‘ฮยอนบิน’สร้างสมดุลชีวิต-งาน – ตั้งแต่ผลงานซีรีส์เรื่องล่าสุด ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing on You) ของหนุ่มฮอต ฮยอนบิน ออกอากาศไป นับนิ้วดูผ่านมาถึงตอนนี้ก็ปีกว่าเข้าไปแล้ว แฟนๆ ต่างเฝ้ารอผลงานชิ้นใหม่ของเขากันอย่างใจจดจ่อ
ล่าสุดเจ้าตัวเป็นแบบถ่ายเซ็ตแฟชั่นให้กับนิตยสาร w เกาหลี พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงงานหนังใหม่ 2 เรื่อง ที่ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อย รอลุ้นก็แต่วันเข้าฉาย รวมทั้งการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและหน้าที่การงาน
สำหรับโอปป้าสุดฮอตคนนี้เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคนพูดน้อย แต่จะมีอยู่เรื่องหนึ่งที่สามารถทำให้เขาสนทนาได้แบบยาวๆ โดยเจ้าตัวแย้มให้ฟังว่าถ้าพูดกันถึงเรื่องกอล์ฟเขาจะเป็นคนที่พูดเก่งขึ้นมาทันที พร้อมบอกเหตุผลทำไมถึงหลงเสน่ห์กีฬาชนิดนี้
“ผมชอบตรงที่ผมสามารถเดินไปได้เรื่อยๆ เท่าที่ผมต้องการในสถานที่นั้น พร้อมกับอากาศดีๆ บรรยากาศสวยๆ โดยไม่ต้องกังวลถึงใคร และตอนที่ผมเล่นกอล์ฟสิ่งที่กังวลอยู่ในหัวมันก็จะหายไป ผมจะจดจ่ออยู่กับแค่ความสงบในชั่วขณะนั้น”
พูดถึงเรื่องงานแสดง เมื่อเร็วๆ นี้ โอปป้าของเราเพิ่งจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Confidential Assignment 2 : International เสร็จสิ้นลง หลังจากปิดกล้องหนังเรื่อง The Point Men ไปเมื่อปีที่แล้ว
เขาสารภาพว่าการทำงานแบบต่อเนื่องไม่ได้เบรกระหว่างหนังสองเรื่องนี้ มันเหมือนกับการเหยียบคันเร่งอยู่ตลอดเวลา
“เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้ครุ่นคิดเรื่องที่ว่าผมควรจะใช้เวลาในช่วงนี้ให้มันเกิดเป็นประโยชน์กับตัวผมเองมากที่สุด ผมต้องการความสำเร็จความก้าวหน้าอะไรบางอย่าง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น”
ในการแสดงแต่ละเรื่องที่ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทแตกต่างกันออกไป เจ้าตัวได้บอกถึงเคล็ดลับส่วนตัวที่เขาทำเพื่อจะนำเขาเข้าสู่บทบาทใหม่ๆ “สิ่งแรกเลยผมจะดูที่สถานการณ์หรือว่าสคริปต์ ดูว่าสภาพแวดล้อมของตัวละครของผมเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่อง Crash Landing on You ผมต้องรับบทเป็นคนเกาหลีเหนือ ดังนั้นผมจำเป็นต้องพูดสำเนียงแบบเกาหลีเหนือและต้องรู้วิธีการเล่นเปียโน แล้วจากตรงนั้นผมก็จะรู้ถึงสิ่งสำคัญที่ผมจะต้องเตรียมตัวสำหรับบทบาทนั้นๆ”
พูดถึง Crash Landing on You ที่โด่งดังไม่ใช่แค่เฉพาะที่เกาหลี หรือเอเชีย แต่เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อถูกถามว่าเขาได้รับฟีดแบ็กจากซีรีส์เรื่องนี้กลับมาอย่างไรบ้าง เจ้าตัวบอก “ผมได้รับฟีดแบ็กมาหลายอย่าง เช่นว่าคนจากหลากหลายประเทศได้ดู ซีรีส์เรื่องนี้ แดเนียล เฮนนี ที่ถ่ายทำเรื่อง Confidential Assignment 2 : International ด้วยกันกับผม เขาบอกว่าเรื่องนี้ดังมากๆ เพื่อนๆ ของเขาที่อเมริกากำชับเขามาเลยว่าต้องถ่ายรูปกับผมให้ได้”
ฮยอนบินเล่าว่า เขาสนุกสนานกับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะต้องเจอะเจอกับความยากลำบากก็ตาม และเมื่อถูกถามว่ามีปัญหากับฉากแอ๊กชั่นในเรื่องบ้างหรือไม่ เจ้าตัวเผย “นั่นเป็นสิ่งที่ผมเคยทำมาก่อนแล้วและผมก็รู้ว่าจะต้องทำมันอีก มันก็เลยโอเค แต่เอาเข้าจริงปัญหามันก็เกิดจากสิ่งที่ผมเคยทำมาก่อนนั่นแหละ”
“ผมได้สร้างคาแร็กเตอร์ของ ชอลรยอง ตำรวจสายสืบจากเกาหลีเหนือ ในหนัง Confidential Assignment ขึ้นมาแล้ว ผมคิดว่ามันคงโอเคที่จะใส่ คาแร็กเตอร์แบบนั้นเข้าไปในสถานการณ์ที่มันต่างออกไป แต่ผมเข้าใจผิด ภาคต่อมันต้องมีอะไรพัฒนาไปมากกว่าจุดเริ่มต้น มันเลยทำให้ผมต้องพัฒนาคาแร็กเตอร์ตัวละครตัวนี้ให้มากขึ้นไปอีก”
เขายังอธิบายถึงเรื่องที่ว่าเขาแก้ปัญหาอย่างไรกับสถานการณ์นั้น “เหมือนที่ผมบอกไปก่อนหน้า ผมหาส่วนประกอบต่างๆ เพื่อเพิ่มเข้าไป ด้วยการสังเกตที่ความสัมพันธ์ของคาแร็กเตอร์ของผมที่มีต่อสิ่งอื่นๆ ในแต่ละฉากแต่ละตอน ผมคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับว่า ชอลรยอง จะเปลี่ยนไปอย่างไร หลังจากที่เขาเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา และด้วยการหาสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มันก็ทำให้ผมเสร็จภารกิจการแสดงไปได้ด้วยดี”
เมื่อถูกถามว่าควรตั้งตารออะไรใน “The Point Men” และ “Confidential Assignment 2 : International” ฮยอนบินหัวเราะ “อย่าตั้งหน้าตั้งตารอ แค่รอ จะมีประโยชน์อะไรในการคาดการณ์บางอย่าง จะดีกว่าที่จะไม่ทำอย่างนั้น”
ปัจจุบันเขาอายุ 39 ปีแล้ว และในไม่ช้าก็จะเข้าสู่อายุ 40 ปี ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจกับการที่เขาได้ทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเหมาะสมตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าตัวเสริมว่า “แทนที่จะเป็นสิ่งที่ผมพอใจ มันกลับมีบางอย่างที่ผมค้นพบว่ามันน่าเสียดาย ผมรู้สึกเหมือนว่าค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ”
“บนเส้นทางของอาชีพนี้เป็นเส้นทางที่ต้องมีทางแยก ด้านหนึ่งผมทำเพื่อให้ผมตอบสนองกับสิ่งที่ผู้คนต้องการ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินชีวิตตามความคาดหวัง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมต้องทำสุดความสามารถเท่าที่ผมจะทำได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมก็สงสัยว่าคนคนนี้ที่พยายามทำตามความคาดหวัง ของทุกคนคือผมจริงๆ เหรอ ผมเกิดคำถามกับตัวเองว่าผมกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า แล้วแท้จริงตัวผมเป็นใคร มันเป็นเรื่องค่อนข้างน่ากลัว”
เขายังได้พูดถึงวิธีที่พยายามสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน “หัวใจหลักก็คือการหาจุดสมดุลเพื่อไม่ให้งานของผมมันกลืนกินผมไป ซึ่งเมื่อผมรู้แน่ชัดว่าตัวผมคือใครและใช้เวลาทำให้พาร์ตนั้นของผมพึงพอใจ ผมก็คิดว่ามันจะเป็นส่วนที่เป็นประโยชน์กับพาร์ตการแสดงของผมด้วยเหมือนกัน”
เมื่อถามถึงเรื่องของความมุ่งหวังในอนาคต เจ้าตัวบอกว่า “จากมุมมองของมืออาชีพ ผมหวังว่าความหลงใหลในการแสดงของผมนั้นจะไม่หายไป โดยส่วนตัวแล้ว แม้ว่างานของผมมันจะไม่ปกติ แต่ตัวผมเองก็อยากเจอเรื่องปกติบ้าง จริงๆ ไม่ได้มีใครมาบังคับกะเกณฑ์ผม แต่สุดท้ายมันก็มีข้อจำกัดบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ดี”
ฮยอนบินครุ่นคิดถึงวิธีการที่เขาจะแสดงตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณชนให้มากขึ้น โดยกล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเปิดเผยด้านที่เป็นตัวตนของผมจริงๆ ในแบบเดียวกันกับที่ผมเปิดเผยด้านการแสดงผ่าน โปรเจ็กต์งานต่างๆ แม้ว่าในขณะที่แสดง ผมจะใช้บุคลิกที่แท้จริงของผมบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งความจริงการที่ผมมีตัวตน และความจริงที่ว่ามีแฟนๆ ที่รักที่ชื่นชมผม มันก็มาจากงานแสดง ดังนั้นผมก็ควรจะเข้าถึงทุกคนด้วยผลงานของผม ที่ตั้งใจทำมันออกมาอย่างดี”
โอปป้าแวะมาพูดคุยให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงผ่านบทสัมภาษณ์ที่แสดงให้เห็นตัวตน และแม้จะยังไม่มีงานซีรีส์ใหม่มาให้ชม แต่งานภาพยนตร์ใหม่สองเรื่องที่จ่อคิวเข้าฉาย ก็น่าจะทำให้ฟินกันได้อย่างแน่นอน
