เปิดมุมลับๆ และตัวตนที่ชัดเจน แจ็คสัน หวัง ความแซ่บพุ่งทะยานในข้ามคืน

เปิดทุกมุมมองและความสำเร็จ สัมภาษณ์พิเศษอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยของ แจ็คสัน หวัง หรือ ‘พี่แจ็ค’ แห่ง GOT7 ศิลปินชื่อดังจากเกาหลีใต้

เปิดทุกมุมมองและความสำเร็จ สัมภาษณ์พิเศษอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยของ แจ็คสัน หวัง (Jackson Wang) หรือ ‘พี่แจ็ค’ แห่ง GOT7 ศิลปินชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่เป็นขวัญใจของแฟนๆ ชาวไทยจำนวนมาก ที่ก่อนหน้านี้มาโชว์คอนเสิร์ตเปิดศึกแดงเดือดที่เมืองไทย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ และผู้ชมจำนวนไม่น้อย
ล่าสุด วู้ดดี้ ไม่รอช้าหลังจากพี่แจ็คบอกว่าอยากคุยกับ Woody Talk จัดให้แบบจุกๆ #JacksonwangxWoodyFM เผยมุมลับๆ แบบเข้าถึงตัวตนที่ชัดเจนของพี่แจ็คที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ ส่วนไหนของร่างกายที่เซ็กซี่ที่สุด เล่าถึงการรวมตัวของ GOT7 ผลงานเพลงล่าสุดที่ดูแลเองทุกขั้นตอน และความกดดันในการทำงาน พร้อมเผยความรู้สึกที่มีต่อแฟนชาวไทย

สวัสดีครับพี่แจ็คไม่ได้เจอกันหลายปีเลย 7 ปีแล้วมั้ง? “โอ้! สวัสดีครับ”
คุณควรมาอาศัยอยู่ที่นี่นะ คุณไปทุกที่เลยใช่ไหม? “ผมก็อยากนะ ใช่ จริงๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ส่วนมากอยู่ในโรงแรม”
ยินดีต้อนรับสู่โลกของ วู้ดดี้ เวิลด์ คุณเป็นยังไงบ้างวันนี้? “ผมสบายดี”
ทีมงานของคุณ ถามไหมว่าคุณอยากคุยกับใครในประเทศไทย? “ถามครับ สิ่งแรกที่ผมบอกคือวู้ดดี้ เพราะผมไม่ได้เจอคุณมานานแล้ว แต่ผมติดตามงานของคุณนะ อินสตาแกรมคุณน่าสนใจมาก ผมคิดว่าคนแรกที่ผมอยากคุยด้วยคือวู้ดดี้”
นี่คือการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของคุณในประเทศไทยใช่ไหม เราควรสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเพราะผมรู้ว่าคุณรู้ภาษาไทย? “ใช่ ผมไม่รู้ภาษาไทยผมรู้แค่ สวัสดีครับ ผมแจ็คสันหวังครับ, สวัสดีครับพวกเราคือ GOT7, แจ็คสันรัก GOT7 ครับ, ทำไม, คุณชื่ออะไร, 1 2 3, รักนะจุ๊บๆ, ขอบคุณครับ(หัวเราะ)”
คุณรู้อะไรไหม ผมคิดว่าคุณควรใช้คำนี้ “พี่แจ็คแซ่บมาก”? “แซ่บมาก แปลว่าอะไรหรอครับ”
พี่แจ็คแซ่บมาก! “โอ้ ไม่ผมพูดแบบนั้นไม่ได้ โอเค พี่แจ็คแซ่บมาก”
คนมักจะเรียกคุณพี่แจ็คตลอดเลยใช่ไหมเพราะอะไรเหรอ? “จริงๆ แล้วผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ ผมหมายถึง ผมเป็นเหมือนพี่ชายคนโต ผมก็ถามนะว่าผมอยากมีชื่อเล่นอื่นนอกจาก แจ็คสัน หวัง เขาก็บอกว่าเรียกพี่แจ็ค แต่ผมเคยได้ยินคนเรียกน้องแจ็คด้วย ผมสงสัยว่ามันต่างกันยังไง เขาบอกว่า พี่ เรียกคนที่โตกว่า น้อง เรียกคนที่เด็กกว่า เหมือนน้องชายคนเล็ก แต่ผมอยากเป็นพี่คนโต ดังนั้นผมเลยอยากให้คนเรียกพี่แจ็ค คุณสามารถเรียกผมพี่แจ็คได้แต่เรียกน้องแจ็คไม่ได้”
เพราะฉะนั้นวันนี้ผมต้องเรียกคุณพี่แจ็ค? “ไม่ คุณสามารถเรียกผมน้องแจ็คได้ คุณเป็นพี่ชายของผม”
โอเค คุณเรียกผมว่าอะไร? “พี่วู้ดดี้ พี่วู้ดดี้แซ่บมาก ผมเรียนรู้เร็วมั้ย”
คุณอยู่กรุงเทพมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว บอกผมเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่คุณจำได้ดี? “ฝนตกแต่ผู้คนมากมายยังแสดงความรักและสนับสนุนผม ผมรู้สึกแย่มาก ทุกครั้งที่งานจบ ผมแค่คิดว่าพวกเขาจะกลับบ้านยังไง ผมไม่สามารถ…ผมแค่หวังว่าผมจะพาเขากลับบ้านได้ เพราะฝนตกหนักหลายคนไม่มีร่ม มันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก”
เพราะทันทีที่คุณมาถึงสนามบินคุณก็ทวีตว่า ‘ขอให้ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย’
“ใช่ครับ เพราะผมเป็นกังวลมาก ผมคาดไม่ถึง ผมรู้สึกช็อกมาก แล้วผมรู้สึกว่าผมต้องทำให้คุ้มค่าที่สุดสำหรับพวกเขาในฐานะศิลปิน ต้องทำงานหนักขึ้นสำหรับพวกเขา ต้องทำให้ดีที่สุด ที่ทำให้พวกเขารู้ว่าทุกอย่างที่เขาทำให้ผมนั้นมีค่า”


คุณรู้สึกยังไงกับคนไทย? “มีความมุ่งมั่นสูงมาก มุ่งมั่นสุดๆ ถ้าใครสักคนยังมาหาคุณในวันที่อากาศแย่ ไม่ว่าฝนตกหรืออะไรก็ตาม ถ้านี่คือความรัก ผมว่านั่นคือรักแท้นะ เหมือนที่ผมพูดไปผมรู้สึกแย่มาก ผมรู้สึกว่าผมไม่สมควรได้รับสิ่งนี้ โอ้พระเจ้า ผมพูดไม่ออกเลย นี่คือสิ่งที่ผมอยากคุยกับคุณเหมือนกัน การมีชื่อเสียงโด่งดังสำหรับผมรู้สึกว่ามันไม่ตลอดไปสำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันเหมือนฟองสบู่ ตอนที่ผมยังมีสิ่งนี้อยู่ผมควรเห็นคุณค่าของมัน แล้วก็ฝึกฝนและทำให้เแน่ใจว่าผมทำมันดีที่สุดทำให้คุ้มค่าที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ผมคิด แต่ผมไม่เคยรู้สึกพอใจหรือ ‘นี่แหละพี่วู้ดดี้ ผมทำได้แล้วพี่’ ผมไม่เคยเป็นแบบนั้น”
คุณรู้ไหมจากที่คุณผ่านอะไรมา หรือเห็นอะไรแบบนี้ในชีวิตตอนนี้ คนไทยตอนนี้พวกเขาก็พยายามกันหนักมาก เหมือนที่เขาพูดว่า “ฉันสู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ” คุณรู้ใช่ไหมผมหมายถึงอะไร? “ครับๆ รู้ครับ”
ตอนนี้คนไทยกำลังอินกับประโยคนี้ ผมคิดว่านี่จะเป็นประโยคที่ดีสำหรับคุณ คุณพร้อมสำหรับคำนี้ไหม? “ผมพร้อมเสมอ เราจะบอกว่า…ผมสู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับ”
มาทำความรู้จักแจ็คสันให้มากขึ้นกันเถอะ คำไหนที่นิยามตัวคุณ? “พี่แจ็ค Woody Talk to พี่แจ็ค”
เก่งมาก คุณอยากทำอะไรมากที่สุดก่อนอายุเข้า 30? “อย่างน้อยมีเพลงหนึ่งเพลง แล้วก็การแสดง และเป็นนักแสดงในหนัง หรือมีเพลงที่คนรู้จักจริงๆ”
สิ่งแรกที่คุณทำตอนตื่นนอน? “ผมตรงดิ่งไปอาบน้ำทันที”
ถ้าคุณสลับร่างกายกับใครก็ได้ในหนึ่งวัน คุณจะสลับกับใคร? “ไม่สลับกับใครเลย”
อะไรคือสิ่งที่คุณกลัวมากที่สุดในชีวิต? “ทางร่างกายผมไม่ชอบแมลงเลย เช่น แมลงสาบ ผมไม่เอาเลย”
ในทางจิตใจล่ะ? “ความผิดหวัง”
หน้าจอโทรศัพท์ของคุณตอนนี้เป็นรูปอะไร? “รูปของผม แม่ของผม และน้องชายของผม”
เพลงไทยที่คุณรู้จัก? “ฉันผิดเอง (ทำท่าร้อง) มีหลายคนพอผมร้องว่าฉันผิดเอง ไม่มีใครรู้จักเลย ผมก็เข้าใจว่าเพลงนี้ดังมาตลอด เป็นเพลงนานแล้ว ผมคิดว่าตอนที่ผมเจอคุณครั้งแรกในคอนเสิร์ต”
สีผมที่คุณอยากทำแต่ไม่เคยทำมาก่อน? “สีม่วง”
ถ้านึกถึงประเทศไทย สิ่งแรกที่คุณนึกถึงคืออะไร? “ความรัก”
ส่วนไหนในร่างกายของคุณที่เซ็กซี่ที่สุด? “ผมว่าไม่น่าออนแอร์ได้ครับ”
แจ็คสัน หวัง หล่อหรือเซ็กซี่? “ผมเป็นแค่พี่แจ็ค”
อะไรที่ทำให้คุณร้องไห้เมื่อเร็วๆ นี้? “ครอบครัว”
ตัวการ์ตูนตัวโปรดของคุณคืออะไร? “บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz lightyear) ผมรู้สึกเหมือน Toy Story ภาคก่อน บัซมีบทบาทน้อยเกินไป ผมรู้สึกแย่มาก”
ผลไม้ไทยที่คุณชอบที่สุดคืออะไร? “ทุเรียน”
คุณอยู่ที่มาหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่ได้กิน? “ผมก็รอจนถึงวันสุดท้ายที่ผมอยู่ที่นี่ ผมจะกินทุเรียนทั้งวันเลย ผมจะไม่กินอย่างอื่นเลย(หัวเราะ) ผมชอบทุเรียนมาก”
คุณชอบอะไรในทุเรียน? “ชอบรสชาติ ความครีมมี่ แล้วก็รสชาติ ชอบแบบนุ่มแต่ข้างนอกมันต้องแข็งหน่อย แล้วตอนคุณกัดทุเรียน ความนุ่มรสชาติจากข้างในมันแบบท่วมท้มในปาก ในปากของคุณมันเหมือนผ้าห่ม ห่มความเป็นชีสและครีมมี่ แบบดีอ่ะ ความแข็งจากผิวทุเรียน แล้วเมื่อคุณกัดมันจะแตก โอ้พระเจ้า ผมชอบของหวานทุเรียน มันคือทุเรียนแล้วก็มีไอศกรีมตรงกลางแล้วก็วิปครีม มันเข้ากันได้ดีมาก ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดในโลกใบนี้”


เล่าให้ผมฟังหน่อย พี่แจ็คตอนอยู่ที่บ้านเป็นยังไง? “ปกติผมจะใส่เลกกิ้ง แล้วก็ฮีตเทคตอนนอน แต่ถ้าอยู่บ้านจริงๆ ผมจะไม่ใส่อะไรเลย ผมไม่อยากให้อะไรมาฉุดรั้งเราไว้ เรานอนอยู่บนหมอนสบาย เราคงไม่หาอะไรมาครอบให้อึดอัด เราก็ปล่อยให้ร่างกายสบายๆ ก็แค่ปล่อยให้มันเป็นอิสระไป”
คุณรู้สึกผิดหวัง? “ใช่ เหมือนเมื่อไม่นานนี้เอง ผมแค่อยากทำอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำ ผมเหนื่อยที่ผมต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมมีความฝันของผม ผมแค่อยากทำมัน ถ้าผมล้มผมได้ลองแล้ว ถ้าผมประสบความสำเร็จหรือผมล้มเหลว ผมก็ล้มเพราะตัวเอง นั้นคือเหตุผลที่ผมอยากเลือกทำในสิ่งที่ใจผมบอกให้ทำ แต่นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรอบตัวหรือทีมของผมอาจจะไม่เห็นด้วย ผมก็เข้าใจว่าทำไม แต่ความรู้สึกจริงๆ ของผมคือ มีคนที่เป็นห่วงคุณแต่ไม่ได้สนใจความฝันของคุณ เพราะวิธีการทำงานของอุตสาหกรรม คือทั้งเชิงพาณิชย์และมีคุณภาพไปด้วยกัน เหมือนศิลปะและโฆษณาต้องผสมผสานกันแล้วจะลงตัว แต่สำหรับถ้าผมต้องยอมตัดด้านศิลปะของตัวเองเพื่อการโฆษณา แล้วผมรู้สึกไม่โอเค ผมก็ไม่อยากได้เหมือนกัน มันไม่ใช่ผลงานของผมตั้งแต่เริ่มอยู่แล้ว เหตุผลที่เลือกความผิดหวังเพราะผมอยากเลือกทางเดินของตัวเอง”
คุณมีความรู้สึกผิดหวังในชีวิต? “ผมคิดว่าเป็นบางครั้ง คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ทุกคนผ่านไปให้ได้ แต่ผมคิดว่าตอนนี้ผมเหมือนถูกจัดระเบียบความคิดใหม่”
พูดถึงปัญหาทางจิตใจ อะไรคือสิ่งที่รบกวนจิตใจคุณที่สุด และคุณจัดการกับมันยังไง? “ยังเลยครับ ผมยังอยู่ในขั้นตอนการพยายามกำจัดมันออกไปอยู่ หลายๆ ครั้งผมไม่มีความสุข มันเหมือนผมกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ และมีบางคนที่เขาใส่ใจความฝันของผม แล้วก็มีบางคนที่สนใจแค่ตัวเลข บางคนสนแค่ว่าเราจะได้มาอย่างไร อันนี้เท่าไหร่ อันนั้นเท่าไหร่ แต่ถ้าถามผมจริงๆ ใช่มันสำคัญ แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมอยากจะทำในสิ่งที่อยากทำ คุณเข้าใจผมใช่ไหม สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่มันทำให้ผมติดอยู่ในหัวมาตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ผมแค่ต้องการคนที่มีพลังบวกรอบๆ ตัวผม ไม่ต้องชมผมตลอดเวลา พูดความจริงกับผมสิ ทำสิ่งนี้นี่คือผลลัพธ์ นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับกลับมา 1 2 3 คุณก็แค่บอกผมมาทำไมต้องปิดบัง แบบนี้มันไม่ได้ทำให้ผมเป็นศิลปินที่ดีขึ้นได้ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ต้องปฎิบัติกับผมเหมือนเจ้าชายในดิสนีย์ทุกวันหรอก ถ้าผมเชื่อในความฝันนั้น ก็ให้เชื่อไปกับผม ถ้าไม่เชื่อผม ผมคิดว่าเราไม่สามารถไปด้วยกันได้ มันง่ายๆ แค่นั้นเลย”
เมื่อถึงวันที่คุณรู้สึกมีความสุขแล้ว ส่งข้อความหาผมนะ? “โอเค วันหนึ่งผมจะส่งข้อความหาคุณ(หัวเราะ) แต่อัลบั้มของผมที่จะปล่อยในเดือนกันยายน ทั้งแนวเพลง ทั้งโทนสีทุกอย่าง ผมคิดว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกนี่แหละตัวผม ผมมีความสุขมาก อัลบั้ม Magic Man ผมมีความสุขกับมันมาก แต่จะเปิดตัวยังไงผมยังไม่รู้ ผมเป็นแค่คนสร้างสรรค์งาน ผมเชื่อมั่นในเนื้องานเท่านั้นแหละ”
เพลง Cruel ของคุณกำลังจะปล่อยออกมาไม่กี่วันนับจากวันนี้ ถูกต้องไหม? “ผมไม่แน่ใจ อาจจะ 1-2 วันในระหว่างนี้ ผมมีความสุขที่ได้กำกับมิวสิกวิดีโอนี้ แน่นอนว่ากับผู้กำกับคนอื่นๆ นักออกแบบท่าเต้นด้วย เราทำมันด้วยกันภายใน 3 อาทิตย์ และเหตุผลที่ผมมักจะกำกับงานของตัวเองอยู่เสมอคือเมื่อ 4 ปีที่แล้วผมถูกผลักไปที่มุม ที่ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ เหมือนคุณไล่ดูสิ่งที่ต้องทำ บรีฟงาน ประชุมกับผู้กำกับต่างๆ คือผมพอละ ไม่ไหวละ ที่ต้องมาหาทีมที่เหมาะสม ไหนจะต้องประชุมอีก แต่เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ผมจะมาเสียเวลาแบบนี้ไม่ได้แล้ว ตอนนั้นก็เลยแบบ ช่างมัน ผมทำเองเลยดีกว่า แล้วผมก็เริ่มเรียนรู้ เรียนรู้ ตอนนี้ผมผลิตผลงานของตัวเอง และมันเป็น 100% ของสิ่งที่ผมอยากเป็น ผมมีความสุขกับมัน นั่นทำให้ผมมีความสุข สิ่งอื่นยังไม่รู้ แต่ผมจะส่งข้อความหาคุณด้วย”


ผมเห็นโชว์และการแสดงของคุณ ผมแน่ใจว่าก่อนที่คุณจะไปถึงจุดนั้น คุณคงทำงานหนักมากซ้อมนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อมั่นใจว่างานจะออกมาดี โชว์ที่ราชมังคลากีฬาสถานมันเป็นงานที่ใหญ่มาก
“ใช่มันใหญ่มากเลย ใช้เวลามากกว่า 2 อาทิตย์ในการสร้างมัน มีองค์ประกอบเยอะแยะมากมาย มันเหมือนกับพิซซ่า มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันมากมาย การผลิต การจัดแสง เครื่องแต่งกาย คอนเซ็ปต์ ท่าเต้น การเคลื่อนไหวของกล้อง และมันขึ้นอยู่กับสถานที่ สิ่งนั้นทำได้ สิ่งนี้ทำไม่ได้ ต้องทำให้ทุกอย่างลงตัว ทุกอย่างมารวมกันแล้วต้องลงตัว ผมเครียดมาก”
ระหว่างที่ร้องเพลงคุณคิดถึงพวกปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ด้วยไหม? “ผมร้องเพลงแล้วอยู่ๆ ฝนตก บอกตรงๆ ว่าไม่พอใจกับโชว์เท่าไร ผมไม่พอใจกับมันมากเลย ผมรู้สึกเสียใจมากหลังจากนั้น จริงๆ ครับ ผมควรทำมันได้ดีกว่านี้ ผมน่าจะเอ็นเตอร์เทนคนดูได้ดีกว่านี้ อย่างที่ 2 ผมควรคิดถึงแผนสำรองต่างๆ เช่น มีรองเท้าที่ใส่แล้วไม่ลื่น ผมควรเตรียมตัวดีกว่านี้ ให้มัน 100% ผมรู้สึกหดหู่เหลือเกินหลังจากงานนั้น”
คุณผ่านมันมาได้หรือว่ายังติดอยู่ในหัว? “มันจะนำพาผมไปสู่การแสดงครั้งหน้า ผมยิ่งต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้”
ผมไม่อยากให้คุณกดดันตัวเองมากเกินไป? “ผมไม่ได้กดดันตัวเองนะ ผมแค่อยากทำมันให้ดีที่สุด ผมมักว่าจะถามตัวเองเสมอว่าทำไมผมถึงไม่ดีที่สุด ซึ่งพอมองลึกๆ เข้าไป มันเป็นเพราะโน่นนี่นั่น เป็นเพราะทุกอย่างที่ผมทำออกมา ดนตรีหรือไม่ว่าอะไรก็ตาม มันก็ยังไม่ดีที่สุด เพราะเตรียมตัวไม่พอ เพราะคนที่ไม่เข้าใจดนตรี เขารู้ว่ามีข้อผิดพลาด อาจจะเรื่องร้อง เรื่องเต้น เรื่องโชว์ เรื่องต่างๆ นั่นคือเหตุผลซึ่งผมรู้ และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ผมปล่อยผ่านมันไปได้ เพราะนี่คือความจริง ผมเลยพยายามหาจุดบกพร่องเหล่านั้น ผมรักที่คนมากมายที่คอยสนับสนุนผม เช่น แจ็คสันคุณช่างน่ารัก สุภาพ แต่ผมคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรยกย่องเลยมันคือสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้ว มันคือเรื่องสามัญสำนึกนะ มันไม่ใช่เรื่องน่าชมเชย หลายครั้งที่ผมรู้สึกขอโทษแฟนๆ ถ้าผมทำมันได้ดีกว่านี้ พวกเขาคงจะภูมิใจมากกว่านี้ สมัยก่อนผมปล่อยเพลงเยอะหรือแม้แต่หลายๆ เรื่องที่เคยทำมันออกมาไม่ดี แต่พวกเขายังสนับสนุนผม ในส่วนลึกของหัวใจผมรู้ว่ามันห่วย พวกเขาก็รู้ว่ามันห่วย แต่เขาเลือกที่จะสนับสนุนผม นั่นทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมต้องทำมันให้ดีขึ้นกว่าเดิมแค่นั้น”
เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า คุณทำได้ดีที่สุด? “ในจุดที่ผมสามารถปล่อยวางและพอใจได้ ผมยังไม่เคยพอใจเลย ผมอยากให้คนทั่วโลก หรือคนที่ไม่รู้จักผม เวลาที่พวกเขาพูดถึงศิลปินจากตะวันออก ศิลปิน เอเชีย หรือว่าจีน จะบอกว่าศิลปินคนนี้ผลงานโคตรเจ๋ง ผมคงรู้สึกว่าพวกเขาเข้าใจศิลปะที่ผมจะสื่อออกไป ผมอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าผมได้ทิ้งอะไรไว้ ก่อนที่ผมจะจากไป ผมพูดลึกเกินไปใช่ไหม ต้องขออภัยนะครับ”
ทุกสิ่งที่คุณมุ่งมั่น ผมอยากให้คุณรู้ด้วยว่า ผู้คนรับรู้ถึงความรักชื่นชมคุณเขารัก แจ็คสัน หวัง เพราะคือ แจ็คสัน หวัง และทุกสิ่งที่ทำ ผมแค่อยากให้คุณรู้จากก้นบึ้งของหัวใจว่าพวกเรารักคุณมาก และเราอยากเห็นคุณกลับมาที่ประเทศไทย อยู่นานขึ้น พร้อมการแสดงมากขึ้น และคุณรู้สึกภูมิใจมากขึ้น
“ขอบคุณครับ”


คุณควรมีสัญชาติไทยนะ “ผมควรมีมันจริงๆ ตลอดเวลาที่ผมไม่มาไทยเป็นเพราะไม่มีใครเชิญผมมา แล้วก็ขอบคุณมาก ผมรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ สำหรับความรักและการสนับสนุน”
มาพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่า ยินดีกับการกลับมาของ GOT7? “ใช่ครับ เรากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง มันคือความวุ่นวายแต่สนุก สนุกมาก พวกเราเหมือนกับครอบครัว เราผ่านช่วงเวลาที่ดีและแย่ไปด้วยกัน เราเคยตีกันแต่ก็กลับมารักกันเหมือนครอบครัวแหละ ใช่มันสนุกมากสำหรับผม มันเป็นมากกว่าธุรกิจ ผมมักจะเปรียบมันเหมือนวันหยุดพักร้อน เหมือนการพบกันอีกครั้งในฤดูร้อนกับเพื่อนมัธยมของคุณ”
ถ้าบอกชื่องานกับ GOT7 ที่คุณจำได้งานนั้นคืองานอะไร คุณต้องเลือกมา 1 งานและบอกเหตุผลว่าทำไม? “ผมคิดว่ามันเป็นทัวร์ครั้งแรกของเราและทุกครั้งที่พวกเราไปทัวร์คอนเสิร์ต เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างที่เราฝึกมาเทรนมาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์มันคุ้มค่า ผมคิดว่านั่นคือโมเมนต์แรก อย่างที่สองคือเมื่อพวกเรากลับมาที่ JYP เพื่อกลับมาฝึกอีกครั้ง จากนั้นเราก็เข้าสู่โครงการนี้ ที่พวกเขาคัดเด็กฝึกออกไปทุกสัปดาห์ มันน่าจดจำมากสำหรับผม เพราะมันตื่นเต้นมาก เหมือนทุกสัปดาห์พวกเรารู้สึกเหมือนเรากำลังจะตาย แต่พวกเราทั้ง 7 ก็ได้ถึงเข้ารอบสุดท้าย นั่นเป็นอีกหนึ่งในการเดินทางที่น่าจดจำบทหนึ่ง”
ฟังดูโหดร้ายมากเลย มีน้ำตาไหม คุณร้องไห้ไหม? “แน่นอนทุกคนก็ร้องไห้ จำได้ครั้งหนึ่งพวกเรากลับมาที่พัก แล้วเพื่อนเกาหลีบอกว่า ถ้าพวกคุณทำมันไม่สำเร็จในอาทิตย์นี้ พวกเรารู้สึกเสียใจมาก เพราะพวกเราทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่ที่เกาหลี และพวกคุณต้องกลับไปบ้านเกิดของตัวเอง ผมจำมันได้ ตอนนั้นผมอยู่ที่ห้องครัวแล้วทุกคนก็ร้องไห้”
แล้วคุณก็ทำมันได้ประสบความสำเร็จมากมายมีแฟนคลับเยอะมากทั่วโลก แล้วพวกเขารักพวกคุณ? “ใช่ พวกเราก็รักพวกเขาเช่นกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน