บูม หมูทะ ส่งกำลังใจให้ พระมหาสมปอง ชี้ชัด พส.ไม่รับรีวิว แค่นิมนต์ไปเจิมร้าน
บูม หมูทะ ส่งกำลังใจให้ – จากกรณี #Saveพระมหาสมปอง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทย เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก หลังพระมหาสมปอง ออกมาไลฟ์สดเปิดความในใจ ผ่านเพจพระมหาสมปอง พูดคุยกับพระมหาไพรวัลย์ และพระมหานภันต์ ปมถูกจ้องจับผิดให้สึก
ล่าสุด บูม ยุทธภูมิ แก้วเข้ม หรือ ‘บูม หมูทะ‘ ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดบันเทิงออนไลน์ แจงประเด็นพระฉันหมูกะทะได้ไหม หลังนิมนต์พระมหาสมปองมาเจิมร้านหมูกระทะ เทย กะ ทะ พร้อมให้กำลังใจพส. จากเหตุดราม่า #saveพระมหาสมปอง
ล่าสุดออกมาโพสต์ให้กำลังใจพระมหาสมปอง? “จริงๆ บูมได้มีโอกาสไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่าน ถ้าใครได้พบเจอพระมหาสมปองต้องบอกก่อนว่าท่านเป็นคนที่น่ารักมากๆ เหมือนเป็นพส.ที่ทำให้คนยุคใหม่เข้าถึงธรรมะได้มากขึ้น อย่างตัวบูมเป็นคนที่สมาธิสั้น เวลาฟังอะไรนานๆ จะฟังไม่ได้ แต่พอได้ฟังพระมหาสมปองเทศน์ก็รู้สึกว่ามันเหมาะกับยุคสมัยนี้
ทำให้เด็กๆ รุ่นใหม่ได้สนใจธรรมะมากขึ้น ถ้าตั้งใจฟังท่านดีๆ ท่านจะมีมุขตลกตลอดเวลา แต่จริงๆ มุขที่ท่านเล่นไปทุกๆ มุข มันจะแทรกไปด้วยคำสอนธรรมะ ซึ่งธรรมะ คือ ธรรมชาติ ท่านก็จะมีคำสอนแบบนี้มาเรื่อยๆ บูมเลยรู้สึกว่าการที่บูมออกมาเซฟพระมหาสมปองในครั้งนี้ มันทำให้บูมรู้สึกว่าเราเป็นลูกศิษย์ท่าน
แล้วถ้าสมมติท่านเป็นพระที่ไม่มีสาระเลย หรือ ท่านโจ๊กจวนจะกลายเป็นตลก ไม่ได้แทรกธรรมะอะไรมาเลย บูมคิดว่าคงไม่มีลูกศิษย์ท่านทั่วประเทศอย่างนี้หรอก ไม่ว่าจะเป็นตัวบูม หรือดารานักแสดงหลายๆ คนที่ยังนับถือท่าน”
ได้เห็นกระแสดราม่าทางด้านลบที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์บ้างไหม? “บูมเห็นนะ อีกอย่างหนึ่งบูมขอพูดในมุมบูม อย่างตัวบูมได้นิมนต์ท่านมาฉันเพลที่ร้านหมูกระทะของบูมก็เป็นดราม่าเหมือนกันว่าพระฉันหมูกระทะได้หรือเปล่า ท่านก็ให้ความรู้กับบูมด้วย แล้วก็ให้ความรู้กับญาติโยมด้วยว่าจริงๆ แล้ว พระสามารถฉันเพลได้นะ ไม่ว่าจะเป็นหมูกระทะหรืออะไรก็ได้ที่ทางญาติโยมได้ถวายมา
อย่างที่บูมเชิญมาเจิมที่ร้านบูมเป็นสิริมงคล บอกก่อนเลยว่าไม่มีการจ้างเป็นจำนวนเงิน คือหลายคนบอกว่าพระมหาสมปองเข้าข่ายรับรีวิวหรือเปล่า บูมขอยืนยันอีกเสียงว่าท่านไม่มีการรับรีวิวเป็นปัจจัยค่ะ แต่บูมเชิญท่านมาที่ร้านก็มีการใส่ซองทั่วไปตามกำลังศรัทธา
แต่ถ้าเป็นการรีวิว อยากให้ทุกคนเข้าใจเรื่องการรีวิวก่อน การรีวิวมันเป็นการรีวิวสินค้า เหมือนอย่างตัวบูมเป็นอินฟลูเอนเซอร์เรารับรีวิว ซึ่งมันจะมีเรตค่าตัว แต่การที่มีคนไปกล่าวหาว่าท่านรับรีวิวเป็นจำนวนเงิน มันเป็นจำนวนปัจจัยหรือเปล่า บูมขอยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าท่านไม่ได้รับรีวิวแบบนั้น
ท่านไม่มีการเรียกร้องนะว่าถ้าท่านจะมาเพลที่ร้านบูม ต้องใส่ซองหมื่นนึง สองหมื่น สามหมื่น หรือแสนนึง ท่านไม่มีการเรียกปัจจัยเลย คือทำบุญตามศรัทธา เลยอยากจะให้ตีความคำว่ารีวิวให้มันถูกต้อง ถ้ารีวิวต้องเป็นแบบบูมค่ะ เป็นรีวิวแบบจำนวนเงิน ค่าเงินแบบตายตัวเลย แต่ว่าท่านไม่มีเลย ท่านก็จะรับซองตามปัจจัยที่ญาติโยมหรือลูกศิษย์เชิญไปตามสถานที่ต่างๆ”
ในฐานะคนรุ่นใหม่ มีความคิดเห็นอย่างไร กับการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทางไลฟ์สด แบบวิถีนิวนอร์มัล? “สำหรับบูมนะ รู้สึกว่า ณ สมัยนี้ถ้าพูดในเรื่องของธรรมะ มันไม่ใช่แค่เด็กรุ่นใหม่ ยุคสมัยนี้ถ้าพูดถึงเรื่องธรรมะมันคือเรื่องไกลตัว ถ้าพูดว่าไปฟังธรรมกัน บูมว่าร้อยทั้งร้อยไม่อยากจะมีเด็กบ้านไหนไปกัน
แต่จากที่บูมได้รู้จักพระมหาสมปอง คือไม่ได้เพิ่งมารู้จักนะ เรารู้จักท่านตั้งแต่สมัยบูมเป็นนักเรียนมัธยม ท่านก็จะเป็นนักเทศน์ที่ทันสมัย ท่านปรับวิธีการแต่ละยุคเพื่อนำมาใช้ เหมือนการที่บูมได้ไปสัมผัสตัวพระมหาสมปอง
ต้องบอกก่อนนะ ท่านเป็นคนหนึ่งที่เหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยทันสมัยเท่าไหร่ แม้ว่าท่านจะดูเฟียสๆ ในโซเชี่ยล แต่ท่านก็จะถามว่าอย่างนี้ ทำยังไงดีโยมบูม ถ้าพูดแบบนั้นจะดีมั้ย จริงๆท่านเป็นพระแบบนั้น บูมก็ได้ไปให้คำแนะนำท่าน อย่างรีวิวจริงๆ ท่านก็บอกว่ามีคนติดต่อท่านมาเยอะนะ บูมก็บอกว่ามันไม่เหมาะสม ท่านก็จะบอกว่าท่านมีทีมงานของท่าน คอยสแกนว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม
อย่างเรื่องนี้ที่บูมเจอกับตัว บูมพาท่านมาฉันเพลที่ร้านก็ได้ถามว่า พส.ถ้าการที่มาฉันหมูกระทะแล้วมันผิดวินัย ไม่เป็นอะไรนะ ท่านก็บอกว่าจริงๆ ฉันอะไรก็ได้หมดแหละ คือท่านเลือกไม่ได้ พระสงฆ์ไม่มีสิทธิ์เลือก ถ้าญาติโยมใส่บาตรอะไรมาก็คงต้องเป็นไปตามนั้น บูมก็ประทับใจในตัวพระมหาสมปองที่ท่านบอกว่าพยายามเอาธรรมะมาปรับใช้ตามสมัย สังคมในปัจจุบัน เพื่อที่จะให้คนเข้าถึงธรรมะมากยิ่งขึ้น และไม่ให้คนรู้สึกว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัว
บูมว่ามันไม่ผิดนะ เรียกว่าพระมหาสมปองท่านได้ใช้สื่อมีเดียของท่าน ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมท่านก็ได้ลงไปช่วยเอง การที่ท่านได้ช่วยน้ำท่วมหรือเด็กๆ ในวัดที่ท่านดูแลอยู่ สำหรับเด็กที่ไม่มีกำลังทรัพย์ในการเรียน ไม่มีกำลังทรัพย์เป็นทุนการศึกษา ท่านก็ใช้สื่อท่านนี่แหละ ประกาศให้ญาติโยมที่มีกำลังศรัทธา ว่าใครอยากจะเข้ามาสนับสนุนเด็กกลุ่มนั้น หรืออยากจะเข้ามาช่วยในเรื่องของน้ำท่วม
อยากจะให้ดูที่จุดประสงค์ของท่านดีกว่า ว่าจุดประสงค์ที่ท่านออกมาไลฟ์ มันเป็นไปในแบบไหน ท่านไม่เคยพูดว่าทำบุญ 1 แสนจะได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญหลักล้านจะอยู่ในสวรรค์ชั้น 7 ชั้น 8 คือตามกำลังศรัทธาทุกคนเลย ไม่ใช่ว่าบูมเป็นดารา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ เป็นเซเลบ จะต้องทำบุญเยอะๆ แบบนี้ไม่ใช่ค่ะ บูมสบายใจแค่ไหนก็ทำเท่านั้นจริงๆ ท่านไม่มีการมาบังคับเลย จากที่บูมดูไลฟ์ท่านมา ท่านยังไม่มีข้อไหนที่ทำให้ศาสนารู้สึกเสื่อมเลยค่ะ บูมรู้สึกว่าเป็นการเทศน์ที่ทันสมัย และทันสังคมค่ะ”
บางคนโยงเข้าการเมือง ทำให้เกิดการแตกแยก เราคิดว่าไม่เหมาะสม? “บูมอยากจะให้เปิดกว้าง อยากจะให้ลองเปิดใจดูหน่อย คือบูมเข้าใจว่าการเมืองมันเซ้นสิทีฟมากๆ คือจริงๆ ท่านไม่ได้อยู่ฝั่งไหนนะคะ สำหรับบูมในความคิดของบูมคิดว่าท่านไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนแน่นอน ท่านก็จะอยู่ฝ่ายที่ทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ การที่บูมคิดต่างไม่ได้แปลว่าบูมอยู่ฝ่ายไหน
เหมือนการที่บูมออกมาคอลเอาต์ ถ้ารัฐบาลดี แก้ไขปัญหาได้ คงไม่มีใครออกมาด่า ด้วยตัวบูมด้วยนะ ไม่มีใครอยากด่าหรอก มีแต่อยากจะชื่นชม แต่นี่ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าถ้าปิดประเทศก็อยากจะให้เข้าใจสักนิดว่าอยากจะให้เข้าใจคนที่เขาลำบากเดือดร้อนจริงๆ เหมือนที่พระมหาสมปองท่านเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ท่านได้ลงพื้นที่จริงๆ ท่านก็จะเห็นว่าชาวบ้านที่เขาหาเช้ากินค่ำเขาเดือดร้อนแค่ไหน
พอท่านได้ไปเจอกับตัวก็ออกมาพูดแทนประชาชน เหมือนกับตัวบูมที่ออกมาพูดแทนประชาชน เพราะบูมคิดว่าเสียงของบูมอาจจะดังกว่าเสียงของประชาชนทั่วไป เพราะเรามีสื่อในมือ เลยอยากจะให้อยู่กับความเป็นจริงว่า ณ ตอนนี้บ้านเมืองของเรามันเป็นยังไง”
ในฐานะลูกศิษย์ อยากให้กำลังใจอย่างไรบ้าง? “อยากจะให้กำลังใจพระมหาสมปอง แล้วก็ทางพระมหาไพรวัลย์ด้วย รวมถึงพระอีกหลายๆ รูปที่ออกมาสอนธรรมะ จริงๆ บูมรู้สึกว่าอยากจะให้คนแอนตี้ หรือคนที่มองแต่ในด้านลบๆ เปิดใจหน่อย ว่าจริงๆ แล้ว การที่พระทั้ง 2 รูป ออกมาใช้สื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม มันดีต่อเด็กยุคใหม่ ทำให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจธรรมะมากขึ้น
อยากจะให้คนที่มาแอนตี้ท่าน อยากจะให้เปิดใจดู ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้พระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์ อยากจะให้ท่านมีกำลังใจในการสอนธรรมะต่อไป คือถ้าใครได้รู้จุดประสงค์ของท่านจริงๆ ท่านไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้ศาสนาเสื่อมเลย เหมือนปรับตามสังคม”