เอ้ ชุติมา องค์ลงจับได้ ฟร้อง แฟนหนุ่มรุ่นน้องแอบคุยสาวอื่น บุกหาถึงที่หวิดตบกลางตลาด! ฝ่ายชายซื้อบ้านง้อจนยอมใจอ่อน

นักแสดงรุ่นใหญ่ เอ้ ชุติมา ขอควงแฟนเด็ก ฟร้อง มาเปิดใจหวิดตบกันกลางตลาดหลังจับได้มีสาวแช็ตยั่วจีบแฟนเด็ก ด้านฝ่ายชายตามง้อด้วยเรือนหอหลังใหม่ โดยทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง วัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น? เอ้ : “แรกๆ พี่ไม่เคยจับผิดเลย คนจะรู้ว่าปล่อยแฟน สบายๆ อะไรก็ได้ โทรศัพท์ไม่เคยเช็ก ไปเที่ยวไม่เคยตาม ให้อิสระกับอายุขนาดเขา ปรากฎว่าเขาเริ่มเปลี่ยน เริ่มจับโทรศัพท์มากขึ้น ดี๊ด้า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ ถามว่าดูอะไร เขาบอกดูยูทูบ ดูไปเรื่อยเปื่อย มันเริ่มเปลี่ยน การที่เขาดูแลเรามันเริ่มน้อยลง แล้วจะถ่ายรูปของเขาเองส่งไปให้ใครไม่รู้ตลอดเวลา แปลกใจแล้ว อยู่ดีๆ คืนนั้นโทรศัพท์ดัง ชุติมาก็เปิดดู”

ตอนนั้นฟร้องรู้ตัวไหมว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์บ่อย จนพี่เอ้เริ่มสังเกต? ฟร้อง : “ก็มีบ้างครับ เหมือนเราเผลอตัว อย่างเราไปเก็บรถก็จะช้า เพราะเราเล่นโทรศัพท์ กว่าจะมาหาพี่เอ้ก็นาน พี่เอ้หลับเลย”

เอ้ : “เขาเอารถไปเก็บ เราแปลกใจ เอารถไปเก็บบนคอนโดทำไมมันนานอย่างนี้ มันนานเกินสังเกต แล้วทำอย่างนี้ทุกวัน มีเวลาก่อนจะขึ้นห้อง ต้องมีเวลาบอกทางนู้นก่อนแน่ๆ คิดในใจ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าอะไรวะ มีอยู่วันหนึ่งที่จับได้ก็คือกุมารที่เราเลี้ยง”

กุมารมาบอกเหรอ? เอ้ : “ใช่ค่ะ อันนี้เรื่องจริงนะ เอาแต่ละความเชื่อของคนแล้วกัน เพราะว่าตัวเอ้เองศรัทธา น้องเขาบอกว่าแม่ พี่ฟร้องเริ่มตุกติกแล้ว เริ่มมีคนอื่น แล้วไม่ได้มีคนเดียวนะ มีหลายคน”

เวลาน้องมาบอก บอกยังไง? เอ้ : “ก็กระซิบบอก แล้วเราก็ไปเลย วันนั้นตี2 ไปเปิดโทรศัพท์ เปิดไม่เป็น ไม่เข้าใจรหัสเข้ายังไง น้องเขาก็เปิดให้”

กุมารเปิดให้? เอ้ : “จริง เปิดให้เข้าไปถึงข้างใน พี่เลี้ยงกุมารมา 19 องค์ ตั้งแต่พี่อายุ 18 ปี นี่พี่อายุ 55 ปีแล้ว เลี้ยงมานานมากแล้ว ดูแลอย่างดี น้องก็เลื่อนให้ เราเลื่อนไม่เป็น เราโลเทค เราไม่รู้หรอกว่าการเข้า Messenger อินบ็อกซ์เขาเข้ากันยังไงเพราะมันต้องผ่านรหัสเขาหลายรหัสมากเลย น้องบอกนั่งเฉยๆ แล้วก็เลื่อนให้ เข้าไปถึงผู้หญิงคนนี้ ชื่อนี้ แช็ตคุยกัน แต่เรื่องนี้ผ่านมานานแล้ว”

พอพี่เอ้เห็น? เอ้ : “ถ้าฝั่งนั้นเล่นคนเดียวไม่เป็นไร แต่ฝั่งเราเล่นด้วยไง”

ย้อนไปดูข้อความลึกขนาดไหน? เอ้ : “ข้อความอื่นๆ เขาฉลาด เขาลบ นี่เฉพาะข้อความวันสองวันที่เขาไม่ได้ลบ แล้วเราไปเจอ เรารู้สึกจี๊ดมาก เสียใจมาก แล้วเขาบอกเพื่อนว่าเขาพลาด เขาไม่ได้ลบ”

ฟร้อง : “คืนนั้นเหมือนฟร้องไปดื่มกับเพื่อน กลับมาประมาณตี 1-2 เสร็จแล้วเผลอหลับเมา ลืมลบข้อความ” ฟร้องคุยนานไหมกว่าพี่เอ้จะรู้? ฟร้อง : “คุยไม่เกินเดือนครับ”

แล้วไปเจอกันยังไง? ฟร้อง : “ตอนนั้นคุย 2 คนครับ คนนึงอายุ 37 อีกคนเป็นรุ่นน้อง”
เอ้ : “อีกคนเป็นเด็กเชียร์เบียร์ สักเต็มตัว ฉันส่องมาหมดแล้ว รู้กระทั่งบ้านมันอยู่ไหนด้วยนะ”
ฟร้อง : “คือ 2 คนนี้เป็นเพื่อนในเฟซตั้งนานแล้วครับ แล้วก็เหมือนเป็นแฟนคลับเราด้วย วันนั้นเราไปเจอที่ลานเบียร์ มีคอนเสิร์ตที่จังหวัดกาญจนบุรี ก็มาทักทายชนแก้วอะไรแบบนี้”

เอ้ : “ฟร้องชอบผู้หญิงดื่มเหมือนเขา แล้วเราไม่ดื่ม เราก็เลยโลกคนละโลกกับเขา พวกนั้นมันดื่มจริงจัง ดื่มไปเสื้อผ้ามันค่อยๆ หลุด เหลือน้อยชิ้นเรื่อยๆ เสร็จปั๊บเรื่องของเรื่องพอเราจับได้ ความรู้สึกเรามันไม่ถูกต้องแล้ว เคยบอกหลายหนแล้วถ้าจะมีให้มีเหนือกว่าเรา ถ้ามีแย่กว่า แล้วเป็นผู้หญิงกลางคืนแบบนี้เราไม่ชอบแบบนี้ ช่วยเลือกนิดนึง แล้วเราจะยกให้ ถ้าผู้หญิงจะเอาจริงๆ วันนั้นจับได้ปุ๊บโทรหาผู้หญิงเลยแต่ไม่รับ เสร็จแล้วไลน์ไป เขาก็พิมพ์มา ขอโทษนะพี่หนูไม่รู้ ไม่รู้ได้ไง ในไลน์ยังเขียนอยู่เลยว่าพี่เอ้อยู่ไหม คือเขารู้หมดว่าพี่อยู่หรือไม่อยู่เวลาไหน แต่มาบอกว่าไม่รู้ว่าพี่เอ้เป็นแฟนกับฟร้อง คือฉันกินข้าวไม่ได้กินหญ้า”

ณ ตอนนั้นบรรยากาศในห้องเป็นยังไงบ้าง? ฟร้อง : “ก็มาคุครับ ตอนนั้นหลับอยู่ อยู่ดีๆ ก็เหมือนฝัน จริงๆ ไม่ฝันหรอก เหมือนมาบีบคอ ตื่นมาตกใจว่าผิดอะไร อยู่ดีๆ มากระชากคอ ตอนแรกคิดว่าฝัน แต่เขาหยิบโทรศัพท์มา มึงบอกความจริงมา มึงคุยกันใช่ไหม ผมก็คิดอยู่ว่าอะไร แต่ก็ต้องยอมรับความจริง ก็บอกว่าแอบคุยนิดนึง ไม่เกิน 1 เดือนครับ”

เห็นว่าโดนไม้แขวนเสื้อด้วย? ฟร้อง : “โห โดนทั้งสารพัดเลยครับ”
เอ้ : “ฟาดหนักด้วย แล้วบอกว่าไม่ชอบแบบนี้ คิดดูดิปลุกเขาตี2 ด่ายาวไปถึง 8-9 โมงเช้า แล้วก็บอกผู้หญิงว่าฉันไปหาแกเอง ฉันนักเลงพอ อยู่กาญจนบุรีใช่ไหม แกรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนของฉัน แล้วแกยังมาใส่เสื้อชั้นใน ปิดหัวนมนิดนึง ส่งรูปให้น้องแต่ละรูปแบบโนบาร์”

ฟร้องไม่ได้คิดล่วงหน้าไว้เหรอว่าจะเกิดเหตุการณ์น่ากลัว? ฟร้อง : “คิดครับ แต่ว่าลองเฉยๆ”
เอ้ : “ก็เข้าใจเขาเด็กวัยรุ่นที่อายุขนาดนี้ เขาก็คงอยากมีชีวิตของเขาอยู่ เขาเหมือนข้ามขั้นแล้วมีชีวิตคู่เลย เขายังไม่ได้เรียนรู้โลกอีกเยอะ ตอนนั้นเราคิดในทางบวก แต่ในใจก็โกรธอยู่ แล้วเป็นไง” ฟร้อง : “เข็ดแล้ว”
เอ้ : “แกอย่าบอกว่าไม่รู้ แกรู้ทุกอย่าง แต่แกอยากเล่น อยากลอง ถ้าเกิดลองแล้วมันโอเค ไปได้ ก็จะแอบซัมติงกัน แล้วแกไม่คิดถึงพวกเมียหลวงสะอาดๆ เหรอ เกิดเอาโรคมาให้เขาทำยังไง แล้วเป็นดาราด้วย สมมติเป็นอะไรขึ้นมามันเสียชื่อเราด้วย”

ถ้าพี่เอ้จับไม่ได้จะมีการนัดเจอกันอยู่แล้ว? ฟร้อง : “ก็นัดเจอครับ”
เอ้ : “มันจะนัดเจอกัน ผู้หญิงก็ให้ท่า ผู้หญิงคุยกับฟร้องแต่ละวัน นมจะหลุดทิ่มหน้าอยู่แล้ว เด็กสมัยนี้บางคนมันก็กล้าเนอะ”

วันนั้นไปหาเลย? ฟร้อง : “วันนั้น 9 โมงเช้าเรานอนก่อน เสร็จปุ๊บไปนอนที่จังหวัดกาญครับ”

แล้วพี่เอ้รู้ได้ยังไงว่าต้องไปที่ไหน? เอ้ : “รู้หมด เพราะพี่มีพรรคพวกอยู่กาญจนบุรีเยอะมาก มีลูกสาวอยู่ที่นั่นเยอะ เขาเป็นช่างแต่งหน้า อีกคนเป็นเด็กเชียร์เบียร์ ซึ่งทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว เราก็ไปหาเลย กลางตลาด รถยังไม่ทันจอดเลย ก็ให้เพื่อนไปสืบก่อนว่าอยู่ที่ไหน”

ระหว่างเดินทางในรถเป็นยังไงบ้าง? ฟร้อง : “น่ากลัว พี่เอ้ก็ร้องไห้ ในรถเพลงเศร้าหมดเลย”
เอ้ : “วันนั้นกะว่าจะเลิกจริงๆ เลย เพราะเป็นคนที่ให้อภัยคือให้อภัย แต่ถ้าเจอแบบนี้มันเหยียบหน้ากัน ถ้าคิดว่าผู้หญิงแบบนั้นดีกว่าเราก็จะยกให้ไปเลย เดี๋ยวจะออกข่าวทีเดียวเลย เรื่องนี้เราไม่ผิดอยู่แล้ว อีนั่นกับอีนี่พอกัน เราไม่ผิดอยู่แล้ว ไม่สนใจ เดี๋ยวหาผัวใหม่ก็ได้ คิดอย่างนั้นเลย แบบไม่สนใจแล้ว ก็พาไปเลย ปรากฎยายนั่นเงียบ มันเถียง แต่บอกว่ามันไม่รู้เรื่อง พอไปถึงที่ ไอ้ฟร้องขับรถไปให้ที่กลางตลาด บ้านเขาทำร้านเสริมสวย แล้วก็แต่งหน้าทำเวดดิ้ง ส่วนเด็กเชียร์เบียร์วันนั่นร้านมันปิดก็เลยไม่เจอ”

ช่วงก่อนจะไปถึงมีสนทนาอะไรกันบ้าง? ฟร้อง : “ไปถึงที่ตลาดรถยังไม่ทันจอด พี่เอ้รีบลงไปเลย”

ความคิดตอนนั้นลงไปจะไปทำอะไร? เอ้ : “คิดเอาเองแล้วกัน คนอย่างพี่ พี่เป็นเมียหลวงที่ไม่เหมือนเมียหลวงเขาใจดีนะ”

สมมติถ้าลงไปแล้วเจอ? เอ้ : “ก็ตีมันตรงนั้นแหละ ตีมันกลางตลาดเป็นข่าวหน้า1 ยูทูบออก โอ๊ย เริดมากเลย”

พี่เอ้ไม่ได้เผื่อใจไว้เหรอ เราเป็นดารานะ? เอ้ : “ไม่เผื่อๆ เราก็คนเหมือนกัน ถ้ามันมาเหยียบหน้าขนาดนี้ก็ตีกันไปเลย แต่วันนั้นไม่เจอไง”

ตอนนั้นรู้ว่าพี่เอ้โกรธมาก ระหว่างทางเราได้สารภาพผิดหรือขอโทษอะไรไหม? ฟร้อง : “ขอโทษตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯแล้วครับ จนถึงจังหวัดกาญพี่เอ้ก็ไม่ให้อภัย”

เอ้ : “วันนั้นพี่อยากเลิกอย่างเดียวเลย ความรู้สึกเราคือไว้ใจมาก อะไรที่เราไว้ใจเกินไปแล้วทำกับเราแบบนี้ มันเกิน พี่ไม่จับผิดเขา ปล่อยเขาไปกินเหล้ากับเพื่อน ให้เที่ยวได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ กลับตี1-2 ไม่ว่าเลย ไม่ตาม ไม่เช็กโทรศัพท์ คือดีจนแบบว่า เห้ย มึงยังทำเหรอ แล้วข้อสำคัญคือยัยนั่นเล่นด้วย แล้วแฟนของเราเล่นด้วย รู้สึกเสียใจมากว่าทั้งชีวิตเราเรารักเขาคนเดียว เราเทิดทูน เราไม่เคยมองคนอื่นเลยนะ ทั้งที่เรามีคนจีบนะ แต่เราไม่ยุ่งกับใครเลย เรามีความรู้สึกว่าเรารักคุณคนเดียว แต่เขาไม่ซื่อสัตย์ เรามานั่งคิดตอนเด็กๆ เราก็ซ่าแบบนี้ เขาเพิ่ง 21-22 เราก็เคยเป็น เราแก่แล้ว ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว พยายามคิดอย่างนี้แล้วให้สงบ เชื่อไหมว่ารถยังไม่ทันจอดพี่ลงไปเลย แล้วทุกคนก็แบบ เจอดาราๆ วันนั้นมาอย่างสวย ฉันกลัวสวยแพ้อีนั่น”

ถ้าวันนั้นขั้นตอนการคุยมันเลยไปกว่าแค่แช็ต ไปถึงนัดเจอกันแล้วมีอะไรกันแล้ว พี่เอ้บอกไว้เลยว่ายังไงก็ไม่มีวันนี้? เอ้ : “ใช่ พี่ถามเขาตรงๆ แล้วให้เขาพูดต่อหน้าพ่อแม่เขาด้วยนะ ถ้าเมื่อไหร่มีอะไรกับคนนี้ พี่จะไม่ใช้ของปนกับใคร พี่ยกให้เลย ไม่เอาจริงๆ ให้รักให้ตายก็ไม่เอา คนเก่าก็เป็นแบบนี้ พี่จับได้พี่เลิกเลย วันเดียวจบ ยอมเจ็บวันเดียว ดีกว่าไปติดโรค แล้วคนมันเคยทำก็คึกครื้นไงก็ทำได้อีก แล้วผู้หญิงที่มันกล้าลองขนาดนี้มันสามารถที่จะนอนกับใครก็ได้ มันก็ง่ายกับทุกคนแหละ แต่พี่ไม่ใช่ พี่คิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิตผู้หญิงที่การจะมีอะไรกับใครสักคนนั่นหมายความว่าเราจะต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ว่านอนกับคนนี้ได้ ไปนอนกับคนนี้ ไม่ทำ ทำไม่เป็น เห็นอย่างนี้คิดว่าแรด ไม่แรดนะคะ”

เราได้ยินแบบนี้รู้สึกยังไงบ้าง? ฟร้อง : “รู้สึกผิดครับ ตอนนี้เราจะไม่ประมาทแล้ว จะไม่คบซ้อนแล้ว ผิดไปแล้ว บอกพี่เอ้ว่าจะไม่ทำอีกแล้ว ฟร้องว่าคบใครก็คบแค่คนเดียว ถ้าคบหลายคนสักวันแฟนเราก็ต้องจับได้”

น้องฟร้องกับพี่เอ้คบกันกี่ปีแล้ว? เอ้ : “ปีนี้ 6 แล้วนะ สอนเขา วันที่พี่เสียใจมากๆ พี่ตัดสินใจแล้วว่าเลิกจริงๆ พี่เสียใจมากไม่น่าเชื่อว่าคนที่เราไว้ใจกลายเป็นว่าวันนั้นจับผิดได้ ทุกอย่างเขาขอโทษ พี่มีกฎเหล็กของพี่เลยนะ ขอโทรศัพท์ จากที่ไม่เคยจุกจิกเลยนะ ดูโทรศัพท์มือถือ ขอรหัสดูได้หมดในไอจี เฟซบุ๊ก ทุกอย่างที่เป็นของเขา แล้วโทรศัพท์เขา ขอดูเอง รับเองทุกอย่าง ความที่เราไม่เชื่อใจแล้ว” ฟร้อง : “ทุกวันนี้ให้รหัสเฟซทุกอย่างเลยครับ”

เอ้ : “ก็จะบอกเขาว่าตอนนี้อาจจะลำบากนิดนึงนะการใช้ชีวิต ฟร้องอาจจะไม่เหมือนเดิมที่ปล่อย เพราะว่าเอ้ระแวงแล้ว ผู้หญิงทุกคนใครที่โดนสามีสวมเขา ทุกคนจะเหมือนเอ้หมด มันระแวง เหมือนแก้วมันร้าว มันรู้สึกต้องระแวง กลายเป็นคนโรคจิตเหมือนกันนะ เราไม่ชอบแบบนี้ เราไม่มีนิสัยแบบนี้มาก่อน”

ถ้าเราระแวงมันจะมีความสุขในการใช้ชีวิตคู่เหรอ? เอ้ : “ช่วงแรกไม่มีความสุขเลย ช่วงแรกอยากเลิกมากเลย เพราะว่ากลายเป็นผู้หญิงที่จิตตกต้องนั่งระแวง ไปไหนก็ต้องไปกับเขา ซึ่งบางทีไปกลางคืน เราก็ขี้เกียจไป ซึ่งมันรู้สึกไม่ใช่ตัวเรา แล้วมันน่าเบื่อ อยากเลิกมาก ขอเลิกวันละ 100 กว่ารอบ”

แล้วฟร้องรู้สึกยังไงบ้าง พอโดนบอกเลิกขนาดนี้? ฟร้อง : “รู้สึกเครียดครับ กังวลว่าจะโดนทิ้ง”

แสดงว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีเรื่องผู้หญิงเลย? เอ้ : “มีไปเที่ยวกลางคืนบ้าง ผู้หญิงกลางคืนเข้ามาเล่นมาคุยเอานมมาสีก็ไม่ได้ว่าอะไรเป็นเรื่องปกติ แต่ที่คุยแอบคุยแบบนี้เพิ่งเจอครั้งแรก แล้วผู้หญิงทางนู้นมันก็แรงด้วยไง พอมีเรื่องกับเราเสร็จ ตอนเช้ามันลงแคปชั่น โอ๊ย…พี่ไม่ได้มาอ่อย แต่พี่อร่อยนะจ๊ะน้อง น้องไม่ใช่เสือ แต่พี่อยากเป็นแมวให้น้องขย้ำ”

ถ้าคู่กรณีดูอยู่ อยากบอกอะไรเขา? เอ้ : “อยากบอกน้องๆ ทุกคน หลายคนอาจจะมีดราม่าทัวร์ลง มึงแก่กว่านิ เขาต้องไปหาสาวๆ ใช่ เข้าใจ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง แต่ถ้าคนเรามีศีลธรรม มีจรรยาบรรณการที่ผิดลูกผิดเมียคนอื่นตกนรกไม่รู้กี่ขุม มันไม่ใช่เรื่องสนุก น้องลองโดนบ้างสิจะได้รู้ว่ารู้สึกยังไง อีกอย่างนึงคิดก่อนทำว่าจะทำเป็นยังไง แล้วดูซะก่อนว่าเมียหลวงเขาแรงแค่ไหน ฉันไม่ได้เป็นเมียหลวงเรียบร้อยนะ ฉันกล้าทุกอย่าง กล้าชนด้วย ใครที่จะเข้ามา ถ้าฟร้องเลือกแล้วฉันจะไปให้ เราจะเคารพการตัดสินใจของแฟนเรา แต่นั่นคือมาอ่อย แล้วแฟนเราเผลอใจคุยกัน แต่เอาจริงๆ เขาปกป้องเธอไหม ถ้าผู้หญิงรักฟร้องจริง ตอนมีปัญหากับเอ้ เขาต้องกล้าเผชิญหน้ากับเอ้ แล้วบอกอยากได้ฟร้องจริงๆ เขาดูแลฟร้องอย่างพี่เอ้ดูได้ ฟร้องไปคบอย่างนั้นพี่โอเค แต่เอาเข้าจริงๆ ผู้หญิงบอกไม่ เพราะตัวเขาเองก็มีคนอื่นดูแลเช่นกัน เขาไม่อยากให้มีปัญหาไง

 

ก็ฝากบอกทุกคนเลย พี่ไม่ใช่เป็นคนที่หวงสามีมาก หรือว่าอาละวาดขนาดนี้ แต่ว่าเอาความจริงมาคุยกัน ถ้าเราโดนแบบนี้บ้างจะรู้สึกยังไง เอาใจเขามาใส่ใจเรา คนเรามีจิตใจ ดาราก็คนจะทนทำไมหนักหนา มันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นน้องจะทำอะไรกัน หรือน้องจะแอบคุยกันอย่างนี้ มึงกล้ามาขอกูตรงๆ นี่ ถ้าให้ได้ ถ้าฟร้องเลือกกูยกให้เลย แล้วจบแค่นี้ พี่เป็นคนตรงมาก ฟร้องจะรู้นิสัยพี่ เอาตรงๆ นะคะ ผู้ชายทุกคนที่จะมีชู้หรือเริ่มรักสนุกแล้วไม่คิดถึงครอบครัว มันเป็นเรื่องที่ผิดมากนะคะ เพราะวันนึงคนที่ดีกับคุณที่สุด เขาไปจากคุณแล้ว คุณจะกลับมาหาเขาอีกไม่ได้แล้ว ดังนั้นบทเรียนเป็นครู”

ครั้งนี้ได้บทเรียนอะไรจากการนอกลู่ นอกทางบ้าง? ฟร้อง : “ได้หลายอย่างเลยครับ ต้องไม่ประมาท รอบคอบ ต้องไม่ทำให้ผู้หญิงที่เรารักเสียใจ ถ้าเกิดเราทำพลาดไปแล้วพี่เอ้เสียใจมันจะแก้ไขไม่ได้แล้ว”

ตอนนั้นเราไปคุยกับผู้หญิงอื่น มันตื่นเต้นเหรอ? ฟร้อง : “ตอนนั้นเผลอใจไปนิดเดียวครับ เราเหงาด้วย ฟร้องไปส่งพี่เอ้ทำงานถ่ายรายการ ฟร้องก็ไม่รู้ทำอะไร ไม่มีเพื่อนคุย”

เอ้ : “เขาไปกาญก็เจอกัน แช็ตบ้าง อยู่บ้านเดียวกัน แล้วผู้หญิงก็อ้อน แต่คำพูดที่เขาไลน์กันแล้วเราเจอมันก็จี๊ดไง คิดถึงพี่นะ เนี่ยไม่อยากไปกับพี่เอ้เลย ทำไมทุกอย่างต้องกลั่นแกล้งไม่ให้ฟร้องเจอกับพี่ด้วย แบบเห้ย อยู่กับฉัน ฟ้าดินกลั่นแกล้งอะไร ไปเลย เดี๋ยวยกให้”

แล้วอะไรที่ทำให้พี่เอ้ให้อภัย? เอ้ : “เพื่อนทุกคน แล้วคุณพ่อคุณแม่พี่ด้วย ตัวพี่เองด้วย อยากเลิกมาก พี่เก็บผ้าให้เขา แล้วโยนออกมาเลย บอกว่าไม่เอา พี่นิสัยเหมือนผู้ชาย ทำไมต้องให้เด็กมาสวมเขา กูไม่มีแฟนก็อยู่ได้ เสร็จแล้วคิดว่าที่ผ่านมามันเป็นยังไงความดีกับความเลว อันไหนมันมากกว่ากัน ความดีเขาเยอะกว่า ความเลวเขาครั้งเดียว ลองให้อภัยสักครั้งนึง ถ้าทำอีกคราวนี้คือจบ”

ณ ตอนนี้เราเติมความสุขกันยังไง? เอ้ : “ก็ดูแลกันและกันให้ดีที่สุด เพราะว่าบทเรียนเป็นครู แล้วฟร้องก็รู้ตัวว่าผิดจริงๆ เขาดีกว่าเดิมเยอะมาก แต่เราก็ยังอยู่ข้างใน มันยังรู้สึกอยู่ว่าจะเป็นอีกไหม ดีเกินไปก็รู้สึกว่าจะมีอะไรอีกไหม ถามทุกวันเลยว่าดีขนาดนี้มีอะไรอีกไหม” ฟร้อง : “ไม่มีแล้ว พอแล้วครับ”

พอเปิดเผยเรื่องราวแบบนี้เรากลัวคนอื่นจะซ้ำเติมไหม? เอ้ : “ไม่เป็นไร โดนซ้ำอยู่แล้ว รู้ มันมีคนรักเรา มีคนเกลียดเรา มันมีดราม่า มันมีทัวร์ลง บางคนอาจจะซ้ำเติม บอกแล้วว่าเด็กมันต้องไม่เชื่อง หมดเงินก็จะไป มันเป็นเรื่องปกติ เป็นคนไม่ใส่ใจคนรอบข้าง บอกเลยนะคะใครจะด่า ใครจะว่าอะไรเชิญเลย เพราะเป็นคนที่แบบไม่เอาเรื่องคนอื่นมารกสมอง แล้วคนอื่นไม่ได้มาให้ข้าวพี่เอ้กิน เพราะฉะนั้นไม่ได้ใส่ใจอยากจะทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวมันก็กลับไปหาพวกเธอเอง ใครที่เป็นกำลังใจให้ขอบคุณนะคะ ใครที่เป็นหัวอกเมียหลวงจะเข้าใจกันดีมากๆ เรื่องแบบนี้มันหยามกันมาก”

ซื้อบ้านง้อแฟน? ฟร้อง : “ตอนนั้นฟร้องง้อพี่เอ้ 2-3 เดือน” เอ้ : “ช่วงนั้นไล่ตลอด ไล่เหมือนหมู เหมือนหมา พี่เป็นไบโพลาร์เลย 2 อารมณ์”

ฟร้องมีความรู้สึก เหนื่อย ท้อ บ้างไหม? ฟร้อง : “ใช่ๆ มีท้อบ้าง เรารู้ว่าพี่เอ้โกรธ ก็ยอมให้พี่เอ้ด่าตลอด วันนั้นน่าจะขับรถเล่น พี่เอ้ก็ถามมาทำอะไรที่นี่”

เอ้ : “มาดูอะไร ไม่มีอารมณ์ดู ฟร้องไปดูหน่อยสิ เราก็บอกไปดูเองแล้วกัน นอนอยู่ในรถไม่สนใจ เขาก็ง้อๆ บอกช่วงนี้โควิด คอนโดอันตราย คนขึ้นลงเยอะ ดูบ้านดีกว่า จนเราลงไปดู แล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวมาดูใหม่ แล้ววันที่ดูใหม่คือวันเซ็นสัญญา เขาซื้อบ้านให้เลย”

พี่เอ้โอเคไหมกับบ้านหลังนั้น? เอ้ : “ก็โอเค เขาทำง้อเรา เราบอกว่ามีบ้านด้วยกันแล้ว มีรถด้วยกันแล้ว ฟร้องจะไม่ทำอีกใช่ไหม ก็ยังพูดเรื่องเดิมอยู่ เขาก็รับปากว่าไม่ทำอีกแล้ว นี่เขาตัดสินใจใช้ชีวิตครอบครัวแล้ว เราก็บอกว่าน่าห่วงอยู่ ก็ยังไม่เชื่อใจ พอไปอยู่ในบ้านแล้วเป็นไง”
ฟร้อง : “เหมือนเรามีกิจกรรมทำ กวาดบ้าน เช็ดบ้าน ว่างก็ล้างรถ แล้วก็วิ่งหน้าบ้าน”

เห็นว่าไม่เอาแม่บ้านเข้าบ้านด้วย ทำเองทุกอย่าง? เอ้ : “ไม่เอาเลย กลัวโควิด ทำเองทุกอย่าง ทำกับข้าวเองด้วย จากคนที่ทำกับข้าวไม่เป็นเลย ทอดไข่ก็ไหม้ทุกวันนี้”

ที่ผ่านมาแม่เอ้อาจจะดูแลมาตลอด บ้านหลังนี้ทำไมฟร้องถึงตัดสินใจดูแล ทำไมเราถึงมีความสามารถในการดูแลได้ เพราะเราทำงานเก็บเงินมานาน? ฟร้อง : “อยากซื้อบ้านตั้งนานแล้วครับ ตอนนั้นอยู่คอนโดมันเล็ก ของก็เยอะ อึดอัด ช่วงโควิดด้วย ป้องกันตัว เหมือนเราเข้าลิฟท์อย่างนี้คนก็เยอะ เราก็กลัวจะติด เราอยากซื้อบ้านมากกว่า ก็เลยพาพี่เอ้ไปดู ก็ซื้อเลย”

เอ้ : “หลายคนอยากรู้ว่าฟร้องซื้อบ้านให้เอ้ เขาเอาเงินมาจากไหน”
ฟร้อง : “เอามาจากเงินเก็บครับ เก็บตั้งแต่ปีแรกที่อยู่กับพี่เอ้”
เอ้ : “เก็บเงินเก่งมาก เวลาเขาไปออกงานอีเว้นท์ เดินแบบ ออกรายการ เอ้ไม่เคยแตะเงินเลย เขาเก็บ แรกๆ คิดว่าเขางก คือเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะเก็บเงินซื้อบ้านให้เรา ในที่สุดเขาเก็บซื้อบ้านให้เรา เรารู้สึกว่าความงกเป็นประโยชน์ตรงนี้แหละ”
ฟร้อง : “ไม่ได้งก กินแค่ประหยัด ไม่ได้สั่งเยอะ ไปร้านอาหารพี่เอ้เขาจะสั่ง 4-5 อย่าง คือเราสั่งแค่พอกินก็พอแล้ว”

ย้ายมาบ้านหลังนี้น้องกุมารตามมาด้วยไหม ? เอ้ : “มาหมดเลย”

เป็นเหตุทำให้เราถูกลอตเตอรี่เป็นแสน? เอ้ : “ใช่ ย้ายมาอยู่คืนแรกเลย นั่งอยู่หน้าบ้าน มีศาล เราก็ไหว้หมด แล้วบอกว่าถ้าลูกมีโชคด้านนี้เดี๋ยวจะมาทำศาลให้ใหม่ พอวันรุ่งขึ้นหวยออก ซื้อทะเบียนรถไว้ 272 แล้วก็ออก 272 จริงๆ เฉียดรางวัลที่1 ตัวเดียว พอถูกก็ไปทำศาลให้ตามสัจจะอธิษฐาน ไปสวดมนต์ให้ แล้วก็มาเป็นผู้ดูแลศาลอย่างเป็นทางการ”

เห็นว่าดึกๆ เดินไปคุยกับเจ้าที่จนยามกลัว? เอ้ : “ใช่ค่ะ เดินไปตี2-3 บางทีคิดถึงตายายก็เดินไปนั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิตรงนั้น ยามก็มาถามทำไมมานั่งดึกๆ เราก็บอกสวดมนต์อยู่ แล้วยามก็ถามว่าคุยกับใคร คุยกับตายาย ยามก็เลยบอกว่างั้นไปแล้ว คือตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ถูกลอตเตอรี่ตลอดเลย”

คลิปสัมภาษณ์ เอ้ ชุติมา – ฟร้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน