หลาวเปิง เจ้านางตองริ้ว ซานแปง ครูบุญสิงห์ ออกมาดูเห็นทองเพ็งประคองเจ้านางเรืองระยับลงจากรถ เจ้านางตองริ้วรีบเข้าไปช่วยประคองเรืองระยับ
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่เรืองระยับ”
“เราโดนปล้น พวกโจรฉุดแพรนวลไป”
หลาวเปิงกับซานแปงนำกำลังทหารออกติดตามทันที บุญสิงห์รีบไปแจ้งให้พันตรีประกิตรู้ด้วยจึงส่งทหารไทยช่วยติดตาม
หลาวเปิงขับรถมาถึงจุดที่อูซอขับรถมาจอดทิ้งไว้ที่ชายป่า เขาเดาออกทันทีว่าเป็นฝีมือของอูซอ เพราะเป็นเส้นทางลัดป่าไปเมืองลา ซึ่งที่นั่นอูซอมีอิทธิพล จึงรีบตามเข้าไปในป่า
นาตยานั่งซบไหล่เขตต์ฟังเพลงอย่างมีความสุขในผับหรู อยู่มุมด้านในสุดของร้าน เขตต์ก้มหน้าอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและวัฒนธรรมเมืองเวียงขินผ่านเว็บในโทรศัพท์มือถือ ไม่สนใจเสียงเพลงและผู้หญิงข้างกาย
นาตยาชำเลืองมองเขตต์ก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์ จึงคว้าแก้วเครื่องดื่มมาป้อนเขตต์เพื่อเรียกความสนใจของเขากลับมาที่เธอ
“ดื่มหน่อยสิคะ”
“อย่าเพิ่ง” เขตต์ยกมือขึ้นปัดแก้วเครื่องดื่มออกอย่างสุภาพ เพราะกำลังดูรูปผู้หญิงเวียงขินในชุดพื้นเมืองไทเขินที่คล้ายกับชุดของแพรนวลด้วยความสนใจ
นาตยาวางแก้วเครื่องดื่มลง แอบหงุดหงิดที่เขตต์มัวแต่สนใจอย่างอื่นมากกว่าเธอ เขตต์เห็นรูปแพรนวลใส่ชุดไทเขินรวมอยู่ในภาพที่เขากำลังดูอยู่
“แพรนวล”
นาตยาหันขวับเมื่อได้ยินเขตต์เรียกชื่อภรรยาของเขา เขตต์ชะงัก เลื่อนรูปกลับมามองให้ชัดๆ อีกครั้ง แต่รูปนั้นกลับไม่ใช่แพรนวลอย่างที่เห็นเมื่อครู่
สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือเขตต์ปรากฏเป็นชื่อปราณีโทรเข้ามา เขตต์ตกใจ ไม่กล้ารับสายในร้านอาหารเพราะกลัวปราณีจะสงสัย
เจ้านางตองริ้วและเจ้านางเรืองระยับปรี่เข้าไปหาครูบุญสิงห์ทันทีที่เห็นครูบุญสิงห์กลับเข้ามา
“เจอคุณแพรนวลรึยังคะ?”
“หลาวเปิงพาทหารตามรอยพวกโจรเข้าไปในป่า”
“แถวนั้นมีงูพิษและสัตว์ป่าอันตรายทั้งนั้น พี่ชายของจันสม เคยถูกงูกัดจนเกือบตายมาแล้ว”
“ถ้าพูดเรื่องดีๆ ไม่ได้ก็เงียบเถอะ”
ทองเพ็งยิ้มเยาะ เมื่อเห็นจันสมหน้าเจื่อนหลังจากถูกเจ้านางเรืองระยับดุ
กลุ่มอูซอพาแพรนวลเดินทางเข้ามาในป่า พอมีจังหวะแพรนวลก็วิ่งหนีมาทางน้ำ แต่วิ่งมาได้ไม่ไกลก็สะดุดหกล้ม อูซอวิ่งนำทุกคนตามมา ก่อนจะกระชากปืนเล็งมายังแพรนวลด้วยแววตาดุดัน
“อย่า..” แพรนวลตกใจกลัวมาก
มืออูซอลั่นไกยิง เปรี้ยง เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า พร้อมฝูงนกบินหนีขึ้นฟ้าด้วยความตกใจ หลาวเปิงและทุกคนหันไปตามเสียงปืน ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนัก จึงรีบไปตามเสียง
อูซอลดปืนลงอย่างใจเย็น แพรนวลนั่งตกใจจนตัวสั่น แล้วจึงหันไปเห็นงูเห่าตัวสีดำเป็นเงาวาวถูกยิงตายอยู่ข้างตัวเธอ
“ทำตัวดีๆ ถ้าไม่อยากเละเหมือนงูตัวนี้”
แพรนวลมองอูซอที่อำพรางใบหน้า รู้สึกคุ้นในน้ำเสียงของเขาเป็นอย่างมาก
หลาวเปิง ซานแปง ทหารไทยและทหารเวียงขินจำนวนหนึ่งกรูกันเข้ามาล้อมพวกอูซอไว้ทางหนึ่ง
“ปล่อยตัวแม่หญิงเดี๋ยวนี้”
พวกอูซอหน้าเสียเมื่อตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของทหารเวียงขินและทหารไทยที่มีจำนวนเยอะกว่า อูซอรีบยกปืนจี้ตัวแพรนวลไว้ หลาวเปิงชะงักไปทันที
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ”
หลาวเปิงไม่กล้าสั่งให้ทหารทำอะไร กลัวแพรนวลจะเป็นอันตราย อองเฮียนและทหารอูซอยิงเข้าใส่พวกหลาวเปิงอย่างรวดเร็ว
หลาวเปิง ซานแปง ทหารเวียงขินและทหารไทยกระโดดหลบไปคนละทาง ก่อนจะยิงตอบโต้พวกอูซออย่างดุเดือด อูซอฉุดตัวแพรนวลหนีไป
ระหว่างที่อูซอลดปืนลงเพราะมัวมองทางหนี แพรนวลตัดสินใจแย่งปืนจากอูซอ ทั้งสองเยื้อยุดกระชากกัน หลาวเปิงที่ตามมาโดดถีบหลังอูซอจนล้มคว่ำทำให้ปืนกระเด็นหลุดมือ หลาวเปิงรีบคว้าตัวแพรนวลมาหลบอยู่ข้างหลังเขา
หลาวเปิงปรีเข้าเล่นงานอูซอด้วยเจิงมวยล้านนา อูซอตอบโต้ด้วยมวยปะเด็ง ทั้งสองแลกหมัดกันอย่างดุเดือด อูซอเห็นปืนหลาวเปิงตกอยู่ รีบโผเข้าไปบังกระสุนให้หลาวเปิงไว้
“หลาวเปิง ระวัง”
อูซอยิงเข้าใส่หลาวเปิง เปรี้ยงๆ หลาวเปิงกอดร่างแพรนวลโดดหลบกระสุนปืนจนตกน้ำไปด้วยกัน
หลาวเปิงกับแพรนวลดำดิ่งลึกลงไปในน้ำ ทั้งสองพยายามแหวกว่ายกลับขึ้นไปเหนือน้ำ แต่แพรนวลเห็นสายน้ำวนหมุนเร็วเป็นเกลียวคลื่นเบื้องล่าง กำลังดูดกลืนร่างของเธอกับหลาวเปิงใกล้เข้าไป เสียงของกิ่งแก้วดังก้องในโสตประสาทอันตื่นตระหนกของแพรนวล
“กาลเวลาคือสายน้ำวน เมื่อวนลงไปสู่ก้นบึ้งแล้ว น้ำนั้นก็จะลอยกลับขึ้นสู่ ผิวน้ำเบื้องบน ก่อนจะดิ่งวนกลับลงไปอีก”
ร่างแพรนวลกับหลาวเปิงกำลังถูกสายน้ำวนดูด แพรนวลเห็นคลื่นน้ำหมุนวนทวนเข็มนาฬิกาเร็วขึ้นๆ
อูซอทิ้งปืนของหลาวเปิง มองลงไปในน้ำตกเบื้องล่างด้วยความสะใจ
“จับพวกโจรให้ได้”
ซานแปงตะโกนบอกทหารฝ่ายตน อูซอกับพวกตัดสินใจถอยหนีเข้าป่าลึกไป ทหารเวียนขินกับทหารนายหนึ่งหยิบปืนของหลาวเปิงมาให้ซานแปง
“ผมเห็นจายหลาวเปิงกับแม่หญิงแพรนวลถูกยิงตกน้ำ”
ซานแปงตกใจ
หลาวเปิงอุ้มร่างที่หมดสติของแพรนวลขึ้นมาจากน้ำ วางลงบนโขดหินแผ่นใหญ่ริมลำธาร ไกลจากบริเวณน้ำตกมาพอสมควร
“แม่หญิงแพรนวล”
แพรนวลนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว หลาวเปิงตัดสินใจโน้มหน้าลงจุมพิตผายปอดให้แพรนวล ปากประกบปาก อบอุ่นไปด้วยสัมผัสแห่งรักแท้ที่เขามีต่อเธอ
“ฟื้นสิครับ”
แพรนวลยังคงไม่รู้สึกตัว หลาวเปิงจุมพิตและผายปอดให้แพรนวลครั้งแล้วครั้งเล่า สลับกับร้องเรียกให้เธอฟื้น
“กลับมาหาผมนะครับ..กลับมาทำให้ชีวิตผมสดชื่นอีกครั้ง”
ร่างของแพรนวลยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง หลาวเปิงแทบคลั่ง คว้าตัวแพรนวลขึ้นมาเขย่าอย่างแรงจนแพรนวลสำลักน้ำพรวด ฟื้นขึ้นมา
“ฉันยังไม่ตายใช่มั้ย”
หลาวเปิงดีใจมาก กอดแพรนวลแนบแน่นราวกับกลับว่าแพรนวลจะหลุดมือไป
“แม่หญิงตายไม่ได้ แม่หญิงต้องมีชีวิตอยู่เพื่อผม”
แพรนวลยิ้ม รับรู้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของหลาวเปิง แล้วค่อยๆ หลับไปอย่างอ่อนเพลีย
ซานแปง ทหารเวียงขิน ทหารไทย กระจายกำลังกันค้นหาหลาวเปิงกับแพรนวลบริเวณ
ริมลำธาร ซานแปงหันไปเห็นหลาวเปิงอุ้มร่างที่หลับใหลของแพรนวลขึ้นมาจากโขดหินริมลำธารพอดี
ซานแปงกับเหล่าทหารรีบกรูกันเข้าไปหาหลาวเปิงกับแพรนวลด้วยความดีใจ
หลาวเปิงอุ้มแพรนวลที่หมดสติเข้ามาพร้อมซานแปง เจ้านางตองริ้วและคนอื่นๆ รีบปรี่เข้าไปหาหลาวเปิงด้วยความดีใจ เว้นแต่เจ้านางเรืองระยับที่แอบหงุดหงิดที่อูซอทำงานพลาด
เขตต์เห็นว่าแพรนวลนอนนานเกินไปจึงตัดสินใจมาเรียกที่หน้าห้อง เขาบังคับเอากุญแจมาจากแหลมทอง เพราะเคยเห็นแหลมทองใช้กุญแจเปิดเข้าไปในห้อง
“ถ้าไม่ให้กุญแจห้องคุณแพร ฉันจะพังประตูเข้าไป”
แหลมทองจนมุมกับคำขู่ของเขตต์ จำต้องให้กุญแจไป เมื่อเข้าไปในห้องจึงได้เห็นแพรนวลที่หลับสนิท ใบหน้าเธอซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือด เนื้อตัวแพรนวลเย็นเฉียบจนเขตต์กับแหลมทองตกใจ
เขตต์พยายามเขย่าตัวแพรนวลเรียกให้ตื่น แพรนวลนอนแน่นิ่งราวกับรูปปั้นที่ไร้ชีวิต เขตต์หวั่นวิตก จะอุ้มแพรนวล
“คุณเขตต์จะทำอะไรครับ”
“พาคุณแพรไปโรงพยาบาล”
“ไม่ได้นะครับ”
“ทำไม”
“เอ่อ ผมกลัวคุณแพรจะกระทบกระเทือนจนป่วยหนักกว่าเดิม โทรตามหมอมาที่นี่ดีกว่าครับ”
แหลมทองพยายามหาข้ออ้างไม่ให้เขตต์พาแพรนวลออกไปจากห้อง เขตต์คิดตามก่อนจะเห็นด้วย
“ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ข้างล่าง แหลมดูคุณแพรให้ดีนะ”
ทันทีที่เขตต์วิ่งออกไป แหลมทองรีบเข้าไปเขย่าตัวเรียกแพรนวลอย่างไม่รอช้า
“คุณแพรครับ เกิดเรื่องแล้วครับคุณแพร”
เสียงของแหลมทองดังแว่วมาจากกาลเวลาอันไกลแสนไกลผ่านหูของแพรนวล แพรนวลค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น เธอรู้สึกตัวแบบอ่อนเพลีย สะลึมสะลือ แพรนวลเห็นหลาวเปิงนั่งเฝ้าเธออยู่ข้างเตียงและกุมมือเธอไว้ตลอดเวลา
หลาวเปิงหันมาหาแพรนวลด้วยความเป็นห่วง แต่แพรนวลแกล้งหลับ เจ้านางเรืองระยับเดินเข้ามาในห้อง เห็นมือหลาวเปิงกุมมือแพรนวลไว้แนบแน่น เจ็บจี๊ดกลางใจแต่จำต้องข่มความรู้สึกนั้นไว้
“ฉันมาขอโทษ”
“เรื่อง”
“ฉันทำให้แพรนวลตกอยู่ในอันตราย”
“เป็นความผิดของพวกโจรนั่นต่างหาก”
เจ้านางเรืองระยับนั่งลงข้างหลาวเปิง ยื่นมือมากุมมือหลาวเปิงที่กุมมือแพรนวลอยู่
“ถ้าฉันไม่ชวนแพรนวลออกไปก็คงไม่เกิดเรื่อง”
หลาวเปิงไม่อยากพูดถึง เจ้านางเรืองระยับบีบมือหลาวเปิงราวกับต้องการให้เขาตั้งใจฟังเธอ
“ฉันห้ามให้คุณรักแพรนวลไม่ได้ จึงอยากจะขอร้อง อย่าทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของฉันด้วยการยกเลิกการแต่งงานของเรา”
“ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยเรื่องนี้”
เจ้านางเรืองระยับปล่อยมือจากหลาวเปิง แล้วลุกขึ้นเดินจากไป แพรนวลได้ยินทุกอย่าง สงสารเจ้านางเรืองระยับมาก
+++++++++
ย้อนอ่าน