อาร์ต ลั่น อยากให้สุดที่ “คุก” ไม่หวังเงินคืน หุ้นส่วนโกง 10ล้าน เบี้ยวศาลตามคาด

วันที่ 7 มิ.ย. ที่บลูโอริธึมแอนด์โบว์ล ชั้น5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ นักแสดงหนุ่ม อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม มาร่วมงาน โบว์ลิ่งการกุศลและพิธีมอบทุนการศึกษา “มาเติมรอยยิ้ม ให้เต็มหัวใจ” ที่จัดขึ้นโดย มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ หลังเสร็จงานได้ให้สื่อมวลสัมภาษณ์ ถามถึงเรื่องคดีความ ที่ยังเคลียร์ไม่จบหลังจากถูกคู่กรณี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนโกงเงินทำธุรกิจสูญนับสิบล้านบาท โดยอาร์ต เผยว่า “ก็เป็นกรณีที่ทางบริษัทมีการตุกติกครับ เราก็ไปสืบพยานให้ตรงครับ แต่ว่าทางคู่กรณีของเราไม่มา”

ที่ไปขึ้นศาลได้ใจความยังไงบ้าง
“ก็อย่างที่บอกว่าเราเป็นกรรมการบริษัทก็จริงครับ แต่ว่าเราไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการสั่งซื้อสินค้าใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรามีหน้าที่โปรโมตสินค้าเท่านั้น เราก็แค่ไปชี้แจงเท่านั้น ว่าเราไม่รู้เห็นเกี่ยวกับบัญชีรายจ่าย รายรับ เราแค่ไปชี้แจงในศาลแล้วก็ออกมาผลค่อนข้างดีครับ”

คู่กรณีไม่มานี่ผิดคาดมั้ย
“ตามคาดอยู่แล้วครับ (ยิ้ม) เขาไม่มาแน่นอนอยู่แล้วครับ”

ได้มีการนัดหรือติดต่อกับทางคู่กรณีไหม
“ตอนนี้อยู่บนโลกหรือเปล่าไม่รู้”

หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ
“ก็ตอนนี้เป็นคดีแพ่งใช่มั้ยครับ เราโดนฟ้องหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการไปหาตัวเขาในโซเชี่ยล ตอนนี้ก็พยายามทำให้กฎหมายการโกงไม่ให้เป็นแค่คดีแพ่ง เราเป็นหัวหลักร่วมกับหลายๆ คนที่กำลังโดนโกงอยู่และกำลังเป็นคดีแพ่ง ผมจะเป็นศิลปินดาราที่พยายามจะออกตัวให้กับคนที่โดนโกง และในลักษณะเดียวกันแบบนี้ กำลังร่วมมือกับหลายๆ ฝ่ายพยายามทำให้เป็นคดีอาญา เพราะว่าคดีแพ่งสำหรับการโกงมันน้อยไป

ไม่พลาดข่าวบันเทิง แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

สำหรับกลุ่มที่เคยโกงเขาก็จะโกงมาเรื่อยๆ เขาทำเป็นอาชีพของเขา ส่วนคดีของผมตอนนี้ก็ค่อนข้างไปในทิศทางของผมแล้ว ที่เรื่องเงียบไม่ใช่อะไรนะครับ แต่มันมีคนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ในวงของพวกเราอยู่ ผมพยายามทำอะไรก็เงียบๆ แต่ตอนนี้มาในลักษณะของเกมส์เราเกือบหมดแล้วครับ”

หลังจากนี้เราอยากให้คดีสิ้นสุดตรงไหน
“ถ้าสิ้นสุดเลยอยากให้ติดคุกเลยครับ ค่าเสียหายไม่เอาก็ได้ครับ”

แต่ก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ถ้าเขาหนีไปแล้วจะทำยังไง
“ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นคดีอาญาคุณไม่มา คุณต้องหนีออกนอกประเทศเท่านั้นครับ ไม่ห่วงเลยครับ อย่างที่บอกกฎหมายไม่รองรับคนที่ทำถูก เคยให้ข่าวไปว่าถ้าเราไปทำอะไรเขาก็กลายเป็นทำร้ายร่างกาย ไปขัดขวางเขาก็เป็นกักขังหน่วงเหนี่ยว เราไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากกฎหมายเท่านั้น ก็โอเค ในเมื่อคุณเล่นตามเกมส์ เราก็เล่นตามเกมส์ ในเมื่อคุณไม่มาไกล่เกลี่ย ผลสุดท้ายไม่คุณก็ผมติดคุก แค่นั้น”

มั่นใจขนาดไหนที่จะเอาคู่กรณีมารับโทษได้
“ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ”

รู้ที่อยู่ของเขาเหรอ
“รู้ครับ รู้ทุกอย่าง แต่อย่างที่บอกว่ากฎหมายไม่รองรับคนถูกต้อง รองรับแต่คนที่รู้กฎหมายเท่านั้น”

ค่าเสียหายรวมแล้วเท่าไหร่
“ค่าเสียหายเรียกจากโรงงานมา 8 ล้านครับ ยังไม่รวมที่ตัวแทนเรียกร้องกลับคืนไปอีก 5 ล้านกว่า และยังไม่รวมต้นทุนการผลิตกันอีกเท่าไหร่ โปรโมชั่นเที่ยวอีกเท่าไหร่ โปรโมชั่นทองที่ซื้อให้ตัวแทนอีกเท่าไหร่ สิ่งที่ผมไม่รู้อีกเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวพอคดีเสร็จสิ้นทุกอย่างมันมีอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นสเตจเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีต่างๆ มันยืนยันตัวเองอยู่แล้วครับ ผมไม่สืบหา”

แล้วคดีแพ่งเราเรียกไปเท่าไหร่
“ผมไม่ได้เรียกเขาครับ ทางคดีแพ่งเป็นทางโรงงานเรียกมา 8 ล้านครับ ที่โรงงานเรียกมาเพราะว่าเราไปเป็นกรรมการด้วย แต่ของผมเข้าไปเป็นกรรมการหลังจากที่เขาตกลงซื้อแล้ว ของผมเข้าไปทีหลัง ตอนนี้ก็เข้าไปพิสูจน์ว่าเราไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้อง เพราะในตราประทับของบริษัทจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันจะต้องมีกรรมการผูกพันบริษัท ผมสามคนต้องประทับตราเป็นเอกสารสำคัญ แต่ในเอกสารสำคัญของเขามีคนเดียวที่เซ็น ก็น่าจะรู้ว่าใคร”

ถ้าเขาดูอยู่อยากจะบอกอะไรมั้ย
“ก็อยู่เปิดร้านให้ดีๆ นะจ๊ะ (ยิ้ม) เดี๋ยววันหลังจะไปหาเฉยๆ ไม่มีอะไร (ยิ้ม)”

รอได้ใช่ไหม ถ้าคดีมันยืดเยื้อ
“ผมไม่เหมือนคนอื่นแล้วกัน บอกแล้วไงครับจุดสิ้นสุดไม่ผมก็เขาติดคุก (ยิ้ม) ผมไม่ยอม ผมบอกเลยว่าทุกวันนี้ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองนะ เงินค่าเรียกร้องผมเคยคุยในกรุ๊ปต่างๆ ผมจะเป็นคนได้ค่าเสียหายคนสุดท้าย ตัวแทนที่เสียหายได้ก่อนผม ไม่เหลือถึงผมไม่เป็นไร ให้ตัวแทนที่เดือดร้อนได้ก่อน ผมพูดตลอด”

ถ้าเขายอมจ่ายเงินชดใช้ให้ทั้งหมดเราจะยอมมั้ย
“ก็บอกแล้วทำให้คนที่เดือนร้อนไม่เดือนร้อนให้หมด ผมถึงจะยอม ตัวผมโอเค”

คือถ้าเราไม่ได้เงินก็ไม่เป็นไร
“มันเป็นอาญานะ ก็ต้องแล้วแต่กฎหมายแล้วกันครับว่าเขาจะยอมให้ผมไกล่เกลี่ยมั้ย ถ้ามันเป็นอาญายักยอกฉ่อโกงเขาไม่ยอมความอยู่แล้วถ้าเป็นอาญา อันนี้ก็แล้วแต่เขา ผมไม่มีสิทธิไม่มีอำนาจการตัดสินใจ นอกจากอัยการเท่านั้น”

ถ้าเขาติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย เราจะโอเคมั้ย
“ก็เจอกันที่ศาลกันค่อยว่ากัน (ยิ้ม)”

นัดครั้งต่อไปเมื่อไหร่
“เดี๋ยวผมลงบอกในไอจีแล้วกัน (หัวเราะ)”

กลัวอีกฝ่ายไหวตัวเหรอ
“ไม่ได้กลัวไหวตัวหรอก วันนี้เขายังเหมือนกลัวพี่ๆ สื่อไปกันเลย เพราะจริงๆ วันนี้เขาต้องขึ้นศาล เขากลัวว่าผมจะเอานักข่าวไป แต่ผมไม่ได้บอกใครเลย กลัวไปเอง หลอนไปเอง”

ที่เขาฟ้องเราคือหมิ่นประมาทอย่างเดียวเหรอ
“ไม่จบครับ เราต้องชี้แจงว่าสิ่งที่เราทำเพราะอะไร จริงๆ เราโดนหมิ่นประมาทจริงๆ ก็เบา มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดฆ่าคนตาย ต่อให้มันเป็นคดีติดตัวเรา หมิ่นประมาทเพราะหาตัวคนผิด เรารับได้นะ เรารับในคดีอาญาได้ว่าหาตัวคนผิดที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เรารับได้นะ แต่ไม่ใช่ว่าไปปล้นไปฆ่าเขาแล้วมีคดีอาญาติดตัว อันนี้ไม่ได้”

เขาอาจจะกลัวเราเล่นนอกเกมส์หรือเปล่า
“ถ้าไม่เล่นนอกเกมส์กับผมก่อน ผมก็ไม่เล่นนอกเกมส์กับเขานะ”

แสดงว่าเขาเล่นนอกเกมส์
“ก็นอกตั้งนานแล้วล่ะครับ”

ที่เขาฟ้องเรา เขาเรียกร้องอะไร
“ไม่รู้เลยครับ แต่ถ้าแค่คดีหมิ่นประมาทอย่างมากผมก็โดนแค่ 150,000 บาทครับ มีตังค์จ่ายครับ (ยิ้ม) ก็น่าจะจบแค่นั้น ก็รอศาลเรียกแล้วกันเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรครับ”

แต่ตอนนี้เขาฟ้องแล้วใช่มั้ย
“ยังครับ ยังอยู่ในขั้นตอนของตำรวจส่งให้อัยการครับ แต่แฮปปี้ครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงมากครับ (ยิ้ม)”


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน