คอลัมน์ อาทิตย์ใส

“อฑิตยา เพาะปลูก”

เคยผ่านงานแสดงมาแล้วเรื่องแรก จากละคร “ขมิ้นกับปูน” สำหรับนางเอกสาว 7 สี “มุก”มุกดา นรินทร์รักษ์ ล่าสุดลงแสดงเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกในละครเรื่อง “มัสยา” คู่พระเอกหนุ่ม “มิกค์ ทองระย้า” ก็สร้างกระแสคู่จิ้น เรตติ้งถล่มทลาย และแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม

เป็นอย่างไรบ้างละคร “มัสยา”?

มุก – “กระแสค่อนข้างดีก็ดีใจค่ะ ตอนแรกหวั่นๆ เพราะเราก็หน้าใหม่ เรื่องนี้เป็นนางเอกเต็มตัวถ้าเล่นไม่รอดก็ตาย บทช่วงแรกดูแฮปปี้ สนุก ด้วยเป็นเด็กแก่นๆ แต่หลังๆ พอมีเรื่องความรักเข้ามาก็เริ่มดราม่าแล้ว บางฉากต้องร้องไห้หนักมาก ก็ท้าทายไปอีกแบบ เป็นบทที่ไม่เคยเล่น ด้วยเรื่องแรก “ขมิ้นกับปูน” บทไม่เยอะมากก็ยังมีตัวละครอื่นล้อมรอบช่วย แต่เรื่องนี้เป็นตัวนำก็ยากขึ้นเยอะ”

มัสยาในเรื่องเป็นคนใต้ จริงๆ มุกก็เป็นสาวใต้ด้วย?

มุก – “ค่ะ มุกเกิดที่ระนอง คาแร็กเตอร์ค่อนข้างตรงเลย สาวใต้ ตาโต ตาเราก็โตนะ อายุก็ไล่เลี่ยกับบทประพันธ์ เลยคิดว่าผู้ใหญ่น่าจะเลือกเราเพราะเหตุนี้ ก็กดดันเพราะมัสยาเป็นละครรีเมกที่โด่งดังมาก่อน ทุกคนบอกว่าเวอร์ชั่นเก่าเล่นไว้น่ารักมาก และสมัยนั้นคนดูติดมัสยากันมาก ก็แอบกลัว แต่การแสดงเป็นงานที่เราต้องทำต่อไปในอนาคต ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด”

ถูกใจไหม บท “มัสยา” มีครบรส?

มุก – “ถูกใจมากค่ะ คือครบจริงๆ เรื่องนี้หนูอ่านตั้งแต่แรกครบสูตรเลย เริ่มเรื่องปุ๊บไม่สวยต้องขัดตัว แก่น ปีนต้นไม้ กัดผู้ชาย เรื่องนี้เรื่องเดียวได้ลองทำทุกอย่าง ถึงจะเป็นละครเรื่องที่สอง แต่เรื่องนี้ให้อะไรเยอะมาก หนูเป็นคนชอบซีนดราม่ามาก มันเหนื่อยนะกับการร้องไห้ แต่แบบไม่รู้ทำไมถึงชอบซีนแบบดราม่ามากกว่าซีน อื่นๆ คิดว่าซีนแบบนี้ถ้าเล่นดีๆ ใช้ใจเล่นมันก็สนุก ได้ฟีลดูน่าสงสาร อาจเพราะอยาก พิสูจน์ตัวเองด้านการแสดงด้วย อยากให้คนชมว่าเล่นดีมีการพัฒนา”

ตั้งใจมุ่งมั่นขนาดนี้ โดนคำสบประมาทมาหรือเปล่า?

มุก – “คำสบประมาทไม่ได้เยอะค่ะ แต่หนูอยากจะอยู่ตรงนี้ให้นาน ถ้าความสามารถเราไม่ได้ ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ตั้งใจก็จบ จบตั้งแต่เรื่องนี้ซึ่งบทดีขนาดนี้ ถ้าเรายังไม่ตั้งใจก็อย่าเล่นเลย อ่านบทก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าบทดี ถ้าเล่นดีๆ ก็จะดีกับเราและคงได้อะไรเยอะมาก ไม่ต้องถึงกับเปรี้ยงก็ได้ อย่างน้อยคนก็เห็นว่ามันมีหลายอารมณ์ให้เราได้พัฒนาตัวเอง อย่างน้อยทำให้มุกได้โชว์ว่าเราทำอะไรได้บ้าง พอละครออนแอร์ผลตอบรับแฮปปี้ หายเหนื่อยสบายใจ”

เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับ “มิกค์ ทองระย้า” ด้วย?

มุก – “ค่ะ เรื่องนี้คาแร็กเตอร์เขาเป็นคนน่ารัก แถมเขาเล่นได้น่ารักด้วย เป็นผู้ชายอบอุ่นมาก สำหรับมัสยา พี่ลักษณ์ที่พี่มิกค์แสดงคือเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง มันเลยทำให้ทุกคนรักเขา รักพี่มิกค์ในแบบพี่ลักษณ์ เข้าฉากด้วยกันพี่มิกค์ช่วยหนูเยอะมาก วันแรกๆ เกร็ง ด้วยยังไม่สนิท เวลาเล่นก็มีแข็งบ้าง พี่มิกค์พยายามชวนคุยชวนเล่นละลายพฤติกรรมเวลาเจอกันจะได้ไม่เกร็ง อย่างซีนที่ต้องพูดภาษามลายูหนูเครียดจนร้องไห้ พี่มิกค์ก็ช่วยให้คำปรึกษา”

ตอนนี้กลายเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ไปแล้ว?

มุก – “ก็ดีค่ะ มีกระแสเยอะ คนชมว่าเล่น น่ารักจังสองคนนี้ หนูจะเข้าฉากกับพี่มิกค์ส่วนมากจะดราม่า จะโดนดุแล้วก็ร้องไห้ เขาก็เอ็นดูคู่เรา หนูเพิ่งเคยมีคู่จิ้นครั้งแรกรู้สึกแปลกดี ไม่คิดว่าคนจะชอบ แล้วเขาเรียกเราว่า “มุกมิกค์” คือชื่อ ม.ม้าเหมือนกัน ก็เอาชื่อมาติดกันเป็นคำเชื่อม แต่ไม่ได้มีอะไรแค่เรียกกันเล่นๆ น่ารักดี”

คิดว่าบทมัสยาทำให้เราประสบความสำเร็จหรือยัง?

มุก – “ถามว่าประสบความสำเร็จได้ไหม มันก็ยังไม่สุดแหละ เพราะยังมีบทที่ยากกว่ามัสยาอยู่เยอะที่ใช้ความสามารถมากๆ ใช้แอ๊กติ้งแรงๆ ใช้พลังเยอะๆ แต่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้ได้โชว์อะไรหลายๆ อย่าง เป็นอารมณ์ดราม่าหนักมากเหมือนกันให้หลายๆ คนได้เห็นว่าหนูดราม่าเป็นยังไง ถ้าคนมองว่าหนูดูแล้วอินร้องไปด้วย ก็ถือว่าหนูประสบความสำเร็จกับมัสยาแล้ว”

แสดงว่าเริ่มหลงรักการแสดงไปแล้ว?

มุก – “ใช่ค่ะ ครั้งแรกที่เล่นมัสยาก็เครียด เหมือนยังไม่เข้าใจ ยังเข้าถึงตัวละครไม่ได้ก็เริ่มนอยด์ ทำให้บางครั้งเหนื่อยกับตรงนี้เพราะมันหนักสมองและเครียด แต่พอข้ามมันได้ก็อยากเล่น เพราะเริ่มง่ายแล้ว เริ่มสนุกเป็นความสุข หนูเลยชอบการแสดงมากขึ้น อยากจะเป็นคนที่เล่นละครได้ดีค่ะ”

หลายคนมองว่าผู้ใหญ่ดันเรามาแทน “ใหม่-ดาวิกา” แล้วบอกว่าเราหน้าเหมือนใหม่ด้วย?

มุก – “หนูว่าไม่เหมือน เอาจริงๆ คือเป็นคนที่หน้าหันไปหันมาก็เปลี่ยนมุมไปหมด ด้วยการแต่งหน้าด้วยอะไรหลายๆ อย่าง หนูว่าทุกคนก็มาตามสเต็ปจนวันนึงอยู่ในจุดที่ดีที่สุดของตัวเอง ปัจจุบันมีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาเยอะ ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเองก็จะมีเด็กใหม่ขึ้นมาแทนอยู่ตลอด อาจจะด้วยโอกาสและอะไรหลายอย่างทำให้หนูได้มาอยู่ตรงนี้ อย่าเรียกว่ามาแทนกันเลย มันอยู่ที่โอกาสมากกว่าที่พอดีกัน เราเข้ามาตรงจังหวะกับเขาพอดีก็แค่นั้น”

มองว่าผู้ใหญ่ช่วยผลักดันเรามากไหม?

มุก – “ไม่รู้จริงๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโอกาสคำเดียว ถ้าเขาให้โอกาสแล้วเราก็ต้องทำให้ดี ก็ดีใจที่ได้รับบทมัสยา ต้องขอบคุณช่องจริงๆ ที่ให้โอกาสได้ลองเล่นบทนี้ ทั้งๆ ที่เราก็ยังเป็นเด็ก ประสบการณ์ก็ยังน้อยกว่าคนอื่นอยู่”

วางแผนชีวิตในวงการไว้อย่างไรบ้าง?

มุก – “อยากเล่นได้ทุกบทบาท อยากอยู่ให้ได้นานที่สุด ไม่ว่ายังไงก็ตามจะตั้งใจ พยายาม อยากทำงานตรงนี้ให้นานที่สุด ตอนนี้เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นแต่ไม่จำว่าเราคือมุกดา เขาจำว่าเป็นมัสยามากกว่า หลายคนเจอก็เข้ามาถามว่าใช่มัสยาหรือเปล่า ด้วยชีวิตหนูข้างนอกค่อนข้างแต่งตัวแต่งหน้าคนก็จะไม่แน่ใจ”

มองวงการบันเทิงเป็นอย่างไร?

มุก – “วงการบันเทิงอยู่ได้ไม่นาน เอาจริงๆ คนอยู่ได้นานจะต้องมีความสามารถ ต้องมีวินัย ต้องมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ทั้งคนในและคนข้างนอกรัก ถ้าคุณไม่สามารถทำได้ ชีวิตการทำงานของคุณก็อาจจะจบเร็ว เหมือนเป็นอะไรที่ดาบสองคม เมื่อได้เข้ามาอยู่แล้วต้องพยายามทำให้ดีที่สุด”

คว้าโอกาส-ค่อยๆ ก้าวเข้าวงการทีละสเต็ป

เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 15 ปี ด้วยการประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ปี 2011 และคว้าตำแหน่งชนะเลิศ สำหรับนางเอกสาว “มุก”มุกดา นรินทร์รักษ์ โดยเจ้าตัวเล่าว่า

“หนูค่อยๆ เริ่มทำงานในวงการมาทีละอย่าง ค่อยๆ มาทีละสเต็ปมากๆ อายุหนูตอนนั้นเด็กมากจริงๆ ยังไม่พร้อมจริงๆ หลังได้ตำแหน่งมิสทีน 1 ปี แทบจะไม่ได้ทำอะไรเพราะหนูยังใช้งานไม่ได้ ยังขายงานไม่ออก ด้วยคาแร็กเตอร์ ด้วยหน้า ผิวพรรณ หรือหุ่นก็ยังเป็นเด็ก จุดเริ่มต้นที่มาประกวดมิสทีนไม่ได้อยากเป็นนักแสดง จริงๆ โดนที่บ้านบังคับให้มาประกวดแล้วก็ดันได้”

สำหรับความฝันของสาวมุก เจ้าตัวบอกว่า “เป็นอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในวงการแน่นอน ที่เข้ามาตรงนี้เพราะดวงมากกว่า แม่บอกทำไมไม่ลอง ให้ลองดูอาจจะดีก็ได้ ถ้าไม่ดีก็กลับไปเรียนเหมือนเดิม พอได้ลองก็ต้องปรับอะไรหลายอย่างที่เป็นตัวเอง หมายถึงปรับให้ดูโตขึ้นก็เลยได้มีโอกาสไปญี่ปุ่น เพราะเราถ่ายแบบนิตยสารแนวญี่ปุ่นพวกนี้อยู่แล้ว ก็มีโอกาสได้ไปแคสต์งานโตเกียวรันเวย์ของญี่ปุ่น บังเอิญได้อีก แต่ตอนนั้นเรายังเด็ก แต่งหน้ายังได้ไม่เยอะมากเท่าไหร่ พอไปญี่ปุ่นเอเยนซี่สนใจก็ติดต่อให้เราย้ายไป อยู่ญี่ปุ่นก็เลยไปเป็นนางแบบแลกเปลี่ยน 1 ปีครึ่ง ก็ทำให้เราโตขึ้นเพราะญี่ปุ่นนั้นแหละ”

ช่วงนั้นนางเอกสาวรับว่า “ถือเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเรียนยังไม่จบ ห่วงเรื่องเรียน แต่โอกาสมาแล้ว ไม่ใช่ จะได้กันทุกคน อยากลอง อยากโต อยากให้แม่เลิกห่วง ด้วยความเป็นลูกคนเล็ก แม่จะห่วงมาก ตอนแรกขอไปแม่ไม่ให้ไป ก็ได้พี่ชายช่วยพูดว่าโอกาสมีครั้งเดียว แม่ก็เลยยอมให้ไป”

ทำงานที่ญี่ปุ่นให้ประสบการณ์อะไรบ้าง “ให้เยอะมาก ให้ทุกอย่าง ตั้งแต่กวาดบ้าน ถูบ้าน ทิ้งขยะ ซักผ้า ล้างจาน ปกติอยู่ไทยมีคนทำให้หมด พอไปอยู่โน่นกลายเป็นทุกอย่างต้องทำเอง ต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย ทุกอย่างต้องแพลนเวลาทั้งหมดใน 1 วัน เรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทุกเช้าต้องตื่นมาหุงข้าว ทำกับข้าวเอง ทำทุกอย่างเองทั้งหมด คือไม่ได้อยู่แบบไม่สบายนะ แต่เราต้องทำเอง คนดูแลก็เป็นเอเยนซี่ญี่ปุ่น เขาดูเรื่องงานอย่างเดียวจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว”

ได้นำการทำงานที่ญี่ปุ่นมาปรับใช้ยังไงกับ การทำงานที่ไทยบ้าง มุกดาเล่าว่า “แรกๆ กลับมาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะอยู่อย่างนั้นมาปีครึ่ง กลายเป็นคนคิดวางแพลนทั้งวัน พอมาเจอคนที่ไม่คิด ช่วงแรกๆ จะหงุดหงิด แบบเราไม่โอเคเพราะเรากลายเป็นคนซีเรียสเรื่องเวลา”

โสดแต่มีคนคุย

“โสดค่ะ แต่ก็มีคนคุย คุยกันมาเรื่อยๆ สักพักนึงไม่ถึงปี” นางเอกสาวหน้าใหม่ “มุก-มุกดา” เปิดใจเรื่องความรัก

จากนั้นก็เผยถึงสเป๊กหนุ่มว่า “ได้หมดค่ะ มุกจะไม่ชอบผู้ชายที่ทำอะไรไม่เป็นเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นทุกอย่าง อย่างน้อยถ้าคุณไม่มีเราหรือคุณไม่มีใครคุณต้องอยู่ได้นะ ถ้าคุยแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เราไม่ชอบ มุกก็จะค่อยๆ ออกมา”

“หนูไม่ใช่คนที่ชอบใครง่ายๆ เราเป็นคนที่มีแง่คิดในเรื่องการทำงานเยอะ อะไรก็เป็นงานไปหมด อะไรก็สอนไปหมดแหละ ซึ่งคนที่คุยอยู่ตอนนี้อยู่ในจุดที่สอนเราได้จริงๆ มันก็เป็นมุมอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน เราจะเก่งแค่งานในวงการ ส่วนงานในด้านอื่นเขาก็สามารถพูดให้คำปรึกษาได้ เขาเองก็เข้าใจการทำงานของเรา ถ้าไม่เข้าใจก็จบค่ะ”

ด้วยความเป็นดาราหลายคนจะไม่กล้าเปิดเรื่องความรักกัน เรามองเรื่องนี้อย่างไร นางเอกสาวกล่าวว่า “หนูก็ไม่รู้ว่าจะเปิดไปทำไมเหมือนกัน ถึงมีหรือไม่มีบางทีคนก็ต้องมองต้องคิดอยู่แล้วว่ามี แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะเปิดให้คนเขารู้ทำไมว่าคนที่เราคบคือใคร เราไปทำอะไร กินข้าวที่ไหน ถามว่ามีได้ไหม มันก็มีได้ แต่วันนึงหากไม่ใช่คนนี้แล้วเปลี่ยนคนคุยหลายคน ถ้าเป็นผู้หญิงคือมีแต่เสีย กับเสีย ถ้าเป็นผู้ชาย ก็แค่เจ้าชู้ มุกว่าเรายังอายุแค่นี้ก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ ต้องศึกษาดูไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่เราก็เปลี่ยน แต่ถ้าเปิดตัวเขาก็จะมองว่าคุณมั่นใจแล้วแน่ๆ มุกไม่อยากให้คนมองว่าเราเปลี่ยนคนบ่อย บางทีแค่เปิด แต่เราอาจจะแค่เรียนรู้เขาอยู่ ยังไม่ได้อะไรกับเขาขนาดนั้นก็ได้ ก็ตัดด้วยการไม่ต้องเปิดดีกว่า เราคุยกับใครก็คุยไป จะคุยกี่คนก็เรื่องของเราไม่ต้องให้ใครรู้ก็ได้”

ผู้ใหญ่ห้ามเรื่องความรักไหม “ไม่ห้ามค่ะ ชีวิตส่วนตัว ก็อย่างที่บอกถ้ามีก็มีไป เพราะมันยังไม่จริงจังถึงขนาดนั้นหรอก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน