เทศกาลหนัง‘หว่องกาไว’เอาใจเอฟซีฉายรีมาสเตอร์4K – มงคลซีนีม่า เอาใจเอฟซีผู้กำกับฯ ระดับตำนาน ‘หว่องกาไว’ ที่คิดถึงผลงานคุณภาพ จัดเทศกาล “The World of Wong kar-Wai’s Retrospective” นำ 5 ภาพยนตร์จากฝีมือกำกับฯ ของ ‘หว่องกาไว’ มาจัดฉายในฉบับรีมาสเตอร์ 4K ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคมนี้

ประเดิมเรื่องแรก “IN THE MOOD FOR LOVE” เข้าฉาย 29 ตุลาคม ซึ่งหนังครบรอบ 20 ปีที่เข้าฉายครั้งแรกในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2000

ในบรรดาหนังทั้งหมด ‘หว่องกาไว’ ยอมรับเลยว่า In the Mood for Love คือหนังที่เขา ผูกพันที่สุดในชีวิต หนังใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 15 เดือน และได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) และคว้า 2 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รางวัลนักแสดงนำชาย (เหลียงเฉาเหว่ย) และรางวัลด้านเทคนิคภาพและงานสร้าง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนังเอเชียเรื่องเยี่ยมที่สุดเคยสร้างมา

หนังเล่าเรื่องราว คุณนายชาน (จางม่านอวี้) กับคุณเชา (เหลียงเฉาเหว่ย) ย้ายมาอยู่ในห้องเช่าติดกันในวันเดียวกันพอดี ชีวิตคู่ของแต่ละฝ่ายกำลังจืดจางและมาถึงทางตันจนไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเท่าที่ควร เมื่อคนเหงาอยู่ใกล้คนเหงา ยิ่งคุณนายชานได้เจอคุณเชาบ่อยเข้า ความรู้สึกผูกพันก็ยิ่งลึกซึ้ง และพัฒนากลายเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ไม่ว่าใครก็ยากจะห้ามใจได้

‘หว่องกาไว’ เล่าถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ตอนแรกผมคิดว่าจะทำหนังง่ายๆ ขึ้นมาสักเรื่อง เพราะมันมีแค่ตัวละครสองตัว แต่แล้วผมก็พบว่ามันยากกว่าหนังทุกเรื่องที่ผมทำมาเสียอีก ด้วยความที่มีกันแค่ 2 คน ผมจึงต้องใส่รายละเอียดยิบย่อยเข้าไปเยอะมาก เราถ่ายตัวละครจากช่วงปี 1962-1972 คือช่วง 10 ปีของความสัมพันธ์ แต่พอไปดูในห้องตัดต่อ ผมตัดสินใจให้หนังจบแค่ปี 1966 แล้วตัดส่วนที่เหลือทิ้งไป ไม่แน่ผมอาจจะเอาส่วนนั้นมาทำอีกเวอร์ชั่น”

ฉากหลังของหนังเป็นยุค 60 ของฮ่องกง ผู้กำกับฯ ระดับตำนานบอกถึงเหตุผลว่า “ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับฮ่องกง เพราะตั้งแต่ปี 1949 (เหมาเจ๋อตงพาจีนเข้าสู่ระบอบสังคม นิยม) คนจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาอาศัยอยู่ในฮ่องกงยังคงฝันถึงบ้านเกิดของตนเอง เหมือนชุมชนชาวจีนในหนัง พวกเขามาจากเซี่ยงไฮ้ พวกเขาพูดภาษาของตนเอง และไม่ข้องแวะกับคนกวางตุ้งซึ่งเป็นคนท้องถิ่นของฮ่องกง พวกเขาดูหนัง ฟังเพลง และมีพิธีกรรมที่ไม่เหมือนคนฮ่องกง ผมคิดว่าช่วงเวลานั้นมันพิเศษ และผมก็เติบโตมากับสภาพแวดล้อมแบบนั้น ผมจึงอยากทำหนังด้วยบรรยากาศและอารมณ์แบบนั้น”

ส่วนภาพยนตร์เรื่องที่ 2 “HAPPY TOGETHER” จะเข้าฉาย 12 พฤศจิกายน ฉายครั้งแรกในเทศกาลหนังเมืองคานส์ เมื่อปี 1997 หนังได้รับเสียงชื่นชมจนได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ (Palme d’Or) แลหว่องกาไว คว้ารางวัลผู้กำกับฯ ยอดเยี่ยม

เล่าเรื่องราวคู่รักชายหนุ่ม เดินทางมายังอาร์เจนตินา เพื่อหวังจะได้ดูน้ำตกอีกวาซู ด้วยกัน แต่นับวันที่อยู่ด้วยกันความสัมพันธ์ทั้งคู่ยิ่งแย่ลง แม้จะมีช่วงที่ต้องห่างเหินกันไป แต่ทั้งคู่ก็มีเหตุให้โคจรกลับมาพบเจอกันเสมอ และลึกๆ ในใจของแต่ละฝ่ายต่างรู้ดีว่าความสัมพันธ์แบบนี้ เป็นความรักที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจแต่ในเมื่อมีใครอีกคนกำลังเข้ามาทำให้ความรู้สึกที่แต่ละคนเคยมีไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

เรื่องที่ 3 “FALLEN ANGELS” เข้า ฉาย 26 พฤศจิกายน

ฮ่องกงยามค่ำคืน เมื่อนักฆ่าหนุ่มมาดนิ่งทำงานตามคำสั่งของหญิงสาวลึกลับที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนนานเท่าไหร่ หัวใจของพวกเขาก็ยิ่งผูกพันกัน แต่มันกลายเป็นทั้งความสุขและปัญหา เพราะด้วยอาชีพแบบนี้ หากไม่ระวังหัวใจอาจทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเหตุการณ์นั้น หนุ่มใบ้ ผู้ชอบสวมรอยเป็นเจ้าของร้านอาหารไปตกหลุมรักสาวผมบลอนด์ที่ยังคงไม่ลืมแฟนเก่าไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็เข้าไปแทนที่คนรักเก่าในหัวใจของเธอไม่ได้เสียทีเขาจะยึดมั่นในความรักนั้นต่อไหม หรือยอมเดินแพ้และจากไป

เรื่องที่ 4 “2046” เข้าฉาย 10 ธันวาคม เล่าเรื่องราว โจวมู่หวัน (เหลียงเฉาเหว่ย) นักหนังสือพิมพ์ ผู้ผิดหวังในรัก เดินทางไปสิงคโปร์ กลายเป็นเพลย์บอยเขาใช้เวลาที่นั่นสามปี ก่อนจะกลับมาฮ่องกง หนังเล่าเรื่องในคืนวันก่อนคริสต์มาส เรื่องราวของโจวมูหวัน ห้องหมายเลข 2046 และผู้หญิง 4 คนในชีวิตเขา

ปิดท้ายที่ “CHUNGKING EXPRESS” เข้าฉาย 24 ธันวาคม เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ส่งให้เขาโด่งดังในระดับโลก เนื่องจาก เควนติน ทาแรนติโน่ นำหนังไปฉายแบบจำกัดโรงในอเมริกา

เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย 622 และ 623 ที่หัวใจเจ็บหนักจากการโดนทิ้ง 622 ใช้เวลาในการตามสับปะรดกระป๋องที่หมดอายุในวันเกิดของตัวเองเพื่อเป็นเหตุผลในการรอคอยแฟนเก่า ส่วน 623 คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เอาแต่คิดถึงแฟนเก่าที่ทิ้งเขาไป จนลืมมองผู้คนที่อยู่รอบตัว ในคืนอันโดดเดี่ยวทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าความรักครั้งเก่าที่หมดอายุไปแล้ว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความรักครั้งใหม่ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้

ภาพยนตร์ทั้ง 5 เรื่องถูกนำมาฉายในเวอร์ชั่น 4K ที่ได้รับการบูรณะในแบบดิจิตอล ในโรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ สามย่าน, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ ซีนีม่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน