เจ้านางเรืองระยับยังคงพูดใส่ร้ายแพรนวล หลาวเปิงไม่เชื่อ เพราะรู้ดีว่าแพรนวลเป็นใคร แต่เพราะกลัวอาถรรพ์เตียงจึงไม่กล้าบอกความจริงกับทุกคน

“ฉันเห็นกับตาว่าแพรนวลหนีตามอูซอเข้าไปในป่า”

“ผมเห็นอูซอฉุดกระชากแม่หญิงไปต่างหาก”

“แล้วคุณก็รีบไปช่วยแพรนวล โดยไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นอันตราย”

หลาวเปิงนิ่งเฉยต่อเสียงประชดประชันของเจ้านางเรืองระยับ หลาวเปิงชำเลืองมองเจ้านางจามรีด้วยความเกรงใจและลังเล ก่อนจะเอ่ยปากบอกเจ้านางเรืองระยับ

“มาพูดเรื่องของเราให้จบดีกว่า”

เจ้านางเรืองระยับรู้ทัน หาเรื่องบ่ายเบี่ยง

“ถ้าเป็นเรื่องของเรา ก็ควรคุยกันแค่สองคน”

“ย่าเห็นด้วยกับเรืองระยับ..หลานอยากพูดคุยปรึกษาอะไร ก็ไปพูดกันตามลำพังเถอะ”

หลาวเปิงอึดอัดใจ ไม่สามารถขอยกเลิกการหมั้นกับเจ้านางเรืองระยับได้สักที

เจ้านางเรืองระยับดูท่าทีของหลาวเปิงออก ว่าพยายามจะบอกยกเลิกงานแต่งงานระหว่างเธอกับเขา จึงออกปากชวนหลาวเปิงเข้าไปคุยในห้องของเธอ ครั้นหลาวเปิงเข้าไปในห้องนอนของเจ้านางเรืองระยับ ก็ได้ยินเสียงร้องของเธอดังมาจากห้องน้ำ เขารีบเปิดประตูเข้าไป แล้วต้องชะงัก รีบเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นเจ้านางเรืองระยับนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำที่มีดอกไม้ลอยอยู่ในอ่าง

“ฉันพร้อมคุยเรื่องของเราแล้วค่ะ”

เจ้านางเรืองระยับลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ จ้องหลาวเปิงอย่างเชิญชวน

“ช่วยหยิบเสื้อคลุมให้หน่อยสิคะ”

หลาวเปิงหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ยื่นให้เจ้านางเรืองระยับโดยไม่หันไปมอง เจ้านางเรืองระยับไม่รับ แต่โผเข้าไปสวมกอดหลาวเปิงแทน หลาวเปิงตกใจรีบเอาเสื้อคลุมอาบน้ำห่มร่างเจ้านางเรืองระยับไว้

“ปล่อยเถอะครับ ถ้าใครมาเห็นเข้าเจ้านางจะเสียหาย”

“ใครก็รู้ว่าเราเป็นคู่หมั้นกัน”

“ลืมเกียรติยศอันสูงส่งของเจ้านางแล้วเหรอ”

“ความรัก..ทำให้เราทิ้งศักดิ์ศรีได้เพื่อคนที่เรารัก”

หลาวเปิงผละหนีออกจากห้องไป เจ้านางเรืองระยับวิ่งตามมากอดไว้ ไม่ยอมให้ไป

“อย่าเพิ่งไปสิคะหลาวเปิง ฉันถูกกำหนดให้เป็นผู้หญิงของคุณมาตั้งแต่เด็ก ฉันรักคุณไม่เคยเปลี่ยน…ทำไมคุณไม่เปิดใจให้ฉันบ้าง”

หลาวเปิงสงสารเจ้านางเรืองระยับ แต่ความรักที่มั่นคงต่อแพรนวลมีมากกว่า

“ตัดใจจากผมเถอะครับ”

“คุณมองไม่เห็นความรักของฉัน หรือเลี่ยงที่จะไม่เห็น”

“ผมรักแม่หญิง..” หลาวเปิงพูดชื่อแพรนวลยังไม่ทันจบ เจ้านางเรืองระยับยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตหลาวเปิงที่ไม่ทันตั้งตัว แพรนวลเดินมาเห็นพอดี ยืนอึ้ง ไม่คาดคิดว่าหลาวเปิงจะทำร้ายหัวใจของเธอได้ขนาดนี้

หลาวเปิงดันตัวเจ้านางเรืองระยับออก ก่อนจะหันไปเห็นแพรนวลยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิม แล้ววิ่งหนีไปทั้งน้ำตา หลาวเปิงรีบวิ่งตามแพรนวลไป เจ้านางเรืองระยับยิ้มพอใจ

แพรนวลร้องไห้วิ่งเข้ามาในห้อง รีบปิดประตูและล็อกประตูทันที หลาวเปิงวิ่งตามแพรนวลมาแต่ไม่ทัน จึงเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้องอย่างร้อนใจ แต่เธอไม่เปิด แพรนวลยืนเงียบอยู่ตรงประตู น้ำตาไหลอาบแก้มเพราะความผิดหวังและเสียใจ

แพรนวลถอดนาฬิกาพกสายสร้อยเงินของหลาวเปิงออกจากคอ วางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง เธอมองนาฬิกานั้นด้วยสีหน้าเศร้า นึกถึงคำพูดในคืนวันอันแสนหวานของเธอกับหลาวเปิง

“รักคนที่รักเรา ความรักจะอยู่กับเราตลอดไป ฉันเป็นดอกลั่นทมของคุณค่ะหลาวเปิง”

“ผมจะรักและภักดีกับแม่หญิงตลอดกาล”

แพรนวลยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ซึมออกมาจากขอบตาไม่ยอมหยุด แล้วหันหลังเอนตัวลงนอนบนเตียงที่เต็มไปด้วยความทรงจำแห่งความสุขและความเศร้า เธอพยายามหักห้ามความเสียใจ รวบรวมสมาธิ หลับตา เพื่อหนีความทุกข์จากกาลเวลาในอดีตกลับไปยังกาลเวลาปัจจุบัน

แหลมทองแอบย่องเงียบเข้ามาปลุกแพรนวลในห้อง ยังไม่ทันเขย่าตัวเรียก จู่ๆ แพรนวลก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แหลมทองตกใจจะร้องออกมา แพรนวลรีบลุกขึ้นมาเอามือปิดปากแหลมทองอย่างรวดเร็ว

“อย่าเสียงดังสิแหลม เดี๋ยวแม่ฉันตกใจ”

แหลมทองตั้งสติได้ สงบลง แพรนวลจึงยอมปล่อยมือจากปากแหลมทอง

“แอบเข้ามาในห้องฉันทำไม?”

ด้านปราณีกับคำแดงช่วยกันจัดอาหารคาวหวานและดอกไม้วางไว้ในถาดอย่างสวยงาม เพื่อเตรียมเอาไปใส่บาตร

“อิฉันจะขึ้นไปตามคุณแพรให้นะคะ”

“ไหนแหลมบอกว่ายายแพรตื่นเองได้โดยไม่ต้องมีคนปลุก”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” แพรนวลเดินลงบันไดมาอย่างทะมัดทะแมงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงยีนรัดรูป คำแดงมองชุดที่แพรนวลใส่อย่างรู้สึกแปลกตา

“ทำไมมองแพรแปลกๆ ล่ะค่ะ”

“ป้าเห็นคุณแพรใส่ชุดพื้นเมืองทุกวันจนชิน พอคุณแพรกลับมาแต่งตัวแบบนี้ก็เลยแปลกตา”

“ใส่ชุดพื้นเมืองทุกวันน่าแปลกกว่าตั้งเยอะ”

“รีบไปใส่บาตรกันเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันพระ” แพรนวลรีบยกถาดใส่อาหารเดินนำออกไปก่อน เลี่ยงที่จะต่อความยาวกับแม่

ปราณียกถาดใส่ดอกไม้สดเดินตามไปกับคำแดง แหลมทองแอบย่องลงบันไดมาเมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว โล่งใจที่ปลุกแพรนวลได้ทันเวลา

ปราณีสังเกตเห็นแพรนวลเศร้าซึมอยู่ตลอดเวลา คิดว่าแพรนวลเสียใจเรื่องเขตต์

“เขตต์มาที่นี่เมื่อคืน”

แพรนวลเปลี่ยนเรื่องทันที “แพรขออ่านหนังสือเงียบๆ ในห้องนะคะ”

“ขลุกอยู่ในห้องมากไปก็ไม่ดี ไปซื้อของที่ตลาดในเมืองกับแม่ดีกว่า”

ตลาดในเมืองเชียงราย ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างพากันจับจ่ายซื้อของ รถราวิ่งกันขวักไขว่เต็มท้องถนน แพรนวลช่วยปราณีถือถุงใส่ของหลายอย่าง จำใจมาเพราะขัดปราณีไม่ได้ ขณะเดินผ่านหน้าร้านนาฬิกา แพรนวลเผลอตัวหยุดมองนาฬิกาในร้าน ยกมือขึ้นจับนาฬิกาพกที่ห้อยคอเป็นประจำ ใจหาย เพราะไม่มีนาฬิกาเรือนนั้นแล้ว

“คุณคะ”

แพรนวลกับปราณีหันหลังไปตามเสียงเรียกด้วยความแปลกใจ ป้าเพ็ญสุขยิ้มร่ารีบเข้ามาทักทาย

“ช่วงนี้ไม่เห็นมาดูของที่ร้านเลยงานยุ่งเหรอคะ”

“คุณแม่เพิ่งมาจากกรุงเทพฯ น่ะค่ะ”

“รู้แล้วว่าคุณสวยเหมือนใคร” เพ็ญสุขยิ้มทักทายปราณี ปราณียิ้มตอบตามมารยาท

“ปิ่นปักผมที่สามีคุณซื้อไป เข้ากับชุดแดงจากเวียงขินของคุณมากนะคะ”

“ชุดแดงจากเวียงขิน?” ปราณีสงสัย

“เป็นชุดของชนชั้นสูงในเวียงขินสมัยสงครามโลกที่คุณผู้หญิงซื้อจากร้านดิฉันค่ะ”

“ฉันต้องพาแม่ไปซื้อของอีกหลายอย่าง ขอตัวก่อนนะคะ”

แพรนวลตัดบทแล้วรีบพาปราณีผละไปทันที ป้าเพ็ญสุขมองตาม งงๆ

ปราณีไม่ยอมขึ้นรถกลับบ้าน คาดคั้นถามแพรนวล

“แพรซื้อชุดเก่าของเวียงขินมาทำไม”

“ชุดสวย หายาก ก็เลยอยากเก็บสะสมค่ะ”

“แต่มันเป็นชุดของคนตาย”

“ชุดเก่าประมาณ 70 กว่าปี เจ้าของชุดอาจจะยังมีชีวิตอยู่”

“รู้ได้ยังไงว่าชุดนั้นมีอายุเท่าไหร่”

แพรนวลอึกอัก หาทางแก้ตัว “เจ้าของร้านบอกว่าเป็นชุดสมัยสงครามโลก แพรก็คำนวณปีคร่าวๆ”

“เตียงโบราณหลังนั้นทำให้แพรเปลี่ยนไปรึเปล่า”

“แพรสบายดีค่ะแม่ กลับกันได้รึยังคะ”

แพรนวลเริ่มหงุดหงิด ไม่อยากทะเลาะกับปราณี ปราณีไม่คาดคั้นต่อ กลัวจะยิ่งกดดันให้แพรนวลเครียดกว่าเดิม

แพรนวลกลับเข้ามาในห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ เขตต์ที่แอบเข้ามาในห้องแพรนวลก่อนหน้านี้ ตรงเข้าซุกไซ้แพรนวลด้วยความเสน่หา แพรนวลสะบัดตัวขัดขืน ไม่ยินยอม

เขตต์อุ้มแพรนวลขึ้นเตียง แล้วโถมตัวลงคร่อมกอด แพรนวลเอียงหน้าหลบแรงจูบจากเขตต์ ยิ่งดิ้นเขตต์ก็ยิ่งรัดร่างของเธอแนบแน่นขึ้น

“ผมรักแพรคนเดียว ผมจะไม่ยอมเสียแพรไป”

“เขตต์มีแพรคนเดียว แต่รอบตัวเขตต์มีผู้หญิงอื่นนับไม่ถ้วน”

“กลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะแพร..เราจะมีลูก จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยกัน”

“ไม่”

ริมฝีปากและลมหายใจร้อนผ่าวของเขตต์สัมผัสวูบวาบอยู่ที่ซอกคอของแพรนวล แพรนวลดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการกอดรัด เขตต์ไม่ยอมปล่อย ยังคงบุ่มบ่ามลามไล้ร่างกายของเธออย่างหน้ามืด

“หยุดนะเขตต์ หยุด!”

แพรนวลกระชากข้อมือข้างขวาจากการเกาะกุมของเขตต์จนเป็นอิสระ เงื้อฝ่ามือตบหน้าเขตต์สุดแรงจนเขตต์ผงะ สติสัมปชัญญะกลับคืนมา

“ผมขอโทษ…ผมคิดถึงแพรจนห้ามใจตัวเองไม่ได้”

“ถ้าอยากให้แพรมีความสุข ก็หย่ากับแพรเถอะค่ะ”

“แพรแต่งงานกับผมเพราะอะไร”

“เพราะแพรรักเขตต์”

“แล้วจะหย่ากับผมทำไม?”

“เพราะแพรรักตัวเอง”

“แพรมีคนอื่นแล้วใช่ไหม” เขตต์หยั่งเชิงถาม

“แพรรักผู้ชายคนนั้น” เขตต์นิ่งงัน ความหวังตรงหน้ากำลังพังทลายสูญสิ้น เมื่อหัวใจของแพรนวลกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว

นาตยาเห็นว่าแพรนวลไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาคืนดีกับเขตต์ก็รู้สึกพอใจมาก แล้วบอกเขตต์ว่าเธอท้องกับเขาได้สองเดือนแล้ว เขตต์จะรับผิดชอบลูกในท้อง แต่จะเลิกกับนาตยา เพราะไม่ต้องการหย่ากับแพรนวล

แพรนวลกังวลใจกลัวคนในหอคำสงสัยว่าเธอหายไปไหน ตัดสินใจล้มตัวลงนอน โดยลืมเปลี่ยนเป็นชุดพื้นเมืองไทเขิน ครั้นตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องของหลาวเปิง พบว่าร่างของตัวเองเปลือยเพราะใส่ชุดปัจจุบันมาอดีตไม่ได้ จึงรีบเอาผ้าห่มแพรพันตัวแบบกระโจมอก

หลาวเปิงเปิดประตูเข้ามาเห็นแพรนวลก็ปรี่เข้ามากอดเธอด้วยความดีใจ

“ผมเฝ้ารอแม่หญิงทั้งคืน กลัวแม่หญิงจะโกรธจนไม่กลับมาเวียงขินอีก เรื่องเมื่อคืนเป็นแผนของเจ้านางเรืองระยับ แม่หญิงอย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมกับเจ้านางไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”

“แพรเชื่อแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ปล่อยแพรก่อนได้มั้ย”

หลาวเปิงเพิ่งสังเกตเห็นว่าร่างของแพรนวลมีเพียงผ้าห่มแพรปิดบังอยู่เท่านั้น แพรนวลหลบสายตาหลาวเปิงด้วยความเขินอาย

“แพรรีบมาเวียงขินจนลืมเปลี่ยนชุดที่อยู่ในกาลเวลาของคุณ”

“แม่หญิงสวยที่สุดตอนไม่ใส่อะไรเลย”

“ถ้าไม่ปล่อยแพรไปแต่งตัว แพรจะพูดไม่กับคุณอีก”

หลาวเปิงรวบตัวแพรนวลเข้ามากอด แล้วจุมพิตตรงริมฝีปากของเธออย่างดื่มด่ำ ผ้าห่มแพรที่พันตัวแพรนวลเลื่อนหลุดลงมากองอยู่ตรงพื้น ปล่อยให้จิตวิญญาณทั้งสองดวงไขว่คว้าหาความอบอุ่นอาทรซึ่งกันและกัน

หลาวเปิงชวนแพรนวลออกมาเดินเล่นที่ริมลำธาร เขาล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบอะไรบางอย่างออกมา ย่อตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าแพรนวล

“คุณทำอะไร ลุกขึ้นมาเถอะค่ะ”

“ใต้เข่าของผมไม่ได้มีแค่ศักดิ์ศรี แต่มีความรักให้แม่หญิงคนเดียว”

หลาวเปิงรวบมือทั้งสองของแพรนวลขึ้นจูบ แพรนวลรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในมือ จึงพลิกมือขึ้นมาดู พบว่ามีนาฬิกาโบราณสายสร้อยเงิน ทั้งสองเรือนของหลาวเปิงอยู่ในมือของเธอ

“ผมเอาสิ่งที่ผมรักและหวงแหนมากที่สุดกลับคืนมาให้แม่หญิง แต่งงานกับผมนะครับ”

“แล้วเจ้านางเรืองระยับ…”

“ความรักของเรามีแค่เรา”

แพรนวลยังคงลังเลสับสน เป็นห่วงแม่ ละอายใจต่อเจ้านางเรืองระยับ หลาวเปิงทอดถอนใจ เศร้า

“ผมไม่มีค่าพอให้แม่หญิงทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับผม”

หลาวเปิงปล่อยมือจากแพรนวล หันหลัง กำลังขยับตัวออกห่างไป แพรนวลรีบโผเข้าไปกอดหลาวเปิงไว้อย่างไม่รั้งรออีกต่อไป

“แพรจะไม่ทรมานใจตัวเองอีกแล้ว..แพรจะแต่งงานกับคุณค่ะหลาวเปิง”

“จริงเหรอครับ”

แพรนวลเอานาฬิกาพกสายสร้อยเงินเส้นหนึ่ง สวมคอให้หลาวเปิงก่อน หลาวเปิงเอานาฬิกาพกสายสร้อยเงินอีกเส้นหนึ่ง มาบรรจงสวมคอให้แพรนวลบ้าง

“แม่หญิงอยากมีชีวิตอยู่จนถึงอายุเท่าไหร่?”

“ทำไมคะ”

“ผมจะมีชีวิตมากกว่าแม่หญิงหนึ่งวัน แม่หญิงจะได้อยู่กับผมจนหมดลมหายใจ”

แพรนวลโผเข้าจูบหลาวเปิงด้วยความรัก หลาวเปิงกอดรัดและรับจูบจากแพรนวล ความรักอันแสนอบอุ่นแผ่กระจายโอบล้อมทั้งสองไว้ ท่ามกลางธรรมชาติที่เป็นสักขีพยานให้เขาและเธอ

/////////////////////

อ่านย้อนหลัง

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 17

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 16

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 15

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 14

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 13

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 12

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 11

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 10

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 9

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 8

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 7

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 6

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 5

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 4

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 3

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 2

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน