ใหญ่ ฝันดี บุก! ลพบุรี ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-สัตว์เลี้ยง หนีน้ำท่วม
ใหญ่ ฝันดี บุก! – ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วม เหล่าดาราจิตอาสาต่างออกมาช่วยสังคมกันสุดกำลัง ไม่ว่าจะเป็น ใหญ่ ฝันดี จรรยาธนากร นำทีม “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ลงพื้นที่ไปยัง ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ช่วยอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวงถึงสุนัข และแมว ไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย
โดย ใหญ่ ฝันดี เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า “จริงๆ ทีมใจถึงใจ เราทำเกี่ยวกับเรื่องการช่วยกู้ภัยมานานไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ พวกเรารักในการเป็นนักกู้ภัย ตั้งแต่วัยรุ่น จนตอนนี้จะอายุ 45 ปีแล้ว ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์พวกเราก็จะมาช่วยเหลือทุกที่ ทุกแห่ง ที่เราสามารถไปได้”
เห็นโพสต์รูปภาพลงพื้นที่ช่วยผู้คนอพยพ? “จริงๆ ทีมของเราไปช่วยผู้คนตั้งแต่ 5-6 วันที่แล้วครับ ตั้งแต่ สุโขทัย พิษณุโลก ไล่มาเรื่อยๆจนมาถึงวันนี้เรามาอยู่ที่ ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เราเข้าไปช่วยในหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 จะมีหมู่บ้านคนเยอะมาก
เขาก็ร้องขอบอกว่าอยากจะให้เราไปช่วยอพยพคนออก แล้วก็มีสุนัขด้วย รวมถึงมีคนที่ติดอยู่ด้านในอยากจะออกมา เขาอยากให้เราเข้าไปช่วย เพราะน้ำมันค่อนข้างที่จะลึกมากประมาณ 2 เมตรได้ครับ ซึ่งน้ำก็หนักพอสมควร เนื่องจากมันไม่ไกลจากพื้นที่แม่น้ำป่าสักที่มันก็เอ่อล้นท่วมมาแบบฉับพลันครับ ก็เลยเป็นภาพแบบในคลิปที่เราเห็น”
ผู้อพยพมากน้อยแค่ไหน? “วันนี้เท่าที่เรานับได้ประมาณ 40 คนครับ เพราะว่ามีหลากหลายมูลนิธิเข้าทำงาน แต่ในส่วนที่เราได้รับมอบหมายหมู่ 7 กับ หมู่ 8 ประมาณ 10 ราย ซึ่งถ้ามองจาก 4 แยกลำนารายณ์ตรงเข้าไปจะเป็นหมู่บ้านเอื้ออาทร ซึ่งเป็นพื้นที่กว้าง และมีบ้านเอื้ออาทรเป็นจำนวนมาก มีประมาณ 300 กว่าครัวเรือน ที่ต้องการอพยพและเคลื่อนย้ายออกมา
พอเราเข้าไปถึงก็ได้ทำการรายงานตัวกับกู้ภัยว่ามีจุดไหนที่ยังไม่ได้ดำเนินการบ้าง หรือที่ที่จะให้เราเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม ก็แจกจ่ายงานกันไป ซึ่งก็มีทางสุนัข แมวที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เพราะว่าบางคนเขาออกมาช่วงกลางคืน แต่เขาไม่สามารถเอาสุนัขออกมาได้ เพราะว่าเขาเองต้องเดินฝ่าน้ำมา เราก็เลยต้องไปช่วยกันเอาออกมา
ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ค่อนข้างที่จะกลัวนะ เพราะถ้าสัตว์ตื่นในภาวะน้ำหลากมันก็จะอันตราย แต่เจ้าของเขาบอกว่าสามารถ ควบคุมในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงนั้นได้ เพราะสุนัขเขาน่ารัก เราก็เลยเข้าไปเพื่ออพยพออกมา
เราก็เห็นสภาพน้ำประมาณครึ่งเอว ครึ่งอก บางจุดก็สูงเท่าต้นคอ ก็มีอยู่ที่หนึ่งที่เราพยายามสุดความสามารถ คือตอนนั้นมันเป็นช่องทางน้ำผ่านที่ไหลแรงมาก แล้วเราต้องไปช่วยตากับยายออกมา แล้วก็มีสุนัขอีก 2 ตัวเป็นบางแก้ว พอช่วยเสร็จก็ให้นำเรือของเราทะลุฝ่าน้ำ ไปช่วยบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งมีสุนัขอยู่ 8 ตัว แล้วก็ไม่แน่ใจว่ามีคนอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะสัญญาณมือถือ และไฟฟ้ามันตัดครับ
เราก็พยายามฝ่าน้ำเข้าไป แต่มันเข้าไปไม่ได้ เราก็บอกเขาว่าในเรือเรามีผู้ประสบภัยประมาณ 3-4 คน แล้วมีคนแก่ 2 คน สุนัข 2 ตัว ถ้าสมมุติเราฝ่าน้ำแล้วมันเกิดพลาดพลั้งไป มันไม่คุ้มในจุดนั้น เรานึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ก็เลยพาผู้อพยพกลับไปที่ปลอดภัยก่อน
สุดท้ายก็ต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทางลัด แต่มันอาจจะไกลหน่อย ถามว่าเรารู้สึกแย่มั้ยก็นิดหนึ่ง แต่ประเมินแล้วความเสี่ยง กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด อันไหนมันคุ้มค่ากว่ากัน อีกเคสหนึ่ง คือเรากำลังนำเรือเข้าไปช่วยแมวทั้งหมด 4 ตัว
เขาบอกว่าเขาเห็นเราตั้งแต่ 10 โมงเช้า แต่ไม่กล้ามาขอให้เราไปช่วย จนเขาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นก็ประมาณบ่าย 3 เขายืนถือกรง แล้วบอกว่าหนูมีแมวติดอยู่ในบ้าน 4 ตัว อยากให้พี่พาเข้าไปหน่อย โชคดีมากที่พี่กำลังจะเอาเรือขึ้น ก็ได้ไปรับน้องแมวออกมา 4 ตัว ซึ่งจากที่เราเห็นหลายคนที่เป็นวัยรุ่นเขายังดูแลบ้านอยู่ แต่ส่วนใหญ่บ้านเอื้ออาทรผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงก็ได้นำตัวออกมาเกือบหมดแล้ว”
สภาพบ้านเรือนละแวกนั้นเสียหายแค่ไหน? “เรามองจากสายตาสภาพบ้านยังคงเหมือนเดิม เพราะว่าบ้านเอื้ออาทรจะเป็นบ้านแบบที่เราเคยเห็นกัน เป็นบ้านสองชั้นยกเสาสูง แต่พอเราเปิดประตูเข้าไปด้านใน มันก็เสียหายตามแบบที่เราเห็น บางคนตื่นตัวขนของขึ้นไปที่สูงก็จะเสียหายน้อยหน่อย แต่ที่เราเห็นก็คือรถจมน้ำ ตู้เย็นลอย ข้าวของกระจัดกระจายอยู่ด้านใน
ต้องบอกว่าเมื่อคืนน้ำมันมาเร็วมาก หลายคนก็ไม่คิดว่ามันจะมาเร็ว เขาบอกว่าในระยะเวลาที่อยู่มา 10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้เลย มีครั้งนี้ที่มาไวแล้วน้ำก็ยังค้างอยู่แบบนั้นด้วย เราเลยบอกว่านี่มันไม่ใช่น้ำท่วม แต่มันคือผลกระทบจากพายุ เราก็ได้แต่พูดปลอบใจ เพราะเราไปเพื่อบรรเทาทุกข์”
หลายคนบอกว่าน้ำท่วมปีนี้หนักกว่าปี พ.ศ. 2554? “ตอนปีพ.ศ.2554 เราก็เห็นตามสถานการณ์นั้น แต่พอมาปีนี้ บางคนก็อาจจะมีความตกใจ แต่ส่วนตัวผม จากที่ติดตามข้อมูลในเรื่องของการบรรเทาภัยพิบัติ ในเรื่องของน้ำ พายุลูกนี้มันมีปริมาณน้ำสูงจริง แต่จริงๆ การเก็บกักน้ำของเรายังสามารถรับได้อยู่ แล้วก็ยังมีโครงการแก้มลิง อีก 12 แก้มลิง
มีส่วนของการเติมพร่องน้ำในระบบต่างๆที่เราตรวจเช็กแล้ว มันก็ยังเหลือปริมาณอีกมากที่มันยังรับได้ ซึ่งในเวลานี้ความรู้สึกของผม มันอาจจะยังไม่ถึงขั้นวิกฤตที่จะเข้ามาโจมตีในกรุงเทพฯ หรือทำให้ทุกคนตื่นตระหนกไป มันอาจจะเป็นช่วงเวลา แต่เราไม่สามารถที่จะพูดได้ว่ามันจะไม่เกิดหรือเกิด
ดังนั้นผมอยากจะให้ทุกคนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการเป็นหลัก ซึ่งบางคนอาจจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับหน่วยงานราชการ แต่ผมคิดว่าหน่วยงานข้าราชการมีข้อมูลที่ดี และถูกต้องแม่นยำมากกว่า”
นอกจากการช่วยอพยพ มีการช่วยในเรื่องของถุงยังชีพ? “เยอะแยะมากมาย คือมันกลายเป็นคอนเซ็ปต์ของประเทศไทยแล้วเวลาเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ถุงยังชีพถึงเร็วมาก เพราะว่าเรามีจิตอาสาเยอะที่สุดในโลก เรามีคนไทยที่รักกัน เห็นถึงความเจ็บปวด และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีน้อยกว่าเสมอโดยที่ไม่ต้องเอ่ย เพจใจถึงใจไม่ทิ้งกันก็จะมีคนเข้ามาตลอดเวลา บอกอยากให้ถุงยังชีพจะเอาไปส่งให้ได้ที่ไหน
ซึ่งผมอธิบายในเรื่องนี้ไม่ค่อยได้เพราะ เวลาเกิดวิกฤติผมจะดูในเรื่องของวิกฤตนั้นๆก่อน วิกฤติแรก คือการเคลื่อนย้ายและอพยพ แล้วถ้าเกิดวิกฤตแรกหายไปแล้ว มันค่อยเป็นช่วงของการบรรเทาทุกข์ เสี้ยววินาทีนั้นเราถึงเอาของบรรเทาทุกข์เข้าไปให้อย่างถุงยังชีพที่ทุกคนฝากมานี่แหละ
เรามีเครื่องฉีดน้ำไปทำความสะอาดโรงเรียน ทำความสะอาดชุมชนเราก็ทำทุกอย่าง เพียงแต่ว่าจะมากหรือน้อยไม่รู้แต่เราเริ่มจากจุดเล็กๆ เพราะทีมผมมีแค่ 7-10 คนต่อเรือหนึ่งลำ เราก็ทำในจุดที่เราพอจะทำได้ทำให้ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดครับ ชีวิตเราคือสิ่งที่สำคัญ”
