คอลัมน์ อาทิตย์ใส

โป๊ป-เบลล่า สุดปัง – หลังจับคู่กันดังในละคร “บุพเพสันนิวาส” ล่าสุดพระนางสุดฮอต ‘โป๊ป’ ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ กับ ‘เบลล่า’ ราณี แคมเปน กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในละคร “ร้อยเล่ห์มารยา” ทางช่อง 3 รับบท ‘รามิล’ ทนายความสุดหล่อ กับ ‘พิชชา’ หรือ ‘เอม’ สาวเก่ง เท่ ความมั่นใจสูง รักแรกของรามิล

วันนี้โอกาสดี ได้พูดคุยกับทั้งคู่ ถึงบทบาทการแสดงที่ได้รับในละครเรื่องนี้

ละครมีเค้าโครงจากเรื่องจริง รู้สึกอย่างไรบ้าง?

เบลล่า – “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแบบนี้หรือขนาดนี้ พี่นก จริยา ผู้จัดก็บอกว่าเรื่องจริงยิ่งกว่านี้อีก อันนี้ปรับลงมาให้ผสมทั้งเรื่องความสนุก บันเทิง ตลก”

โป๊ป – “มันมีนะในสังคมเราที่เป็นแบบนี้ ในเรื่องสอดแทรกเรื่องโซเชี่ยลว่าบางทีชีวิตจริงโหดร้ายแต่ต่อหน้าโซเชี่ยลยังดูดี ใส่พวกนี้ลงไปทำให้ละครดูเรียล”

เปิดฉากมาเบลล่าตบกระจาย?

เบลล่า – “ทุกคนตอนนี้เรียกแม่แล้ว เป็นมิติใหม่ ก็ถามพี่นกว่าเปิดมาต้องเบอร์นี้เลยมั้ย เพราะเรื่องราวของพิชชามีมาก่อนหน้าแล้ว แต่มันถึงขีดที่ทนไม่ไหวจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ก็สนุกดี ตบเมียน้อยเสร็จหันมาตบผัวต่อ แล้วก็กลับไปตบเมียน้อยอีก (หัวเราะ)”

โป๊ป – “เรื่องจริงไม่ได้ทำแบบนั้น”

เบลล่า – “เรื่องจริงเราไปนานแล้ว”

ต่างจากละคร “บุพเพสันนิวาส” เลยไหม?

โป๊ป – “คนละเรื่องเลยครับ อันนี้คือชีวิตจริงที่เป็นยุคปัจจุบัน อันนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยสัมผัสในอดีต ความสนุกมันต่างกัน บุพเพสันนิวาสจะเป็นความคลาสสิค อันนี้จะเป็นสมัยใหม่ แต่สนุกไม่แพ้กัน”

บุคลิกของพระเอกมีความปากร้ายติดมาจากบุพเพฯ ไหม?

เบลล่า – “ติดมาจากตัวจริง (ยิ้ม)”

โป๊ป – “ปากร้ายคนละแบบ คล้ายๆ กัน อันนั้นจะดุ อันนี้จะเตือน”

เบลล่าบอกว่าโป๊ปเล่นเหมือนตัวจริง ตัวจริงโป๊ปเป็นอย่างไร?

เบลล่า – “ตัวจริงก็กวนๆ ซนๆ ชอบแซว ที่แซวน้าสิรี ที่รับบทโดยพี่นก จริยา ในเรื่อง เติมทั้งนั้น แอบใช้ละครในการเหน็บคน”

สำหรับโป๊ป ยากไหมกับบทนี้?

โป๊ป – “ผมว่ายากกว่าบทพี่หมื่น เรื่องนี้ต้องธรรมชาติมาก ต้องเป็นคนสมัยใหม่ ฉลาดทันเกม รู้กฎหมาย ต้องเป๊ะ แต่ต้องเล่นให้เป็นธรรมชาติ แต่เรื่องบุพเพสันนิวาส แค่จำบทให้ได้แล้วคาแร็กเตอร์เป็นคนนิ่งๆ เจ้าขุนมูลนาย มันไม่ยากเท่าปัจจุบัน จะสนุกคนละแบบ อันนี้คืออิมโพรไวส์กันได้ เรื่องโน้นไม่รู้จะอิมโพรไวส์กันอย่างไรในสมัยนั้น เรื่องนี้ที่เห็นเป็นธรรมชาติบางทีฝั่งเพื่อนนางเอกก็อิมโพรไวส์เยอะเหมือนกัน บทเท่านี้ก็ใส่ไปให้เนียนขึ้น”

แล้วเบลล่ามีอิมโพรไวส์เองบ้างไหม?

โป๊ป – “มีครับ ผมก็หลุดประจำ คือเราหลุดขำจริงๆ”

เบลล่า – “หลังๆ เริ่มคุมสติไม่ได้ คือเรื่องนี้เราต้องรีแล็กซ์จริง มันถึงจะมีโมเมนต์ที่อิมโพรไวส์กันได้ เพราะถ้าเราเกร็งหรือท่องแต่บทอย่างเดียวก็จะไม่ธรรมชาติ ก็เลยต้องเล่นกันเยอะ แต่พอเล่นกันเยอะก็มีที่สติหลุด”

โป๊ป – “แต่เวลาเข้าฉากด้วยกัน ไม่ว่าจะซ้อมหรืออะไร เหมือนจะเล่นไม่ได้ แต่เวลาจริงกลับได้เลย ก็แปลก เป็นมาตั้งแต่ตอนเล่นบุพเพสันนิวาสแล้ว”

จริงๆ ความสัมพันธ์ระหว่างรามิลและพิชชาเป็นอย่างไร?

โป๊ป – “ก็เจอกันมาตั้งแต่วัยรุ่นวัยเด็ก มีความผูกพันกันนิดหนึ่ง เราก็ส่อแววมาตลอดว่าชอบเขา เจอคนที่เป็นรักแรก และรักเขามากๆ ก็ต้องมีความรู้สึก แต่เราจะยับยั้งชั่งใจ เพราะมันเกี่ยวกับศีลธรรมด้วย รามิลเหมือนตัวเรียกสติ มีแง่คิดมีมุมที่ดีให้คนดูได้เห็นว่าถ้าใช้ชีวิตให้ถูก เราก็จะเจอแต่สิ่งที่ดีมีความสุข”

เบลล่า – “ของเราก็จะมีในโมเมนต์ที่ทั้งมีสติและขาดสติ เพราะปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามกระแสสังคม อยากได้รับการยอมรับจากสังคม จนลืมมองความรู้สึกข้างในของตัวเองว่าที่เราทนอยู่นั้น ไม่ได้ทนเพื่อตัวเอง แต่ที่ทนเพราะเรายังอยากให้เรายังมีหน้ามีตาในสังคม ซึ่งมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง”

เบลล่าเครียดไหม เพราะบทที่ได้รับค่อนข้างหนักหน่วงมาก?

เบลล่า – “เครียดเพราะจะต้องเล่นให้สุด ไม่อย่างนั้นจะไม่นำพาไปจุดอื่นๆ ได้ ก็ยังคุยกับพี่แมนผู้กำกับฯ ว่านี่ยังไม่พีกอีกหรือพี่ เพราะซีนก่อนหน้านี้ก็สุดๆ แล้ว แต่มันก็จะมีสุดๆ แบบนี้มาเรื่อยๆ เหมือนเป็นช่วงจังหวะชีวิตที่มันดราม่าแล้วมันก็จะมีมากยิ่งกว่าเข้ามาเรื่อยๆ เช่นฉากที่โดนแย่งสามี บางคนที่ดูออกก็ว่าร้ายแล้ว แต่คนที่เราดูไม่ออกร้ายกว่า แถมเป็นคนใกล้ตัวที่มา หักเหลี่ยมเราด้วย”

โป๊ป – “ถ้าดูเป็นละครก็สนุกดีแหละ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะโหดร้าย”

ถ้าเป็นชีวิตจริง เบลล่าจะทำอย่างไร?

เบลล่า – “คงตัดขาดกันไปแล้วค่ะ เพราะมันเหมือนอกหักซ้ำสอง โดนแย่งก็ว่าแย่แล้ว ยัง จะโดนหักหลังจากคนที่รักอีก”

แต่พระเอก ก็ขี่ม้าขาวมาช่วยทันตลอด?

โป๊ป – “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาโผล่มาจากไหน (หัวเราะ) รามิลจะเข้ามาช่วยพิชชาตลอด”

เล่าโมเมนต์หวานๆ ของพระนางให้ฟังหน่อยได้ไหม?

โป๊ป – “ก็พอๆ กับบุพเพสันนิวาส แต่คนละสไตล์ อันนั้นเป็นคนจริงจังและขรึมๆ นิดๆ แต่รามิลมีความกวนมาเลย เป็นคนเปิดเผย เห็นอะไรไม่ถูกก็จะเตือนๆ เหน็บๆ ก็จะได้ความน่ารักตรงนั้น”

เบลล่า – “มันจะค่อยๆ พัฒนาจากตอนแรก ก็มีโมเมนต์ที่พยายามจะเก็บ แต่เก็บไม่อยู่”

เลิฟซีนเรื่องนี้หนักหน่วงขนาดไหน?

โป๊ป – “ผมว่าเยอะกว่าบุพเพสันนิวาส ในแง่ของการเข้าเลิฟซีน บุพเพฯ อย่างมากก็แค่ซอกหู จะน่ารักสวยงาม กอด หอมแก้มก็ฟินแล้ว ด้วยยุคสมัย แต่ยุคนี้เลยต้องมีนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้โหดร้าย”

เบลล่า – “เขาจะยึดติดตรงที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกไง”

โป๊ป – “จริงๆ ก็รุกทั้งคู่แหละ แต่พอผู้หญิงรุกก็เป็นอะไรที่ตลกและแปลกดี เป็นซีนน่ารักมากกว่า ก็เป็นผู้หญิงยุคใหม่ต้องมีนิดหนึ่ง”

เบลล่า – “เป็นซีนที่คนน่าจะกรี๊ด เพราะตัวละครพยายามไม่คิด ไม่ทำ เดี๋ยวจะดูไม่ดี แต่สุดท้ายก็เอาวะ เลือกแล้ว”

ด้วยสนิทกันมาก เราเขินไหม?

เบลล่า-โป๊ป – “เขินมาก”

โป๊ป – “แค่ซีนนอนกอดกันยังเขินเลย ปกติผมเล่นกับใครไม่ค่อยเขินหรอก ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้เขินเขา แต่พอเล่นบุพเพสันนิวาสด้วยกันนานๆ ช่วงท้ายๆ สนิทกันมาก แซวเล่นอะไรกันมากไปหน่อย ก็ขำอีกแล้ว”

เบลล่า – “โดนตัวกันไม่ได้เลย ขำอีกแล้ว”

พอมีคนคาดหวังคู่เราที่ได้กลับมาเจอกันอีก กดดันไหม?

โป๊ป – “ตอนทำงานไม่กดดัน มากดดันตอนจะออนแอร์นี่แหละ ด้วยสถานการณ์โควิดมันก็เงียบๆ เราก็ค่อนข้างกังวลว่าจะออกมาดีมั้ย คนจะอยากดูละครแนวนี้มั้ย แล้วบุพเพสันนิวาสทำไว้ดีมาก ก็กดดันตรงนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ตอนทำงานไม่กดดัน เราสนุก ไปเจอเบล เจอเพื่อนๆ นักแสดงเหมือนไปทำงานกับครอบครัว พอละครตอนแรกออกมายอมรับว่าลุ้น เพราะเราก็โปรโมตไปเยอะ”

เบลล่า – “ยังคุยกันเลยว่า เราโปรโมตเยอะเกินไปหรือเปล่า รู้สึกเขิน เดี๋ยวคนจะคาดหวังมากหรือเปล่า ก็ไม่อยากให้คนคาดหวังเยอะ แต่ก็ด้วยเรื่อง ด้วยการตัดต่อทุกอย่างก็ส่ง อย่างความดราม่ามันก็ ไม่ได้ดราม่าอย่างเดียว จะว่าตลกก็ไม่ได้ตลกอย่างเดียว มันสลับไปสลับมาไม่ให้คนดูเครียด”

แสดงว่าความขลังของคู่จิ้น ‘โป๊ป-เบลล่า’ ยังมีอยู่?

เบลล่า – “ก็ยังมีคนติดตามอยู่ค่ะ เราทำงานเป็นทีมมากกว่าจะมาทำงานกันอยู่สองคน อย่างของเบล บทที่ได้มาบางทีเราเล่นเราว่าสุดแล้ว แต่จริงๆ ยังมีสุดกว่านั้นอีก มันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ”

โป๊ป – “ผมว่าจริงๆ แล้วอยู่ที่องค์ประกอบโดยรวม ถ้าบทดี นักแสดงทำการบ้านดีก็จะส่งผลให้เห็น ผมว่าบทเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ทุกอย่างดีไปด้วย บางทีเอาจริงๆ ไม่เกี่ยวกับเราหรอก ตั้งแต่เรื่องบุพเพฯ แล้ว บทมันเจ๋ง แล้วนักแสดงคุณภาพหมด ก็เลยส่งหมด อย่างเรื่องนี้ผมมองว่าบทมันลงตัว เหมือนว่าเราดูไปแล้วเราไม่มีคำถาม ทุกอย่างมันเนียน มีเหตุผล ไม่มีติดขัด จริงๆ บทส่งนักแสดงนะครับ ไม่ใช่นักแสดงส่งบท”

ออนแอร์ 8 ประเทศพร้อมกัน เป็นยังไงบ้าง?

เบลล่า – “สุดปัง (หัวเราะ) ตอนแรกก็ไม่รู้ค่ะ คิดว่าไปจีนที่เดียว แต่พอรู้ก็ดีใจ คนต่างประเทศจะได้ดูละครไทยกันด้วย แล้วเรื่องนี้ได้แง่คิด ซึ่งเป็นแง่คิดค่อนข้างสากลเลย”

โป๊ป – “ฟีดแบ็กจากแฟนๆ ต่างชาติก็มีอินบ็อกซ์มาหลายประเทศอยู่ครับ ที่เขาดูพร้อมกับเรา”

เบลล่า – “มีทั้งคอมเมนต์เป็นภาษาเขา แล้วก็แปลเป็นไทยให้เราด้วย ว่าจากประเทศนี้นะ”

ทำงานด้วยกัน สนิทกันมากขึ้น ได้เห็นอะไรในตัวอีกคนที่เราไม่เคยเห็นไหม?

โป๊ป – “ไม่มีหรอก เห็นเบลหมดแล้วทุกอย่าง (หัวเราะ) เขาก็เป็นนักแสดงที่เล่นแล้วปล่อยหมด เราไม่ต้องนึกภาพเยอะ ก็ชื่นชมเขามาตั้งแต่เรื่องแรกแล้ว”

เบลล่า – “รู้สึกต่างนิดนึง ด้วยความที่ตอนเรื่องบุพเพฯ เป็นพีเรียด แต่พอเป็นละครปัจจุบันมันจะสามารถอิมโพรไวส์ได้เต็มที่มาก แล้วเขาเก่งมากในเรื่องการเติม มีเมจิก โมเมนต์ ที่เรารู้สึกว่า มาได้ยังไง แต่มันดี ทำให้กลมกล่อมขึ้น แล้วเบลรู้สึกเล่นง่าย เวลาเล่นกับพี่โป๊ป ตาเขาจะเล่าเรื่อง”

สุดท้ายฝากถึงละครหน่อย?

โป๊ป – “ผมขอเป็นตัวแทนนักแสดงเรื่องร้อยเล่ห์มารยา แล้วกันนะครับ อยากให้แฟนๆ ติดตามชม เรื่องนี้จะได้ทั้งแง่คิด ความสนุก และรอยยิ้ม จากพวกเราแน่นอนครับ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน