‘จิ๊บ วสุ’ ปลง ชีวิตไม่แน่นอน บริจาคร่างกาย เซ็นพินัยกรรมให้ภรรยาดูแล อึ้งหมอบอกคอนดิชั่นร่างกายเหมือนอายุ 30 กว่าๆ เปย์ภรรยา 10 ล้าน
ถือโอกาสทำบุญใหญ่ในวันครบรอบวันเกิดอายุ 55 ปี ของนักแสดงหนุ่ม จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว โดยการบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับโรงพยาบาลศิริราช งานนี้ได้แรงสนับสนุนจากภรรยา จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม
ล่าสุดวันที่ 3 มี.ค.66 จิ๊บ-จ๊ะจ๋า เดินทางมาร่วมงานกิจกรรม “เปิดลานเทดู เลือดเจ้าพระยา” ที่ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการบริจาคร่างกาย และเรื่องพินัยกรรม
บริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่? จิ๊บ “เป็นความตั้งใจส่วนตัวมานานแล้ว บังเอิญช่วงก่อนหน้านี้มีโควิด-19 ทำให้ไม่สะดวก แผนนี้เลยดีเลย์ออกไป แต่ว่าช่วงสิ้นปีที่แล้ว มีจังหวะพอดี แล้วก็อยู่ในโอกาสครบรอบวันเกิด เลขสวย 55 เลยถือโอกาสไปบริจาคร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นที่ที่คุณพ่อผมเรียนจบมาด้วย แล้วท่านก็ไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายในการรักษาร่างกายเข้า-ออกที่ศิริราชหลายปีเหมือนกัน ก็เลยมีความผูกพัน และตั้งใจว่าถ้าเกิดจะทำก็ทำที่นี่ เพราะมีทั้งอาจารย์แพทย์ เพื่อน ที่เป็นอาจารย์หมออยู่หลายคน จริงๆ จ๊ะจ๋าก็ทราบเรื่องดีก่อนหน้านี้แล้ว เพราะตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ก็หารือกับเขามาตลอด ซึ่งวันนี้เขาสนับสนุนเราเต็มที่ เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องขอบพระคุณมากๆ ที่เขาเห็นในความตั้งใจของเรา แล้วจ๊ะจ๋าก็เคยบริจาคไปล่วงหน้าแล้ว”
ตอนนั้นสนับสนุนสามีเลย? จ๊ะจ๋า “จ๋ามีแต่สนับสนุนค่ะ มันไม่ใช่ว่าจ๋าเคยบริจาคแล้ว หรือครอบครัวจ๋าทุกท่านก็บริจาคร่างกายหมดแล้ว แต่มันเป็นประเด็นที่ว่าจ๋าภูมิใจที่การเสียสละมันคือส่วนหนึ่งของการให้ ถึงแม้ชีวิตเราจะไม่อยู่แล้ว แต่ร่างกายเรามองเห็นถึงความมีประโยชน์ของร่างกาย ก็ถ้าเกิดต้องการกำลังใจ อยากจะให้หาข้อมูล บอกเลย ยินดีที่จะดูแล เขาก็บอกว่าไม่ต้อง เขารู้ทุกอย่างแล้ว ศึกษาหาข้อมูลมาหมดแล้ว ด้วยความที่เขาคลุกคลีกับตรงนี้อยู่แล้ว ก็เลยบอกว่าภูมิใจในตัวพี่จิ๊บมากๆ ที่มีความเสียสละตั้งใจจะทำสิ่งนี้”
จิ๊บ “สุดท้ายแล้ว ในเรื่องของชีวิต ศาสนา เราก็จะมีความเห็นเหมือนๆ กัน คือร่างกายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ของเรา มันคือการรวมตัวของดิน น้ำ ลม ไฟ ทุกชีวิต ไม่ว่าอยู่ในภพมนุษย์ หรือสัตว์ สุดท้ายก่อนที่จะแยกสลายกลับไปสู่ 4 ธาตุเหมือนเดิม ถ้ามันยังมีช่วงเวลาที่นำร่างกายหรืออวัยวะของเราไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อได้กับคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ คือพวกนี้มีขั้นตอนละเอียด หลังจากที่ร่างกายหยุดทำงาน หรือเสียชีวิตไปแล้ว ระบบชัตดาวน์มันไม่พร้อมกัน บางทีหัวใจไปก่อนระบบคลื่นไฟฟ้า สมองยังอยู่ ภายใน 24 ชั่วโมงยังใช้ได้อยู่ พวกนี้แยกส่วนไปเลย ทำอะไรได้ทำไป”
จ๊ะจ๋า “ของจ๋าเองเป็นบริจาคอวัยวะ ดวงตา เครื่องใน ตับ ม้าม หัวใจ บริจาคหมดแต่พี่จิ๊บให้ร่างกาย เพื่อให้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้นักศึกษาได้มาศึกษา แม้จะคนละภาคส่วน แต่ก็เป็นการให้ และนำมาซึ่งความสุขเสมอ ณ วันนี้ที่เรายังอยู่ เจตนารมณ์ที่เราจะให้มันได้เกิดขึ้นแล้ว ดีใจค่ะ พี่จิ๊บโพสต์ไปก็มีคนมาอนุโมทนาบุญเต็มเลย ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย”
อัพเดตสุขภาพหน่อยยังแข็งแรงกันดี? จ๊ะจ๋า “แข็งแรงมากๆ ค่ะ พี่จิ๊บเขาไปตรวจมาก็แข็งแรงกว่าอายุเยอะมาก พอเขารู้ว่าตัวเองแข็งแรงก็ซ่าเลย แพลนจะไปเที่ยว แพลนรับงาน แพลนคอนเสิร์ต เขาโตกว่าเรา 16 ปีนะ แต่กิจกรรมเยอะ มีแผนการเยอะมาก แต่ก็สนุกไปด้วย เหมือนมีพลังในการใช้ชีวิตไปในระดับที่เท่าๆ กัน”
จิ๊บ “เดี๋ยวนี้เราสามารถที่จะรู้ได้ว่าอายุ พ.ศ.เกิดมันเป็นเพียงแค่หนึ่งปัจจัยเล็ก เรายังมีอายุของเซลล์ อายุของเลือด ความแตกต่างของยีนส์ และดีเอ็นเอ พันธุกรรมของแต่ละคน รวมถึงการดูแลร่างกายในขณะที่มีชีวิตในแต่ละช่วงวัย บางคนอายุวัย 60-70 ปี แต่ว่าอายุเซลล์ เลือด กล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของอวัยวะภายในอาจจะเท่ากับคนอายุ 30 ปีต้นๆ ก็เป็นไปได้ หรือบางคนอายุน้อย แต่ใช้ร่างกายเยอะ หรือมีเรื่องพันธุกรรมมาเกี่ยว ก็อาจจะเร่งอายุไปได้ไกลเหมือนกัน อย่างผมอายุ 55 ปีเช็กละเอียดเลยกับอาจารย์แพทย์ เขาบอกว่าคอนดิชั่นร่างกายยังเหมือนคนอายุ 30 กว่าๆ เพราะเราออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหารการกินตลอด”
จ๊ะจ๋า “เด็กกว่าหนูเหรอเนี่ย ต้องเรียกพี่น้องอ่ะดิ หนูไม่มีวันแก่(ยิ้ม)”
มีเคล็ดลับอย่างไร หน้าเด็ก แถมร่างกายแข็งแรง? จ๊ะจ๋า “เขาออกกำลังกายตลอดเวลา แล้วเขาดื่มน้ำเยอะมาก แต่ว่าสิ่งสำคัญเขาอารมณ์ดี คิดบวก แล้วชอบดูคลิปสัตว์น่ารักๆ ดูแล้วยิ้ม หัวเราะคนเดียว พออยู่ใกล้เขาก็รู้เลยว่าถ้าอยากจะดูเด็ก ดูสดใส ต้องออกกำลังกาย ดื่มน้ำ อารมณ์ดี”
จิ๊บ “คือเรา 2 คนเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ ที่สุดแล้วการกลับคืนสู่ธรรมชาติมันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นพลังบริสุทธ์ สิ่งที่ธรรมชาติให้เราเป็นยาอายุวัฒนะที่ดีมากๆ ก็ต้องพักผ่อนให้เพรยงพอ รับประทานให้เหมาะสมกับช่วงวัย ออกกำลังให้เหมาะสม ที่สำคัญคือเรื่องสุขภาพจิต อะไรที่คิดปั๊บแล้วเป็นมะเร็งจิต ทำให้อารมณ์ขึ้นตัดไปเลย สมัยวัยรุ่นฮอร์โมนอาจจะเฟี้ยวฟ้าวหน่อย แต่พอถึงจุดหนึ่งเราจะรู้ว่าสิ่งที่มันท็อกซิกกับร่างกายและจิตใจมันก่อให้เกิดประโยชน์และทำให้บั่นทอนอายุเราลง”
อีกเรื่องหนึ่ง ได้ยินว่าเปย์ช่วงนี้เปย์เก่งมาก เขียนพินัยกรรมให้ภรรยาฮุบสมบัติ? จ๊ะจ๋า “ไม่น่าจะใช่เราค่ะ แต่ถ้าเปย์เวลา เปย์ความรักนั่นคือเราค่ะ(ยิ้ม)”
จิ๊บ “ผมกับคุณจ๊ะจ๋าในเรื่องของวัตถุหรือของที่มีมูลค่า เราไม่เคยให้ความสำคัญกันมากไปกว่าเรื่องคุณค่าทางจิตใจซึ่งกันและกัน คือเคมีคน 2 คนตรงกัน แล้วเรามีความรัก มีความสบายใจ มีความไว้วางใจ มีความเชื่อใจที่จะให้ดูแลในเรื่องต่างๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วถ้าหากว่าใครมีไลฟ์พาร์ตเนอร์ที่เคมีเข้ากันได้อย่างนี้ ถือว่าเป็นบุญและโชคดี ผมเองก็โชคดีที่มีจ๊ะจ๋าช่วยดูแลอยู่ข้างๆ คำว่าพินัยกรรม มันเกิดขึ้นอย่างนี้ครับ วันที่ไปบริจาคร่างกาย เขาจะต้องให้คนเซ็นรับรองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ผู้ที่ดูแลเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดให้จะเป็นใคร”
จ๊ะจ๋า “อ๋อ คือหนูเหรอ อ๋อ หมายถึงเรื่องนี้ (หัวเราะ) ใช่ๆ ตอนนั้นมีคำว่าพินัยกรรมอยู่”
จิ๊บ “เราเซ็นไปแบบเอ๋อๆ ไม่รู้ตัว แต่ว่าเขาเซ็นไปแล้ว ฉะนั้นถามว่ามีอยู่จริงมั้ยก็มีอยู่จริง ผมไปเปลี่ยนชื่อดีมั้ยเนี่ย (ยิ้ม) ดูงงๆ แต่สนุกสนานถ่ายรูปกับคุณหมอ คุณพยาบาล เขาให้เซ็นชื่ออะไร ไม่รู้เรื่อง(ยิ้ม) แต่ว่ามีจริง”
เห็นว่าเปย์ 10 ล้านด้วย จริงไหม? จิ๊บ “จริงในวันครบรอบแต่งงานปีแรก(เมื่อปีที่แล้ว) ของเราครับ ตอนนี้ครบ 2 ปีมาละ เราก็คุยกันและมีความเห็นตรงกันว่าต่อไปนี้สิ่งที่เราจะมีอยู่คือเรื่องเวลา ทรัพยากร เราตั้งใจจะให้คืนกับสังคมเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข เราเริ่มโปรเจ็กต์เล็กๆ ก็นำเงิน สิ่งของมามอบให้กับสถานการณ์ภัยพิบัติที่ตุรกี แล้วก็ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ 2 เราก็ไปเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่มให้กับทางโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา”
จ๊ะจ๋า “ปีนี้เราก็มีเป็น Love sharing”
แน่นอนว่าวันข้างหน้ามีแพลนเซ็นพินัยกรรมให้ครอบครัวแน่นอน? จิ๊บ “มีอยู่แล้ว จำเป็นต้องทำ คือผมว่าชีวิตเราจะอยู่ได้อย่างไม่ประมาท ศาสนาพุทธเขาเรียกว่ามรณานุสติอยู่ตลอดเวลา คิดตลอดเวลาว่าถ้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาแล้วเราไม่หายใจอะไรจะเกิดขึ้นต่อหลังจากนั้น เราต้องวางแผนล่วงหน้านะครับ การดูแลเรื่องเบื้องหลังของผมก็ไว้วางใจให้คุณจ๊ะจ๋าช่วยดูแล อย่างบางครั้งคุยกันในรายการ จ๊ะจ๋าบอกว่าผมบอกรักบ่อยจังเลย 5 นาทีบอกละ 10 นาทีบอกละ คือนาทีนี้บอกได้ แล้วถ้าอีก 5 นาทีผมอยู่ไม่ถึงล่ะ มันสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ครับ มันคือเรื่องจริงของชีวิต ฉะนั้นเรารู้สึกว่าตอนนี้อยากทำอะไร ทำทันที ไม่พลัดละ คิดปุ๊บทำเลย ตราบใดที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรา คนรอบข้างและสังคมครับ”
พินัยกรรมก็คงจะหนีไม่พ้นภรรยาและครอบครัว? จิ๊บ “ครับ ก็ต้องเป็นผู้ที่อยู่กับเราใกล้ชิดที่สุด ดูแลเรา ไว้วางใจ มีความเชื่อใจครับ ทุกคนก็คงจะหนีไม่พ้นคำว่าครอบครัว เป็นบ่อเกิดแห่งพลังในชีวิตของเราครับ”
