วันที่ 12 ธ.ค. ห้อง Astor Ballroom โรงแรมเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ถ.ราชดำริ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติไทยและพรีเซนเตอร์คนแรกของถ่านพานาโซนิคอัลคาไลน์ ให้สัมภาษณ์ในงาน “Panasonic Alkaline, Power 10X พลังไฟยาวนานกว่า 10 เท่า” อัพเดตความรักกับแฟนสาว เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร ที่นับวันยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆ พร้อมโต้ข่าวลือซื้อบ้าน 30 ล้านบาท ไว้เตรียมเป็นเรือนหอ
โดย ‘เจ’ กล่าวว่า “วันนี้แฟนผมไม่ได้มาเซอร์ไพรส์ ตอนแรกก็จะมาอยู่เหมือนกัน แต่เขาไปขี่อูฐมา เลยอยากให้เขาพักผ่อนเพราะเพิ่งกลับมาจากอาบูดาบี ส่วนผมเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ครั้งนี้จะอยู่ประมาณหนึ่งเดือน ถือว่าเยอะในระดับที่ฟุตบอลทั่วไปพักกัน ตอนเล่นอยู่ที่เมืองไทยผมไม่ได้พักเลย เนื่องจากที่เมืองไทยมีแมตช์ในการแข่งขันเยอะกว่า แต่อยู่ที่โน่นค่อนข้างที่จะวางแผนให้นักฟุตบอลได้พักเยอะกว่า เลยจะได้อยู่ถึงเคาต์ดาวน์ปีใหม่ด้วย ปกติผมจะไปสวดมนต์ข้ามปีตลอด ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะถ้าไปเที่ยวช่วงนั้นคนน่าจะเยอะ ไม่ได้เป็นส่วนตัวมากและรถติดด้วย”
“หนึ่งเดือนที่กลับมาก็แพลนเวลาให้กับครอบครัวและแฟน แต่อย่างแฟนผมเขาไปเที่ยวบ่อยอยู่แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะพาไปไหน ส่วนครอบครัวไม่ค่อยได้เที่ยวบ่อย เขาขอแค่อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว ตอนนี้ก็มีความคิดว่าอยากจะพาทั้งครอบครัวและแฟนไปเที่ยวพร้อมกันเพราะต่างฝ่ายต่างเจอครอบครัวของกันและกันบ่อยอยู่แล้ว”
หลายคนแซวว่าคู่ของเรานับวันยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆ นักเตะร่างเล็กตอบว่า “ความหวานมีคงอยู่มานานแล้ว เรียกว่าอยู่ในตัว ไม่รู้เบาหวานจะขึ้นหรือเปล่า แต่ว่าความรักมันก็ต้องมีขมบ้าง ทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ผมชอบแกล้งเขา เวลาเล่นเกมก็เล่นด้วยกันไม่ได้เพราะคนใจร้อนสองคนมาเจอกัน บางทีเล่นคนละฝั่งก็ไม่ได้เกิดไปฆ่าเขาตายนี่เป็นเรื่องเลย (หัวเราะ) คือเล่นยังไงก็ได้ให้แพ้เขา เรียกว่าตั้งแต่คบกันมาทะเลาะกันแต่เรื่องไม่มีสาระครับ”
ช่วงเกือบหนึ่งปีที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย มีอุปสรรคเรื่องระยะทางบ้างไหม เจบอกว่า “อุปสรรคไม่ค่อยมี แฟนผมเป็นผู้ใหญ่ด้วย ผมเองก็ทำงานตั้งแต่เด็กค่อนข้างจะโตกว่าอายุอยู่แล้ว เลยไม่ได้มีใครงอแงว่าจะต้องมาหามาเจอกัน อีกอย่างเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ก็ทำให้ได้อยู่ใกล้กันแล้ว ทุกวันก่อนนอนและก่อนแข่งผมจะโทร.ไปขอกำลังใจจากครอบครัวและแฟนทุกครั้ง”
“ถามว่าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจยังไงในการที่ต้องอยู่ไกลกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เขาด่าและขู่ผมประจำว่า “เบบี๋อย่าเกเรนะ ถ้ายังไม่อยากตาย” บอกเลยว่าไม่ต้องขู่ แค่นี้ก็กลัวแล้วจ้า (หัวเราะ) คือผมเองก็ต้องทำให้เขาไว้ใจที่สุด แต่ก็ต้องเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุดด้วย มันถึงจะดีต่อความสัมพันธ์ว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันในอนาคตได้มั้ย ทุกคนมีข้อดีข้อเสียแต่ก็ต้องปรับเข้าหากันให้ได้ ถามว่าเขาบินไปหาที่ญี่ปุ่นบ่อยมั้ย เขาบินไปหาเกือบทุกเดือน คือจะสลับบินไประหว่างแฟนผมกับครอบครัว ผมเลยไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่”
รู้สึกยังไงที่เหมือนจะลบคำสบประมาทได้แล้วว่าคู่ของเราไม่น่าจะไปรอด นักเตะคนเดิมกล่าวว่า “ตอนแรกที่เปิดตัวทุกอย่างมันก็ไม่ได้สวยหรู มีคนด่าแฟนผมบ้าง ด่าผมบ้าง อย่างด่าผมไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงจะเซ้นสิทีฟกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ผมทำอะไรกับแฟนผมบ้างผมรู้ตัวดี เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนและก็ครอบครัวของเรา คนอื่นที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็อย่าไปให้ความสำคัญกับพวกเขา เดินหน้าต่อไป พวกเขาอาจจะอิจฉาคู่เรา แต่พวกเราไม่ได้อิจฉาพวกเขา”
หลายคนก็ลุ้นว่าปีหน้าจะแต่งเลยไหม เจบอกว่า “จริงๆ ก็มองอนาคตไว้อยู่แล้ว อยากวางแผนที่จะใช้ชีวิตคู่กับเขาเหมือนกัน แต่ก็ต้องคุยกับครอบครัวของเขาและครอบครัวของผมว่าจะยังไง ด้วยความที่ผมยังเด็กก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มเกริ่นยังไง แต่ว่าเรื่องนี้ก็มีคุยกันบ้าง เขาดีกับผมมาก ดูแลผมดีกว่าผมดูแลเขาอีก อีกอย่างพ่อแม่ของเขาก็น่ารักมาก รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เจอกับคนดีๆ”
เมย์เคยมาเปรยๆ บ้างไหมเพราะแก๊งเขาแต่งงานมีลูกกันเกือบหมดแล้ว เจตอบว่า “แน่นอน เขาชอบพูดอยู่แล้วเหมือนกดดัน ไม่ต้องกดดันจ้ะเบบี้ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปขออยู่แล้ว ตอนนี้ขอทำงานเก็บเงินก่อน แต่ไม่น่าจะนานเพราะเขาคงรอไม่ไหว ต้องเข้าใจเขาด้วยว่าอายุก็เริ่มมากขึ้น และเขาอยากมีครอบครัวมีหลานให้พ่อแม่เขา ครอบครัวผมเองก็อยากมีหลานเหมือนกัน”
“ผมไม่รู้ว่าสินสอดเขาจะแพงมั้ย คือผมก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น รวยน้ำใจดีกว่า ผมว่ามูลค่าเรื่องเงินมันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่คือความสุขที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจรึเปล่า”
เห็นมีเพจหนึ่งแซวว่าจะซื้อบ้าน 30 ล้านบาทเพื่อเตรียมเป็นเรือนหอไว้แล้ว “อ๋อ…ล่าสุดที่ลงใช่มั้ย ผมเพิ่งด่าไปเองครับ ตัวผมยังไม่รู้เลย เขารู้ดีกว่าผมอีก แล้วก็รู้ด้วยว่าใครทำ คือ เขาคงไปมองเรื่องสนามฟุตบอลมากกว่า บ้าน 30 ล้านเนี่ยใครจะมีตังค์ขนาดนั้น เรื่องพวกนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคต เรื่องของมูลค่ามันเป็นเรื่องนอกกาย ไม่ต้องซื้ออะไรเกินตัวก็ได้เอาแค่ที่เราพอไหว ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เตรียมเรือนหออะไร ผมก็ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น แต่ก็จะพยายามสร้างชีวิตไปด้วยกันกับเขา” เจกล่าวทิ้งท้าย
