดก็มีผล ตอนนี้ก็ลุ้นกันต่อไป และก็พยายามดูแลให้ดีที่สุด และเจอคุณหมอบ่อยขึ้น หลายคนอยากให้มีปีนี้ เพราะปีนี้เป็นปีหมูทอง และหลายคนก็มี ผมก็อิจฉามากเลย ก็ฝันอยู่ว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของเราสักที คิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ภายในปีนี้ก็น่าจะได้ฟังข่าวดีกันแล้วครับ”

ให้กำลังใจกันอย่างไรบ้าง ?
“เราสนิทกันอยู่แล้ว เป็นคู่ที่ผ่านอะไรมาเยอะ เจออะไรที่เป็นทั้งทุกข์และสุขมาเยอะ แต่คู่เรามีความเป็นเพื่อนมาก เรารู้สึกว่าอะไรที่มันผ่านมา มันก็ผ่านไป มีสุขบ้าง มีทุกข์บ้าง เหมือนคู่อื่นๆ ทั่วไป เราเข้าใจธรรมชาติตรงนี้ ด้วยความเป็นเพื่อน เราก็คุยกันได้ทุกเรื่อง การปลอบใจก็นี่เลย ผมมาเรียนทำอาหาร พอเขาเซ็งผมก็ทำอาหารให้เขากิน ก็เลยยิ่งอ้วนเข้าไปใหญ่ตอนนี้ (หัวเราะ)”

เรียกเขาเป็นผู้เสียสละ ?
“ใช่ครับ เขาเป็นแบบนั้น ส่วนเรื่องไปขอลูกที่ฮ่องกง เราก็ทำทุกอย่าง ทุกทางเลยครับ หลายคนๆ เขาก็แนะนำ ต้องขอบคุณมาก หลายๆ คนเขามีความปรารถนาดี ในเรื่องที่ให้มีน้อง เราก็รับแต่โดยดี และไม่ได้คำนึงว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อแบบนั้น แค่มั่นใจว่าสิ่งที่เขาบอกเราเป็นความปรารถนาดี แค่นี้ก็เป็นความรู้สึกดีแล้วเราก็ทำตาม ก็รู้สึกดี มันก็มีพลังด้านบวกเพิ่มขึ้น พอเราไปถึงวัดตรงที่มีคนแนะนำ เราก็รู้เลยว่า สิ่งที่เราไปทำ ก็ไม่ได้คิดว่าท่านจะมาช่วยโน่นนี่ แต่เป็นการระลึกถึงสิ่งที่เป็นความปรารถนาดี แล้วทำให้เรารู้ว่าโลกใบนี้มีคนที่รักเราเยอะขนาดไหน เราก็ไม่ต้องเครียดเรื่องตรงนั้น มันก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งด้วย”

คือไปขอพรจากท่านเทพเจ้า ?
“ใช่ครับ จริงๆ ที่พูดไปก็พูดไปงั้นแหละ แต่จริงๆ หวังมากเลยครับ(หัวเราะ) ในใจก็บอกไป เดี๋ยวมาวิ่งแก้บนให้ก็ได้ครับ(ยิ้ม) ทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ทำทุกอย่างเลย ใครสายมูเตรูที่แนะนำมา มีเต็มเลยครับ”

อินสตาแกรม @yongarmchair

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน