แม่นางงาม ล่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าคุก หลังถูกแฮ็กมือถือ โดนอ้างชื่อกู้เงิน-สูญเงิน 6 หลัก
แม่นางงาม – จากกรณี น็อต แม็กซิม หรือ กฤติน จิกิตศิลปิน โพสต์เฟซบุ๊กแฉแม่นางงาม ระดับประเทศ นำชื่อไปแอบอ้างกู้เงิน กระทั่ง นางกิรณา ชฎาภัทรวรโชติ แม่ของ เกรซ นรินทร มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ผู้เสียหายได้ออกมาชี้แจงเรื่องจริงที่เกิดขึ้น หลังถูกแฮ็กข้อมูลมือถือ ถูกมิจฉาชีพนำชื่อไปแอบอ้าง ทำเสื่อมเสีย จนได้แจ้งความตามจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ล่าสุด นางกิรณา ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ว่า “เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ปกติเราจะเอาเงินเข้าในมือถือไม่เยอะ ประมาณ 3 หมื่น ใช้ทั้งเดือน เพราะปกติเงินสดเราไม่ค่อยใช้อยู่แล้ว ตอนนั้นก็เป็นเทศกาล เราเลยโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อที่จะไปซื้อของให้เอฟซี ลูกค้า และผู้ใหญ่ที่เราเคารพ หรือโบนัสพนักงาน เลยมีเงินเข้ามาในบัญชีค่อนข้างเยอะ
ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอก จนมีวันหนึ่งเราต้องโอนเงินให้กับน้องเกรซในช่วงปีใหม่ ซึ่งโอนไม่ได้ แล้วธนาคารก็ส่งข้อความมาว่าให้ติดต่อกลับด่วน พอติดต่อไปเขาบอกว่ามีการเดินเงินในบัญชีผิดปกติ และมีการทำบัญชีเยอะมากเกินปกติที่เราไม่เคยทำ ให้เข้าไปเช็กในแอพพลิเคชั่นหน่อยว่าข้อมูลมันตรงกับที่เราเคยทำไว้หรือเปล่า
พอเราเข้าไปเช็กก็โอ้โห! เงินเหลือศูนย์บาท(หัวเราะ) ถึงแม้เราจะใช้เงินเยอะขนาดไหน เราไม่เคยเหลือเงินศูนย์บาทนะ สรุปว่าเงินไหลออกทุก 3-5 นาที รวมๆ แล้ว 6 หลักค่ะ เราก็เลยทำการแจ้งความ และไปปิดบัญชีนั้นทันที เพราะหลังจากที่เราคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ยังมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่เราอยู่
พอไปที่ธนาคาร เขาก็ไม่ดำเนินเรื่องให้ เพราะเราต้องมีหมายครุฑจากตำรวจเพื่อสืบว่าปลายทางเงินไปที่ไหน และขอกล้องวงจรปิดทุกตัวของเอทีเอ็มที่ปลายทางเบิกเงินไป เพื่อที่จะได้เห็นหน้าคนร้าย”
“ซึ่งช่วงปีใหม่ก็มีวันหยุดของธนาคาร และตัวเราก็ทำใจ ไปฉลองกับครอบครัว พอวันที่ 2-3 ม.ค. ทำเรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้น เราก็โพสต์ลงโซเชี่ยลของเรา เพื่อนจะรู้หมดเลยว่าเราโดนแฮ็ก เพราะมันเป็นการแฮ็กที่เราจะต้องเปลี่ยนเบอร์มือถือเลย ต้องเปลี่ยนไลน์ ซึ่งเราไปอ่านในกูเกิ้ลมีคนหนึ่งที่โดนคล้ายๆ เราเป็นนักธุรกิจคือโดนเอาเงินออกจากในบัญชีรูปแบบคล้ายกันมาก
โดยคนอื่นก็จะโดนแตกต่างกันไป แค่ทวงเงิน ทีนี้ทุกอย่างเราใช้ไม่ได้ เราเลยไปที่เอไอเอสและเอาหมายตำรวจไปด้วย ปรากฏว่าเราโดนฝังโดเมนที่วินโดว์ของโทรศัพท์ ซึ่งเราใช้ระบบแอนดรอยด์ เขาเลยทำได้ เพราะถ้าใช้ ISO ทำไม่ได้ เขาเลยล้างเครื่องมือถือให้ แต่สิ่งที่เราจะต้องสูญเสียคือต้องเปลี่ยนอีเมลใหม่ทั้งหมดที่เราใช้งานติดต่อลูกค้ามาเป็น 10 ปี และไลน์
ซึ่งมันมีคอนเน็กชั่นที่เราใช้ติดต่อกับผู้ป่วยโควิด กลุ่มสีเขียวที่เราทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเขาก็รอให้เราไปเยี่ยมไข้ในทุกๆ วัน”
“และในส่วนของเฟซบุ๊กที่ลงรูปลงงานของน้องเกรซก็เข้าไม่ได้ เพราะเราต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลย โดยที่ต้องล้างเครื่องเดี๋ยวนั้น ซึ่งในมือถือก็มีไฟล์อันหนึ่งที่มีใบเปลี่ยนชื่อ เลขบัตรประชาชน หน้าบุ๊กแบงก์ต่างๆ เพราะมันค่อนข้างสะดวกในการทำงานของเรา และสะดวกในการรับเงิน เราคิดว่าหลายๆคนเขาก็ทำแบบนี้นะ ตอนนี้เราเลยรู้ว่ามันอันตรายมาก ต้องรอบคอบจริงๆ
แต่มีหนึ่งอย่างที่เราไม่เปลี่ยนคือไอจี ซึ่งไอจีเราจะเป็นพลับบลิค แล้วเพื่อนเราทุกคนก็โดนกันเยอะมาก เพราะในโทรศัพท์ของเรามีชื่อทุกคน แต่ว่าเราจะเมมชื่อเล่นทั้งหมด ซึ่งเพื่อนบางคนเขาฉลาด เวลาเจอโดนทวงเงินแบบนี้ เขาจะถามเลยว่าคุณอ้างว่าเป็นคุณกวางเอาชื่อฉันไปเป็นผู้ค้ำประกัน ไหนคุณลองบอกชื่อจริงฉันสิ เขาก็ตอบไม่ได้ แล้วก็วางหูใส่ไปเลย เพื่อนก็รู้ทันที
“ตอนนี้แก๊งมิจฉาชีพมันดังมาก พวกกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งคล้ายๆ ก็รู้ว่าโดนกันเยอะมาก แล้ว ในวันที่เราไปแจ้งความก็โดนกันหมื่นกว่าคนในเดือนนั้นทั่วประเทศ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนนำจับเพิ่มเติม เพราะว่าเราจับมาได้หลายแก๊งแล้ว ซึ่งเราก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่เราโดน และกลับมาทำงานในเรื่องโควิดต่อ เนื่องจากโอมิครอนมันระบาด เราก็นึกว่าเรื่องมันจะเงียบไปแล้ว
แต่ว่ามีอยู่วันนึงเพื่อนเราส่งรูปภาพหนึ่งมาให้ดู แล้วเหมือนมีการโพสต์ข้อความที่ไม่ตรงกับความจริงซึ่งเขาบอกว่าติดต่อเราไม่ได้ ก่อนอื่นเราต้องขอโทษทุกคนก่อนที่ได้รับผลกระทบจากการที่เราโดนแฮ็กมือถือ หลายคนก็เดือดร้อน รำคาญใจแต่โชคดีที่หลายๆคนรู้ว่ามันคือการถูกแฮ็ก มันปลอม เนื่องจากคนเหล่านี้จะพูดภาษาไทยไม่ชัดนะถ้าใครโดน เราเตือนไว้เลย
แล้วก็จะมีวิธีการบอกว่าเราไปกู้เงินแล้วเอาชื่อเขามาเป็นคนค้ำประกัน ซึ่งจำนวนเงินคืนหนึ่งพันบาท สองพันบาทบ้าง ทุกคนก็จะรู้ว่าเราไม่มีทางกู้เงินในจำนวนนี้เด็ดขาด ซึ่งคนที่เป็นข่าว เขาเป็นเพื่อนกับเราในไอจี แล้วเราก็อัพเดตไอจีทุกวัน แล้วเราก็ลงข้อมูลที่โดนแฮ็ก ลงข้อมูลแจ้งความ ลงข้อมูลนำจับและเตือนเพื่อนทุกคน ซึ่งทุกคนรู้ค่ะ แต่เขาก็บอกมาว่าเขาไม่รู้”
“เอาตามหลักความจริง คือ เขาควรจะถามเพื่อนก่อนเนอะ ไม่ใช่วิ่งเข้าหาสื่อก่อนมันก็เลยทำให้เราเดือดร้อน แล้วเขาก็ลงในโซเชี่ยลส่วนตัว สิ่งสำคัญคือเราพยายามติดต่อเขา เพราะเราได้ยินว่าเขาติดต่อเราไม่ได้ แต่เขาไม่แม้กะทั่งอ่านไอจีเรา
แต่เขาเลือกที่จะติดต่อไปทางลูกสาวเราซึ่งเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลูกสาวเราเลย เราเป็นคนโดนแฮ็ก ไม่จำเป็นต้องลากน้องลงว่าเป็นแม่นางงาม ตรงนี้คือแย่มาก คนที่เขารู้จักกันเขาไม่น่าจะทำกันแบบนี้ก็เลยทำให้เรารู้สึกไม่ดี และเป็นที่มาของการที่ออกมาพูด
ซึ่งที่ผ่านมาเราวิ่งเข้าหาตำรวจโดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีข่าวและไม่อยากเป็นข่าวใดใดและเราก็มีการเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่า จริงๆ ไม่ใช่วิ่งเข้าหาข่าวเพื่อจะสร้างกระแสให้คนรู้จักว่าแม่น้องเกรซหน้าตาเป็นแบบนี้ เราเลยรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องออกมาบอกความจริงให้คนรู้ว่าเราโดนแฮ็กจริงๆ
สองเราไม่โอเค กลับการที่เราเคยรู้จักคนๆหนึ่ง ซึ่งเราเรียกเขาว่าเพื่อนรุ่นพี่เลย หลังจากนั้นน้องเกรซ ก็พยายามส่งเอกสารว่าเราโดนแฮ็กจริง และเขาก็โพสต์ข้อความหลังจากนั้นอีกเพื่อทำร้ายเรา ถึงแม้เขาจะบอกว่าข้อความต่างๆ ไม่ได้ลงชื่อ
แต่การที่เราเอาเรื่องของคนอื่นไปพูดโดยที่ไม่เป็นเรื่องจริงตัวที่เรารู้เรื่องจริงกับการเอ่ยชื่อบุคคลที่สามสี่ห้า ซึ่งจริงๆเราไม่ได้อยากให้มันขนาดนั้นแต่เราแค่งงว่าทำไมต้องทำแบบนี้ เขาควรจะติดต่อเรากลับมาก่อน”
“วันนี้สิ่งที่ต้องการพูดคือเราต้องการยื่นหลักฐานทั้งหมดให้ทางข่าวสดดู สองเราต้องการยืนยันว่าเราไม่ได้กู้เงินจริงง่ายๆ เลยรูปที่ส่งมาเป็นรูปที่ถูกแฮ็กมาในมือถือ เลยอยากจะเตือนทุกคนเลยว่าเวลาวางมือถือไว้ให้วางตัวกล้องคว่ำลงไปกับพื้น เพราะมันสามารถโดนแฮ็กภาพจากกล้องได้ มันเป็นภาพที่เราเพิ่งตื่นนอนซึ่งมันไม่มีใครหน้าไหนเอารูปแบบนี้ไปกู้เงินหรอกค่ะ
ใครเห็นเขาก็จะเข้าใจทันทีว่าเวลาเรากู้เงินจะต้องใช้รูปที่เราดูดีที่สุด เพื่อที่จะมั่นใจที่สุดว่าเราจะคืนเงินได้ คือมันไม่จำเป็นต้องกลัวหรือกระวนกระวายอะไรเลย แล้วยิ่งช่วงนี้ออกมาเตือนการเรื่องแก๊งขอเซ็นเตอร์ แล้วอีกอย่างหนึ่งการที่เขาบอกว่าเราอ้างชื่อเขาไปกู้เงิน ทุกคนคะการกู้เงินเราไม่สามารถเอาชื่อใครไปกู้ก็ได้นะ เราต้องเอาตัวเราเท่านั้น
ณ วันนี้ เราก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ ที่ถึงแม้เขาจะรู้เรื่องจริง แล้วเขาก็ยังเลือกที่จะโพสต์เขาก็ไม่อธิบายอะไรหน้าโพสต์ของเขา ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจริงๆ เพราะเราส่งเอกสารทั้งหมดให้แล้ว จะมาบอกว่าคุณเป็น กลางคุณเป็นกลางระหว่างอะไรคะระหว่างคนโดนรังแกกับมิจฉาชีพเหรอ มันไม่ใช่ค่ะ”
“วันนี้พวกเราเป็นคนไทยที่ต้องช่วยกันปกป้อง ป้องกัน มิจฉาชีพไม่ให้มาทำร้ายคนไทยด้วยกัน นี่ขนาดเป็นเพื่อนกันยังไม่ปกป้องกันเลยกลับเอาเรื่องมาสร้างข่าวเท็จอีกด้านหนึ่ง เพื่อทำลายชื่อเสียง แล้วฝากถึงทุกคนที่เป็นคนไทยและเปิดบัญชีให้ชาวต่างชาติเหล่านี้มาทำร้ายคนไทยด้วยนะคะ หยุดพฤติกรรมเหล่านี้เพราะเพียงแค่เงินเหล่านี้มันทำลายชีวิตคนอีกมากมายแล้วบางคน เงินมันสำคัญสำหรับเขาจริงๆทั้งบัญชีแล้วก็เป็นหัวหน้าครอบครัวคุณได้ทำบากกรรมไว้มากค่ะ”
น็อตบอกว่าจะช่วยตามล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์? “จริงๆ ไม่ต้องค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับโกรธ หรือ ไม่โกรธนะเพราะว่าหน้าทีพวกนี้มันเป็นหน้าที่ของตำรวจซึ่งเราประสานงานไว้ก่อนที่เขาจะมาลงข่าวแล้ว แล้วเราก็มีการสืบมาว่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โทรหาเขามานานแล้วนะ แต่เขาไม่แม้แต่จะพยายามติดต่อเรา
แล้วก็ยังมาลงข่าวตอนนี้ซึ่งมัน ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ส่วนในเรื่องของความสัมพันธ์ปกติเราไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้วเรารู้จักกัน เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนสนิทเรา ทีนี้เราก็ไม่อยากมีปัญหากับใครอยู่แล้ว แต่ถามคำว่าเพื่อนมันต้องรักและปกป้องกันค่ะ ฉะนั้นเราอายุขนาดนี้เราก็ต้องเลือกคบเพื่อนดีๆด้วย”
ได้ยินจากทนายเจมส์บอกว่าคนร้ายเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปจากการหลอกขายประกัน? “ช่วงต้นปีที่ผ่านมามันจะมีการขายประกันเจอโควิดจ่ายจบ เราเป็นหนึ่งในคนที่กดลิ้งเข้าไปเพื่อซื้อประกัน 4 ฉบับ เพราะว่าบริษัทสามีเขาซื้อให้ เราก็ซื้อให้คุณแม่ ตัวเอง ลูกสาว และลูกชาย แล้วลิ้งนี้เป็นลิ้งที่เพื่อนส่งมาให้ แล้วเพื่อนก็ซื้อ เราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเพราะลิ้งนี้ค่ะ
ตอนแรกเราคิดว่าเราไปกดอะไรอย่างอื่นหรือเปล่า เพราะเราจะเป็นคนที่รับโทรศัพท์ทุกสาย เปิดข้อความดูทุกข้อความ แต่ทีนี้ตำรวจบอกว่ามันเกิดจากการที่เรากดลิ้งเข้าไปซื้อประกันชีวิตโควิดเจอจ่ายจบ
คือมิจฉาชีพมันมาทุกรูปแบบ ฉะนั้นอยากจะบอกให้ทุกคนระวังเอาไว้ค่ะ คือเราไม่มีโอกาสรู้ได้เลยนะ แล้วล่าสุดเขาบอกว่ามีในรูปแบบวิดีโอคอลว่าเป็นตำรวจล่าสุดเลยค่ะ เหมือนกับว่าเราทำความผิด เพราะถ้าไปเจอคนที่เขาทำความผิดจริง เขาก็คงจ่ายไง”
“ตอนแรกเรานึกว่าเราถูกขโมยรูปบัตรประชาชนไปกู้จริง เพราะลักษณะการทวงเงิน ทวงเหมือนเราเอาเงินเขามาจริงๆเลย ตำรวจบอกว่าอยากไปคิดแบบนั้นครับ ผมผ่านคดีมาเป็นหมื่นแล้วมันทำแบบนี้จริงๆ มันทำเหมือนเรากู้ไปจริงจัง แล้วที่มันใช้ยอดเงินน้อยๆ เพราะว่าคนรำคาญกัน เขาโอนไปให้เสร็จ แต่จริงๆแล้วเขาคิดผิด เพราะยิ่งโอน เขาก็จะยิ่งโทร”
จับไปได้กี่แก๊งแล้ว? “ประมาณ 9 แก๊งค่ะ แต่ที่เกี่ยวข้องกับเราจริงๆ 3 แก๊ง”
เงินที่หายไปหลักล้านจะได้คืน? “เบื้องต้นธนาคารที่เป็นเจ้าของเขาไม่รับผิดชอบนะ เขาพูดกับเราว่าต้องให้ตำรวจช่วยจับคนร้ายให้ได้ แล้วเราจะมีข้อมูลว่าปลายทางโอนไปที่ไหน แล้วให้ตำรวจเป็นคนเอาเงินกลับมา ซึ่งจริงๆเราว่าไม่โอเค
เพราะว่าทุกครั้งที่มีเงินเข้าออกมันจะต้องมี SMS แจ้ง ซึ่งมันจะเป็นตัวบอกว่าเงินเรามีเท่าไหร่ แล้วเราก็จ่ายเงินค่า SMS ตลอดเวลา แต่ SMS ไม่มีเตือนแม้แต่ข้อความเดียว จนกระทั่งเราจะโอนเงินให้ลูกสาวถึงมีมาบอกว่าให้ติดต่อธนาคารด่วน นี่เป็นความไม่รอบคอบที่ธนาคารควรรับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่รับผิดชอบก็อยากจะวอนบอกผู้เสียหาย”
