หลังควงเจ้าสัว บุญชัย เบญจรงคกุล สามี และ น้องข้าวหอม ลูกชาย มาร่วมงาน “Loving Vincent ภาพสุดท้ายของแวนโก๊ะ” ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ แล้ว นักแสดงสาว “ตั๊ก”บงกช เบญจรงคกุล ก็เปิดใจถึงดราม่าเรื่องเงิน 1.1 ล้านบาท ของตนกับคุณแม่ที่บริจาคเข้าโครงการ “ก้าวคนละก้าวฯ” ของ “ตูน บอดี้สแลม” แต่หลายคนมองเป็นเงินของสามี
ซึ่งตั๊กกล่าวว่า “เรื่องนี้ตั๊กอธิบายไปแล้วว่าเป็นเงินของคุณแม่ และก่อนแต่งงาน ตั๊กก็มีงานทำ รวมถึงตั๊กยังได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง จันดารา ได้ทำหนังเรื่อง นางฟ้า ก่อนหน้านั้นก็อยู่ในวงการภาพยนตร์มาก่อน ตั๊กจึงมีเงินเก็บ แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่ไม่ลำบาก”
รู้สึกอย่างไรที่ตั้งใจทำดีแต่กลับเจอคนมองในแง่ร้าย “ตั๊กก็ย้อนดูพี่ตูนเป็นตัวอย่าง เพราะขนาดพี่ตูนเขาทำเยอะ เขายังโดนว่า ดังนั้นสิ่งที่เราเจอถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ตั๊กไม่รู้สึกแย่เลย แค่อยากให้คนคิดให้ดีกว่านี้มากกว่า เพราะถ้าเขาคิดดีก็จะดีกับตัวเขาเอง”
ทางเจ้าสัวบุญชัยพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง “เขาไม่ได้ออกความเห็นอะไรเลยค่ะ เพราะทุกอย่างที่ตั๊กพูดเป็นความจริง”
เห็นว่าก่อนหน้านี้มีโอกาสเจอและวิ่งกับพี่ตูน ได้อะไรกลับมาบ้าง “ก็ได้เห็นความเพียร ความอุตสาหะ และอุเบกขา หรือความวางเฉยจากพี่ตูน ตั๊กรู้สึกว่าพี่ตูนมีหลายๆ อย่างที่ควรทำตาม ถึงแม้เราจะทำไม่ได้เท่าเขา แต่ถ้าเรามีแรงบันดาลใจตามเขาก็น่าจะดี”
ได้บอกคุณแม่ไหม ตอนที่นำเงินของท่านไปบริจาคเข้าโครงการ “วันนั้นพอบริจาคเงินเสร็จ ตั๊กก็ไปกรวดน้ำและไปบอกกับคุณแม่ที่วัดว่าตั๊กเอาเงินแม่ไปทำบุญหมดแล้ว เพราะเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ตั๊กก็คงไม่กล้านำมาใช้ ก็ขอเอาเงินไปทำบุญให้คนอื่นเขาใช้ประโยชน์ดีกว่า พอได้ทำแบบนี้แล้วก็สบายใจ”
ถามถึงงานในวงการหายไปเลย จะมีโอกาสกลับมาให้เห็นอีกไหม นักแสดงสาวกล่าวว่า “ถ้ามีโอกาส มีบทดีๆ ก็กลับมาเล่น แต่คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ว่าเราพร้อมหรือไม่พร้อม แต่มีหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ) ที่เคยติดต่อมาช่วงแผลเก่า แต่ตอนนั้นเรายังไม่พร้อม ซึ่งหม่อมก็เข้าใจว่าหุ่นเรายังไม่พร้อมเล่นหนัง”
แต่ตอนนี้เราพร้อมคัมแบ๊กแล้วใช่ไหม “จริงๆ เราลดเพราะสุขภาพ และตอนนี้ก็ผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลังด้วย ตั๊กมาทำภาพยนตร์ ซึ่งเป็นหนังที่อยากทำมานานแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงตรวจครั้งสุดท้ายแต่เดี๋ยวขอเก็บไว้ก่อน น่าจะได้ชมกันช่วงมกราคม แต่ครั้งนี้ไม่ได้เล่น เราเป็นผู้กำกับฯ เขียนบท และร่วมโปรดิวซ์ เป็นหนังทางเลือก แนวอินดี้แต่พยายามปรับเปลี่ยนให้ดูไม่ยาก เรื่องนี้ทำเองค่ะ เป็นทุนเราเอง ส่วนงานแสดงคงยังไม่มีอะไร เพราะตอนนี้ก็เลี้ยงลูกด้วย ทำหนังเรื่องนี้ไปด้วย”
มีหลายคนยกเราเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก “เราดูแลตัวเองมากขึ้นเพราะพออายุเข้าเลขสามก็กลัวเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ กลับมาดูแลตัวเอง กินผัก ให้ตัวเองกระฉับกระเฉง ดูแลการกิน ไม่กินตามใจปาก ไม่กินหวานมาก งดแป้ง กินแต่แป้งดีๆ และออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ตอนนี้ลดไป 20 โลค่ะ ตั๊กไปตรวจสุขภาพมาคือสุขภาพดีเลยค่ะ”
