ไทด์ เอกพันธ์ พิชิตภารกิจช่วยน้ำท่วม-แจกถุงยังชีพ ไม่แคร์คนปั่น อันไลก์

ไทด์ เอกพันธ์ – เรียกว่าเป็นฮีโร่ อาสาสมัครกู้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนแทบจะทุกวิกฤต สำหรับคู่พี่น้องฝาแฝดนักแสดงรุ่นใหญ่ ไทด์ เอกพันธ์ และ ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ได้ออกมาช่วยอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม แจกถุงยังชีพ และอาหารปรุงสำเร็จรูปให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งยังได้ควักเงินส่วนตัวกว่า 4 แสน แจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

ล่าสุด ไทด์ เอกพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ถึงการออกมาช่วยเหลือสังคมท่ามกลางวิกฤตโควิดที่แทรกซ้อนด้วยภัยพิบัติน้ำท่วม แต่ดันถูกกระแสดราม่าโจมตี ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ท้อถอยทำความดี หลังบิณฑ์โพสต์ข้อความปลุกพลังคนไทยรักกัน

ตอนนี้เตรียมตัวรับสถานการณ์ฉุกเฉิน? ตอนนี้อยู่แถวบางบอนครับ กำลังจะมาเอาถุงยังชีพไปที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ถุงยังชีพ 2 พันถุง ข้าวสาร 9 ตัน เดี๋ยวเราจะกระจายออกไปตามแต่ละจังหวัดที่เขาต้องการถุงยังชีพ

หลายวันที่ผ่านมาบุกไปช่วยน้ำท่วมหลายที่ ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง? “ใช่ครับ ภาวนานะ ภาวนาขอให้ฝนอย่าตกมาเพิ่ม เพราะน้ำจากเขื่อนมันก็สุดวิสัยที่เขาจะต้องระบายน้ำออก ทีนี้คนที่อยู่ปลายเขื่อน หรือหน้าเขื่อนก็ได้รับผลกระทบ

ตอนนี้กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยก็บอกแล้วว่ากรุงเทพฯ ถ้าเกิดท่วมน่าจะไม่เท่ากับปี พ.ศ.2554 เพราะถ้าไล่มาจาก อุทัยธานี ชัยนาท น้ำในเขื่อนภูมิพล น้ำในเขื่อนสิริกิติ์มันก็ยังไม่เต็ม น้ำมันยังรับเพิ่มได้อีกครับ คิดว่าน่าจะเป็นข่าวดีที่พวกเราทุกคนจะปลอดภัยกับน้ำท่วมกรุงเทพฯ”

ระหว่างลงพื้นที่ เจอปัญหาอะไรบ้าง? ปัญหาของเราอันดับแรกเลย เครื่องมือมีไม่เพียงพอกับการที่เราได้เข้าไปช่วย บางครั้งเจอกระแสน้ำที่มันไหลเชี่ยวกราก เราก็ห่วงชีวิตของคนแก่ ผู้สูงอายุเขาไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้ เวลาบรรทุกคนใจแป้วกันทุกทีว่าถ้าเกิดมันเป็นอะไรกันขึ้นมา ถ้าเกิดเรือพลิกคว่ำขึ้นมามันคงจะเป็นโศกนาฏกรรมที่เราต้องจดจำไปตลอดชีวิต

เราก็เลยพยายามบอกทางมูลนิธิร่วมกตัญญูว่าขอให้เพิ่มเสื้อชูชีพที่ป้องกันชีวิตเพิ่มมาเยอะๆ เลย สมมุติว่ามีคนในเรือ 10 คน เราควรจะมีเสื้อชูชีพให้ครบ 10 คน เราก็จะได้ปลอดภัย ไม่เป็นกังวลกับการไปช่วยเหลือคนครับ อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของไฟฟ้า อาหาร เราไม่สามารถไปซัพพอร์ตให้กับคนที่เขาอยู่ในบ้าน

พอเรือผ่านไป เขาก็จะถามมีข้าวมั้ย มีน้ำมั้ย หิวน้ำ บางทีเราช่วยเขามาตลอด จนมาถึงที่ที่เขาต้องการเรามากๆ น้ำหมด ข้าวหมด มันก็เป็นปัญหา เพราะเราต้องกลับไปเอา ซึ่งกว่าจะใช้เวลากลับไป ครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึงให้เขา ปัญหามีเยอะแยะครับ นอกจากเราต้องแก้ไขปัญหาที่มันเกิดขึ้นเฉพาะหน้า นั่นแหละครับถือว่าคุณจะผ่านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย”

เห็นประกาศขอเรือช่วยน้ำท่วม ตอนนี้ได้หรือยัง? “ได้แล้วครับ บริษัทโคลีเซี่ยม โดยคุณ พรพิมล มั่นฤทัย บริจาคให้เรา 1 ลำ ราคา 450,000 บาท แล้วก็บริษัทซูเลียน โดยท่าน ดร.ปิยะวัฒน์ บริจาคให้อีก 1 แสนบาท เอาไว้ซื้อเสื้อชูชีพ รวมทั้งหมด 550,000 บาทครับที่คุณบิณฑ์ได้รับ เรือลำนี้เราก็จะเอาไปใช้งานเกี่ยวกับการไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในบ้าน เราจะได้มีเรือเพิ่มเป็นศักยภาพเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ลำ”

เห็นควักเงินส่วนตัวช่วยชาวบ้าน? ล่าสุดที่สุโขทัยพี่บิณฑ์เอาไป 4 แสน อยู่ได้ประมาณ 2 คืน 3 วัน หมดเกลี้ยง เพราะพี่บิณฑ์เขาจะเอาปัจจัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยด้วย ครอบครัวละ 500 บาท ถ้าเกิดมีคนแก่ป่วยติดเตียงก็จะให้ครอบครัวละ 1 พันบาท อย่างบุคคลธรรมดาที่มารับข้าวสารอาหารแห้งก็จะได้คนละ 300 บาท พี่บิณฑ์เขาจะแจกตลอด

แต่เวลาผมไป ผมไปอีกสายหนึ่ง คือตอนนั้นผมก็รีบไปโดยที่ไม่มีเงินสด เอาไปแต่ข้าวสารอาหารแห้งไปเลยไม่ได้แจกเงินให้กับชาวบ้าน แจกแต่รอยยิ้ม และข้าวสารอาหารแห้ง(ยิ้ม) และข้าวปรุงสำเร็จรูปครับ”

 

ตอนนี้มีภัยพิบัติแทรกซ้อน ทั้งโควิดและน้ำท่วมทำให้ต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น? ตอนนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิอื่นๆ ก็ยังมีคนที่เขาช่วยเหลือโควิดอยู่ครับ เราก็แบ่งงานกัน เราก็ยังมีการช่วยเหลือโควิดอยู่ เราจะต้องเอาผู้ป่วยโควิดย้ายจากที่บ้านไปส่งรพ.สนามก็ยังทำอยู่ครับ

แต่ตอนนี้กังวลอยู่เรื่องหนึ่งในเรื่องของโควิดกับน้ำท่วมที่มันควบคู่กันไป โควิดก็ยังไม่จางหาย น้ำก็มาหลายจังหวัดก็จะเจอสภาพแบบนี้ บางครั้งโควิดกับน้ำดูซิว่าเขากลัวอะไร เขากลัวน้ำมากกว่าโควิดอีก มีหลายคนถามผมว่า ตอนผมไปช่วยที่ลพบุรี นครสวรรค์ ทำไมผมไม่ใส่แมสก์ เห็นขับเรือ เห็นไปช่วยไม่เคยใส่แมสก์

เพราะผมเคยใส่ครั้งหนึ่ง แล้วผมต้องกระโดดลงไปในน้ำ น้ำมันตีเข้าหน้า แล้วแมสก์ที่เราใส่มันก็เหี่ยว มากองที่ปากมันก็สกปรก พอเปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีก เพราะผมขับเรือน้ำมันก็กระเด็นมาอยู่ที่แมสก์ เป็นที่รวมเชื้อโรค เราก็เลยถอดแมสก์ ถ้าเกิดมันจะเป็นอะไรไปก็ให้มันเป็นไป เพราะเรามาช่วยเขา ไปเจอชาวบ้านที่เจอน้ำท่วมเขาก็ไม่ใส่แมสก์ เพราะใส่แล้วมันอึดอัด บางทีเขาต้องพยุงตัวอยู่ในน้ำ การหายใจมันก็เป็นสิ่งที่สำคัญครับ”

ทำงานหนักแค่ไหน? วันที่ผมไปช่วยวันแรกไม่ได้นอนเลย 24 ชั่วโมงเต็มๆ ไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อน ทำงานช่วยเหลือกันอย่างเดียว ทุกคนนี่มาจากสุโขทัย นครสวรรค์ ก็มาขนข้าวสารกัน ทำงานเร่งเวลาเพื่อที่เราจะได้เข้าไปในพื้นที่ที่เขาต้องการข้าวสารอาหารแห้ง ต้องการข้าวที่จะไปปรุงสำเร็จรูปเพื่อแจกจ่ายตามบ้านคนต่างๆ ที่เขายังไม่สามารถออกไปไหนได้

เราก็จะมีครัวของมูลนิธิร่วมกตัญญูเอาไปปรุงอาหาร เช้า กลางวัน เย็น เราส่ง 3 เวลาตามชุนชมต่างๆ ก็เอาเรือเข้าไปครับ แล้วอาสาสมัครเราก็น่ารักนะ อยู่ตามต่างจังหวัด 21 จังหวัดครับที่เรามีพี่น้องในเครือข่ายมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ด้วย เราก็ออกไปช่วยกันทุกๆ จังหวัด ทุกๆ อำเภอครับ”

พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ ท้อใจ เสียน้ำตา? มีครับ มีบ่อย บางทีมันเสียน้ำตา เพราะเราเห็นสภาพของคนที่เขาสูญเสีย เขาเก็บเงินมาทั้งชีวิตซื้อของ แต่สุดท้ายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง ของที่เขารัก ของที่เขาเก็บมาทั้งชีวิต มันหายวับไปกับตา นั่งร้องไห้ สงสาร ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ร้องไห้ไปกับเขา คอยปลอบโยน

บางทีเราก็นึกเจ็บใจตัวเองว่าทำไมเราไม่พกเงินไปมากกว่านั้น บางทีเราต้องการเอาเงินให้เขา ปลอบใจเขาให้เขาไปซื้อใหม่ บางทีมันไม่มีครับ แต่เราก็ไม่คิดครับว่าเราจะมาเจอแบบนี้ ส่วนมากเราจะเสียน้ำตาด้วยความที่เราขี้สงสาร เห็นคนอื่นร้องไห้ เราก็ร้องไห้ตามเขาแล้ว(ยิ้ม)

เห็นบิณฑ์โพสต์เฟซบุ๊กป้อง ตูน บอดี้สแลม ปลุกพลังคนไทยรักกันจากกระแสโจมตีอันไลก์? “มีประปรายไม่มากครับ มันก็มีทุกที่ เราจะทำดีแค่ไหน ทำช่วยเหลือคนอื่นจนกระทั่งตัวเราตายก็มีคนนินทา มีคนด่าอยู่ดี บนโลกใบนี้มันมีคนอิจฉา มันมีคนไม่พอใจกับคนที่ทำความดี เห็นคนทำความดีไม่ได้ก็ขึ้นเลย ต้องไปโพสต์ขอให้ตัวเองได้ทำหน้าที่ที่ไปด่าคนอื่น แค่นั้นเขาก็มีความสุขแล้ว

อย่างพี่ตูนเขาร้องเพลง แต่งเพลงอะไรขึ้นมาก็แล้วแต่ เขาทำความดีกันทุกคน โดนนินทา ถูกต่อว่าหมด เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจของพวกนี้ อย่าสนใจคำเหล่านี้ คำเหล่านี้จะออกมากี่ล้านคำ กี่แสนคำก็ไม่ทำให้เราท้อถอยกับการทำความดี ท้อถอยกับการช่วยเหลือสังคม ผมว่าสิ่งพวกนี้มันก็นะ มันเป็นสิ่งที่กระตุ้น เตือนให้เราไม่หยุดทำความดี”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน