พลอยชมพู ทุ่มโปรเจ็กต์ 6 ล้าน ฟาดค่ายเก่า พิสูจน์ฝีมือ เชื่อหลักฐานพร้อมชนะ

พลอยชมพู ทุ่มโปรเจ็กต์ – ฝ่าพายุชีวิตกลับมามีเพลงไทยได้ดั่งหวังแล้ว สำหรับสาวน้อยมากความสามารถ พลอยชมพู ญานนีน ไวเกล ที่ล่าสุด ( 14 ม.ค.65) ปล่อยเพลงใหม่ LOCATION ft. ANOTHERBOYTJ (พร้อม ราชภัทร) ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมได้ฟังกันเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีเรื่องให้ปวดหัวมาเป็นระยะ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวออกมาประกาศเดินหน้าฟ้องค่ายเก่ามาเลเซียฐานผิดสัญญา แต่ค่ายเก่าก็ออกมาโต้ว่าไม่จริง แถมพอเธอทำเพลงใหม่ออกมาหลังจากเป็นอิสระ ก็ถูกค่ายคู่กรณีมาเคลมลิขสิทธิ์

ล่าสุด สาวน้อยคนเก่งได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเธอรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง และเพลงนี้เห็นว่าทุ่มหมดหน้าตัก เธอลำบากขนาดไหนกว่าจะคลอดเพลงและเอ็มวีสุดเจ๋งนี้ออกมาให้แฟนได้ชม

ตอนนี้เพลง Location ก็ปล่อยใน YouTube แล้วไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่ไหม? “ตอนนี้ยังไม่มีปัญหานะคะ ในส่วนของ YouTube ก็ปล่อยไปเมื่อวันที่ 14 ม.ค วันนี้ (18 ม.ค) คาดว่าน่าจะได้ 1,000,000 วิวแล้ว เพราะตอนนี้ก็ 900,000 กว่าแล้ว ก็ลุ้นอยู่

ส่วนผลตอบรับดีมาก เพราะมันเกินที่เราคาดหมายไว้เลย เพราะอย่างวันแรกเองก็ได้ประมาณ 4-5 แสนวิวเลย แล้วแค่ชั่วโมงแรกคอมเมนต์ก็มาเป็นพันคอมเมนต์แล้ว และรู้สึกว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ที่เราเหนื่อยมาเยอะ มันก็ทำให้พอเห็นฟีดแบ็กแล้วชื่นใจ หายเหนื่อย”

เห็นว่าเพลงนี้เราทั้งทุ่มเททุ่มทุนหมดหน้าตัก? “คือเพลงนี้เริ่มต้นทำหลังจากที่สิ้นสุดสัญญากับค่ายเก่าไป แล้วเราคิดว่าอยากกลับมาทำเพลงเอง แล้วก็เป็นเพลงไทย ซึ่งเราก็เริ่มแต่งเพลงนี้ก็ติดต่อบริษัทจริงๆ ตอนแรกตอนที่เราเริ่มทำโปรเจ็กต์นี้ แม้แต่ตัวเพลงเองเราก็ยังเครียดเลยว่าเราจะหาเงินจากไหนมาทำเพลงนี้

ความคาดหวังในการทำซิงเกิล ของเรามันต่ำมากๆ เพราะว่าที่ผ่านมาปีสองปีที่เราไปอยู่ที่อื่นเราไม่ได้รายได้อะไรเลย แล้วพอเรากลับมามันก็เริ่มต้นจากศูนย์ ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไรไม่มีตังค์ก็เดี๋ยวมันก็หาเงินได้”

“แล้วพอเราแต่งเพลงเสร็จปุ๊บ เอาไปให้โปรดักชั่นที่เขาทำเอ็มวี ครั้งแรกเขาเห็นก็รู้สึกว่าเพลงนี้มันดี เขาก็เลยช่วยหาสปอนเซอร์ให้ ก็เป็นฝั่งที่คุณแม่เขาก็หาสปอนเซอร์ โทรขายงานไปให้ลูกค้า แล้วเหมือนว่าทุกคนก็ยินดีที่จะร่วมงานก็เลย

กลายเป็นว่าโปรเจ็กต์นี้มันใหญ่กว่าที่เราคาดหวังเอาไว้ ซึ่งเราดีใจที่ทุกคนยินดีสนับสนุนและร่วมงานกับเราค่ะ วางแผนเพลงนี้เกือบครึ่งปี นับตั้งแต่ที่เริ่มแต่งเพลงนี้จนปล่อยเพลงก็หลายเดือน พอหมดสัญญากับค่ายเก่า ก็เริ่มทำเพลงเลย

“คือจะต้องบอกเลยว่าโปรเจ็กต์นี้มันเริ่มต้นจากเงินก้อนเล็กๆ ที่เรามีก้อนสุดท้าย ซึ่งพอเราลงทุนไปตรงนั้นมันกลับทวีคูณขึ้นมาเป็นหลายเท่าจากที่ทุนเรามีอยู่แค่ 40,000 บาท มันกลายเป็นว่างานนี้มันมีมูลค่า 1.5 ล้านบาท รวมทั้งตัวเพลงแล้วก็ตัวเอ็มวี ซึ่งมันเป็นอะไรที่เราไม่คาดคิดว่าเราจะมีโอกาสได้ทำโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขนาดนี้”

จากเริ่มต้นที่เรามีแค่ค่าเพลง แต่เราขายให้แบรนด์ต่างๆ แล้วกลับมีความไว้วางใจในผลงานของเรา ทั้งที่ภาพในตอนนั้น คือยังไม่ได้เริ่มถ่ายอะไรด้วยซ้ำมีแค่โปรเจ็กต์ให้เขาดู แต่เขายินดีที่จะร่วมงานมันก็เป็นอะไรที่เหลือเชื่อสำหรับเราอยู่ ก็ขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนค่ะ”

เนื้อร้องทำนองแต่งเอง? เพลง LOCATION แต่งเองคู่กับโปรดิวเซอร์ HYE (ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ) จากวง Paper Planes ตอนนั้นหนูอยู่เยอรมัน เขาส่งบรีฟมาให้หนูก่อน พอหนูได้บรีฟหนูก็ลองร้องเมโลดี้ไปสี่แบบแล้วส่งกลับไปให้เขาไปลองทำเป็นเพลง

ดูว่าตรงไหนมันน่าจะเป็นตรงไหนน่าจะเป็นส่วนของท่อนไหน พอเราได้เมโลดี้ครบทั้งเพลงปุ๊บแล้วก็มาใส่เนื้อกันทีหลัง เราก็ลองเขียนไปให้เขาดูหลายๆ เวอร์ชั่นเหมือนเดิม แล้วก็ให้เขาลองว่าอันนี้มันดีนะ ลองปรับแก้คำโน้นคำนี้นะก็ช่วยๆ กันค่ะ”

ดึงตัว พร้อม ราชภัทร (AnotherboyTJ) มาฟีเจอริ่ง เราไปถูกอกถูกใจอะไรในตัวเขา? “คิดไว้ตั้งนานแล้วว่าหลังจากสิ้นสุดสัญญา อยากจะทำเพลงที่มีฟีเจอริ่งด้วย ซึ่งช่วงนั้นเราอยู่เยอรมันแล้วก็ว่าง มากๆ เลย ก็เข้าดูผลงานคนอื่นเยอะ ซึ่งมันเป็นความบังเอิญที่เราเห็นเพลงของ AnotherboyTJ ก็คือ พร้อม ราชภัทร ขึ้นติดขึ้นมาพอดี

เราก็เลยลองกดเข้าไปดู เพราะเราไม่เคยเห็นผลงานเขามาก่อน แล้วรู้สึกว่าฟีลเขามีความคล้ายคลึงกับเรา ดูมีความวัยรุ่น รุ่นราวคราวเดียวกันและมีความสดใส ก็เลยคิดว่าลองติดต่อมาร่วมงานดู จริงๆ ตอนแรกเขาอ่ะไม่เห็นข้อความที่หนูทักไป ผ่านไปหลายเดือน เขาถึงมาเห็นก็เลยเพิ่งมาคุยกันช่วงที่เริ่มต้นทำเพลงนี้นะ

“เขาก็เป็นคนน่ารักมีสปิริตในการทำงานสูง คือหนูถ่ายเอ็มวีที่กระบี่ หนึ่งวันก่อนหน้าที่เขาจะไปถ่ายเอ็มวี เขาก็ทำงานมาหลายวันติดกัน คือเขาคิวแน่นมาก เพราะว่าเขาถ่ายซีรีส์ด้วย แล้วเขาก็ต้องบินมาที่กระบี่ พอบินมาถึงปุ๊บก็เริ่มถ่ายเลย แล้วเขาเอ็นเนอร์จีสูงมาก ชวนทุกคนที่กองคุยทำให้ทุกคนเฮฮา แล้วพอเช้าวันถัดมาเขาก็ต้องกลับไปถ่ายซีรีส์ต่อ คือเอ็นเนอร์จีล้นเหลือจริงๆ ค่ะ”

พูดถึงเอ็มวี ชุดปังมาก หลากหลายสไตล์ ไอเดียนี้มาจากไหน? หนูฟังเพลงนี้แล้วมองเห็นภาพว่ามันเป็นยังไงอยากได้ชุดประมาณนี้ประมาณไหน ก็หารูปไปให้พี่สไตลิสต์เขาดู เขาก็ช่วยปรับว่าชุดแบบไหนที่สามารถเข้ากับฉากไหนได้ ก็ได้คุยกันในหลายส่วน

มันก็จะมีในเรื่องของสปอนเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย สปอนเซอร์ในเรื่องของสินค้าแล้วก็สถานที่ด้วย ก็ต้องดูว่าสถานที่นี้ชุดมันควรจะต้องเป็นสีอะไรชุดเป็นแนวไหน ซึ่งมันก็ต้องคุยกันเยอะค่ะ”

“แต่ว่าระยะเวลาทำงานก็ค่อนข้างน้อยการเตรียมงานก็ใช้เวลาประมาณก็แค่เดือนเดียวจากที่เริ่มต้นวางแผนจากวันที่ถ่ายเอ็มวีนี้และในระหว่างนั้นก็มีเรื่องของการเคลียร์สปอนเซอร์ เวลาของสไตลิสต์ก็ค่อนข้างน้อย ก็นับถือพี่เขา ที่พี่เขาจะสามารถทำงานได้เร็วขนาดนี้ในขณะที่ชุดมาเป็น 10 ซึ่งสไตลิสต์ หลักมีอยู่แค่คนเดียว”

เพลงนี้บ่งบอกถึงความเป็นพลอยชมพูที่โตขึ้นอย่าง 100% ไหม? “คิดว่าใช่นะคะ เพราะว่าเพลงนี้เป็นแนวเพลงที่เราอยากทำมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทำแบบจริงๆ จังๆ คือจริงๆ เป็นคนที่ชอบเพลงเร็ว แล้วก็อยากจะทำเพลงเร็วมานานอยู่แล้ว คือเพลงเร็วแนวนี้ก็น่าจะตอนอายุ 14 ซึ่งนานมากแล้ว ก็เลยอยากจะทำเพลงที่มันเป็นตัวตนของเราที่บ่งบอกถึงบุคลิกเราจริงๆ อ่ะ”

เพลงนี้มีท่าเต้น? “คือมีถ้าเป็นในเอ็มวี จะมีท่อนหนึ่งซึ่งเราจะทำมาเป็น TikTok ชาเลนจ์ แล้วก็จะชวนมาเล่นกัน 2-3 วันที่ผ่านมา ก็เห็นแฟนๆ เริ่มมาเล่นชาเลนจ์นี้กันเราก็ตามไปส่องดู ไปกดไลก์ไปเมนต์”

ภูมิใจขนาดไหน? “สำหรับหนู ความรู้สึกหนูผลงานชิ้นนี้มันเหมือนเป็นลูกของเรา เราปั้นมันมาตั้งแต่เริ่มต้นเราลงทุนแล้วเหนื่อยกับมันเรามีความสุขเราเหนื่อยเราร้องไห้ ในทุกทุกสเต็ปเราอยู่กับมันมาตลอดหลายเดือน

แล้ววันนี้มันได้ออกมาสู่สาธารณะ เราไม่ได้เก็บมันไว้คนเดียวแล้ว แต่ว่าตอนนี้เพลงนี้มันเป็นของทุกคนไปแล้วที่จะสามารถเข้าถึงมันได้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เรารู้สึกภูมิใจมากๆ เพราะเราใช้เวลากับมันมานาน มันก็เหมือนเป็นลูกของเราเลย”

แต่ขนาดเราทำเองทุกอย่างขนาดนี้ยังโดนค่ายเก่าเคลมลิขสิทธิ์? “คือหนูยังมีปัญหากับค่ายเก่าอยู่ คือจริงๆ สัญญามันสิ้นสุดไปแล้ว แต่ทีนี้ทางค่ายเก่าบอกว่าสัญญาหนูยังไม่หมด หนูยังทำเพลงให้เขาไม่ครบตามในสัญญา ซึ่งต่อให้ทำเพลงไม่ครบตามสัญญา ถ้ามันบอกว่าวันที่มันหมดเท่านี้ มันก็ควรจะหมดเท่านั้น

แต่ว่าทีนี้ ระหว่างหนูกับเขามันไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ ปัญหาหลักก็คือถึงแม้สัญญาจะหมดแล้ว แต่เขาก็พยามที่จะขัดขวางการทำงานของหนู ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ลงทุนมากน้อยขนาดไหน ก็ตามไปปิดใน YouTube Streaming ต่างๆ”

“มันเป็นปัญหาสำหรับหนูเพราะหนูไม่สามารถที่จะทำเพลงต่อได้ คืออาชีพหลักที่หนูต้องการคือการเป็นนักร้อง หนูก็เลยตัดสินใจว่าหนูต้องฟ้องเขา เดือนที่แล้วหนูก็เลยได้ประกาศกับสื่อว่า หนูฟ้องค่ายเก่า

เพราะว่าตอนนั้นสำนวนฟ้องที่หนูยื่นไปได้รับการประทับตราจากศาลที่มาเลเซียแล้ว ล่าสุดเพลง โลเคชั่นเขาก็ยังเคลมในสตรีมมิ่ง ตอนนี้ในสตรีมมิ่งต่างๆ ไม่สามารถฟังได้ ฟังได้เฉพาะในยูทูบอย่างเดียว

มันมีผลกระทบต่อเรายังไงบ้าง? “หลักๆ เลยผลกระทบก็คือเพลงถูกตัดโอกาสในการเข้าถึงมากขึ้น เรื่องของรายได้ด้วย อย่างก่อนเพลงโลเคชั่น ก็มีหลายเพลงที่เขาเคลมไปไม่ต่ำกว่าสามรอบแล้ว ซึ่งมันทำให้บัญชีเก่าของหนูมันถูกระงับรายได้มาตอนนี้ครึ่งปีแล้ว

ที่หนูยังไม่สามารถถอนรายได้ ซึ่งมันไม่ใช่เพลงที่ถูกระงับ แต่ว่ารวมถึงเพลงที่หนูปล่อยกับบัญชีนี้ ต่อให้คนที่ไปฟังเพลงที่ไม่ได้ถูกเคลม หนูก็ไม่สามารถที่จะถอนรายได้จากตรงนั้นได้

 

“คือหนึ่งเลยทางที่หนูฝากเพลงไว้ในส่วนของตรงนี้ก็เหมือนเขาไม่กล้าที่จะมายุ่งด้วย เหมือนว่ารอให้เคลียร์เรื่องนี้ให้จบก่อนจึงจะสามารถปลดเพลงเหล่านี้ได้ ซึ่งหนูก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่เพราะทางฝั่งโน้นเขาก็ไม่ได้มีเอกสารยืนยันว่าเขาเป็นเจ้าของอะไร เอกสารทุกอย่างมันอยู่กับหนูหมด แต่ว่าทาง สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มเขาก็บอกแค่ว่าพอดีต้องจบก่อนเขาถึงจะตัดสินใจปลดเคลมได้”

แต่หนูดีใจที่ยูทูบยังมีความเป็นกลางตรงที่ว่าเมื่อไหร่ที่ถูกเคลมเขาก็จะขอดูเอกสาร ถ้าไม่มีเอกสารภายใน 14 วัน เขาก็จะปลดเคลมให้ มันก็เลยทำให้อย่างน้อยเรายังมีช่องทางตรงนี้ในการเผยแพร่ผลงานของเรา และโชคดีตรงว่าตอนนี้เพลงโลเคชั่นก็ยังไม่ได้ถูกเคลมด้วยในยูทูบ”

หลังจากที่เราออกมาประกาศเดินหน้าฟ้องเพียงสองวัน ทางค่ายก็ออกมาโต้กลับ? “หนูก็สงสัยนะคะว่า ก่อนหน้าก่อนที่หนูจะฟ้องเขาทำไมถึงไม่ฟ้องหนูถ้าหนูผิดจริงๆ เพราะว่าสัญญามันสิ้นสุดมาครึ่งปีแล้ว ถ้าหนูผิดจริงๆ เขาควรจะฟอ้งหนูมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอให้หนูมาฟ้องเขาก่อนนะ”

ครั้งที่แล้วเราก็ยังไม่สามารถลงรายละเอียดเรื่องผิดสัญญาได้ ตอนนี้เปิดเผยได้หรือยัง? “ก็ยังไม่สามารถลงลึกถึงรายละเอียดได้มันยังอยู่ในการดำเนินคดีอยู่ คือตอนนี้มันอยู่ในขั้นที่หนูส่งไปให้ศาล ตอนนี้ศาลก็กำลังรอสำนวนจากฝั่งคู่กรณีอยู่ไหน ซึ่งจะมีเดตไลน์วันที่ 28 มกราคม หลังจากนั้นหนูจะต้องโต้แย้งไม่เกินวันที่ 11 กุมภาพันธ์ แล้วคดีมันก็จะขึ้นศาลวันที่ 14 กุมภาพันธ์ค่ะ หนูไม่ได้บินไปเอง หนูส่งตัวแทนทนายหนูไป เพราะว่าคดีนี้มันไม่ใช่คดีอาญาส่งตัวแทนไปได้”

เราคิดว่าเราชนะไหม? หนูไม่ได้บอกว่ายังไงหนูก็ชนะนะคะ แต่หนูคิดว่าถ้ามองตามหลักฐานคือหลักฐานหนูเยอะมากเพราะว่าก่อนที่หนูจะฟ้องเขาหนูเตรียมตัวมาหลายเดือนมากๆ หนูปรึกษาทนายหลายคนไม่ต่ำกว่า 3 คน แล้วก็มีทั้งคนไทยแล้วก็คนต่างชาติ

ทุกคนมองเห็นตรงกันหมดว่า สัญญามันสิ้นสุดแล้ว เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรหนูได้เลยตามกฏหมาย หนูก็เลยค่อนข้างมั่นใจในหลักฐานของตัวเอง หนูก็ใช้เวลากับสัญญานี้มามากพอที่จะทำให้เรามั่นใจว่าเรากล้าที่จะฟ้องเขา เพราะว่าถ้าเรารู้ว่าเราผิดเราไม่กล้าฟ้องเขาหรอกค่ะ

เรียกว่าต้องขึ้นโรงขึ้นศาลตั้งแต่อายุยังน้อยเลย? “หนูก็ไม่คิดว่าชีวิตนี้หนูจะมาขึ้นศาลอะไรกับใคร ในตอนอายุ 20 ต้นๆ ก็ไม่ได้คิดว่าเราจะมีปัญหาเวลาทำเพลงแล้วมีคนมาคอยตามปิดเพลงหรืออะไร แต่หนูก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตเราอย่างนึงแล้วทำให้เราโตขึ้นด้วย ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”

เข็ดไหมกับการอยู่ภายใต้สังกัด? “จริงๆ ก็รู้สึกเข็ดอยู่เหมือนกัน เพราะว่าโดยมากประสบการณ์การอยู่ในค่ายของหนูจะไม่ดีเหมือนกับคนอื่นๆ เท่าไหร่ แต่ว่าถ้าเกิดมีค่ายไหนติดต่อมา ก็คงจะต้องดูดีๆ แต่หนูก็มีตั้งเงื่อนไขที่สำคัญของตัวเองไว้แล้วในตอนนี้

ถ้าเกิดค่ายไม่สามารถรับเงื่อนไขหนูได้หนูก็คงไม่สามารถทำงานด้วย เพราะว่าเราก็คิดว่าเราสามารถที่จะทำงานเองได้ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกว่า เพราะว่ามันต้องหาเงินทุนอะไรต่างๆเองหมด ทำทุกอย่างเองหมด

“แต่เราคิดว่าการได้ทำงานทุกอย่างเองควบคุมทุกอย่างเองตัดสินใจทุกอย่างเอง มันมีความสุขมากกว่าอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของใคร ก็มีติดต่อมาค่ายสองค่าย แต่ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดอะไร ก็ยังไม่ได้ถึงขั้นนัดวันติดต่อที่คุย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน