เจนนี่ จริงจังผู้ประกาศ ดีใจคำชมมากขึ้น และกำลังเตรียมตัวสอบใบประกาศ หลังจากนี้วางแผนว่า ค่ายเพลงได้หมดฯ จะส่งไม้ต่อให้น้องลิลลี่ดูแล

เริ่มมีคำชมขึ้นมามากกว่าคำด่าแล้ว สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” รัชนก สุวรรณเกตุ หลังมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวรายการทุบโต๊ะข่าว ล่าสุดได้เปิดใจว่าดีใจ และกำลังเตรียมตัวสอบใบประกาศ และหลังจากนี้วางแผนว่า ค่ายเพลงได้หมดฯ จะส่งไม้ต่อให้น้องลิลลี่ดูแล

ดราม่าผู้ประกาศข่าวผ่านไประยะนึงแล้ว ยังมีกระทบจิตใจอะไรไหม? อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีอะไรที่ทุกข์ใจ เพราะเรากำลังตื่นเต้นกับหน้าที่ใหม่ ดีใจที่คนให้ความสนใจกันขนาดนี้ และเราก็พร้อมที่จะพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกภาพรวมไปถึงการอ่านข่าว อยากให้ทุกคนลองเปิดใจชมดูสักนิดนึงแล้วค่อยคอมเมนต์”

เรามีความกังวลตรงไหนไหม? “พอผ่านมาสักระยะเราก็เหมือนรีแล็กซ์มากขึ้น ก็ไม่ได้กังวลอะไรแล้วค่ะ แค่อยากพัฒนาให้เรารู้สึกว่าเป็นมืออาชีพมากขึ้นค่ะ ให้คนชื่นชอบกับบทบาทตรงนี้ของเรา ให้สมกับที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสค่ะ

 

แต่เราไปทำแค่ 2-3 วันคนก็วิจารณ์แล้ว เสียกำลังใจไหม? “หนูรู้สึกว่ารอบนี้มันเป็นแรงผลักดันมากกว่า ก็เคยไปอ่านคอมเมนต์จากทุกๆ ข่าวที่หนูเคยเป็นข่าวมานะ แต่ข่าวนี้เป็นครั้งแรกเลยที่หนูรู้สึกว่าคนชมมากกว่าคนที่เข้ามาด่า เราเลยไม่ได้สนใจคนที่ด่ามากเท่าไหร่ แต่ถ้าอะไรที่ปรับได้เราก็พร้อมที่จะทำให้ แต่ถ้าคอมเมนต์ที่มาเพื่อเกลียดเรา เราก็ไม่สนใจ”

แต่พอฟีดแบ็กมาดี เราต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิมไหม? “ก็ทำการบ้านหนักกว่าเดิมค่ะ พยายามค้นหาตัวตนให้มากกว่าเดิม ก็ขอบคุณที่ทุกคนให้การตอบรับเป็นอย่างดี หนูก็พยายามไปดูพี่ๆ ที่เขาเป็นมืออาชีพ ดูว่าทำยังไงให้มันออกมาเป็นเราให้มากที่สุด อย่างที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเขาก็อยากให้มีความเป็นเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ก็เลยคิดว่าจะทำยังไงให้มันออกมาเป็นเราแบบที่ไม่มีดราม่าหรือให้คนชื่นชอบ”

ต้องซ้อมจากบ้านเลยไหม? ซ้อมค่ะ บางทีขึ้นคอนเสิร์ตก็ไปเรียกคนหน้าเวทีว่าคุณผู้ชม มันอินอยู่ในหัว (ยิ้ม) ก็พยายามถามแม่ทุกวันว่าวันนี้มีข่าวอะไรเด็ดๆ มั้ย เพราะเราดูเองคนเดียวบางทีก็ไม่ทัน”

สนใจข่าวไหนเป็นพิเศษ? “จริงๆ หนูรู้สึกว่าแต่ละข่าวมันท้าทายไม่เหมือนกัน ถ้าข่าวบันเทิงเราก็จะสนุกเฮฮาได้ แต่ถ้าข่าวที่ซีเรียสหน่อยเราก็ต้องพลิกบทบาท เหมือนเราไม่ใช่เด็กที่ขี้เล่นอีกต่อไป เราต้องรู้หน้าที่ว่าตรงนี้เล่นได้ ตรงนี้เล่นไม่ได้ ก็โอเคกับทุกข่าว”

 

แต่เราก็มีฟาดกลับบอกว่าจะไปสอบใบประกาศ? “ใช่ (ยิ้ม) คือบางทีอะไรที่เราเหนื่อยที่จะต่อต้าน เราก็ไหลตาม แต่บางทีก็ได้แค่บางเรื่อง ถ้าทุกเรื่องเดี๋ยวก็ไม่มีความสุขกันพอดี”

 

เราเตรียมตัวขนาดไหนที่จะไปสอบใบประกาศ? มีโค้ชค่ะ ก็พยายามที่จะคุยกันตลอด เขาก็บอกว่าให้เราพร้อมก่อน เพราะจะมีการสอบพูดด้วย ก็พยายามฝึกฝนค่ะ

ถ้าไปสอบแล้ว เราจะจริงจังกับบทบาทนี้เลยใช่มั้ย? หนูได้หมดนะคะ ถ้ามีโอกาสได้ทำต่อก็ยินดีที่จะทำ แต่ถ้าสอบแล้วไม่ได้ทำต่อก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าเป็นใบปริญญาหรือเกียรติบัตรที่ติดไว้ที่บ้านเราก็รู้สึกภูมิใจที่เรามีมัน”

กับอาชีพการเป็นผู้ประกาศข่าว เราจริงจังกับมันแค่ไหน? “จริงจังมากนะคะ เราก็รู้สึกว่าเราชอบ เราจากคนที่ไม่ค่อยได้รับคำชม แต่พอมีคนชมมากๆ เราก็รู้สึกภูมิใจ ดีใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา และมีแรงที่อยากจะทำต่อ อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ คนจะได้อยากดูเราอีกบทบาทนึง ก็คิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้ใหญ่ก็มีการคุยกันค่ะ ว่าเดี๋ยวจะมีการทำเพิ่มวันกัน เราก็รู้สึกฮึดขึ้นมา”

รู้สึกชินกับคำชมหรือยัง? “หนูก็ชิน แต่ก็ไม่ได้หลงไป เพราะเราก็ยังพลาด ไม่รู้ว่าวันไหนที่อาจจะมีคำด่าอีก คือเราอินกับคนที่เขาด่าเรามากเกินไป แต่พอมีคนชมถามว่าดีใจมั้ย ก็ดีใจ แต่มันก็กลัวว่าจะพลาดอีก ต้องโดนซ้ำเติมอีก แล้วก็พูดว่าเห็นมั้ยมันกลับมาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้”

 

 

เช็กฟีดแบ็กตัวเองตลอดใช่ไหม? “เช็กตลอดค่ะ เพราะอาชีพที่เราทำมันอยู่ได้เพราะแฟนคลับจริงๆ ถ้าไม่เช็กก็อยู่ไม่ได้”

ยังมีร้องไห้อยู่ไหม? “ไม่ร้องไห้เลย หนูรู้สึกโอเคมาก แต่ที่แอบเสียใจมันก็มี แต่พอเสียใจแล้วเราก็หาวิธีแก้ปัญหาว่าจะทำยังไง”

เราเคยดูตัวเองที่ทำไปแล้วไหม? “หนูดูทุกวัน วันละ 3-4 รอบ บางทีถ้าเห็นว่าผิดไปนิดนึง ก็จะรีเช็กกับทีมงานเลยว่าหนูพูดผิดตรงนั้นเป็นยังไงบ้าง เขาก็บอกว่าอย่าไปซีเรียส ก็ให้ดูพี่ๆ เขา อะไรที่มันผิดพลาดก็เดอะโชว์มัสโกออน มันผิดกันได้ แต่แค่ให้เรามีสติ และให้เข้าใจกับเนื้อข่าว”

ตรงไหนที่เราจะผิดประจำ? “เหมือนบางทีหนูจะติดกับการอ่านมากเกินไป คือหนูจริงจังมากจนกลัวว่าจะเล่าผิด แต่จริงๆ พี่เขาบอกว่าเราสามารถทำความเข้าใจและเล่าให้เป็นเรา พอเทปหลังๆ ถ้าทุกคนสังเกตได้เราก็ไม่ค่อยจะสนใจสคริปต์แล้ว เราเป็นคนพูดมาก เราก็กลัวว่าถ้าไม่อ่านเลย เดี๋ยวจะเล่าเพลิน (หัวเราะ) ก็พยายามจะดูบ้าง เล่าบ้าง”

 

 

ฝากหน่อย ในฐานะผู้ประกาศคนใหม่? “ไม่ค่อยชินคำนี้เลย (หัวเราะ) ก็ขอบคุณทุกคนก่อนเลย (ยกมือไหว้) ที่ทุกวันนี้ยังมีกำลังใจจากเรื่องข่าว และจะมีเอฟซีที่พยายามทักเข้ามาว่าอ่านข่าวมั้ยวันนี้ อยากเห็นอีกแล้ว ก็ขอบคุณทุกคน และฝากรายการทุบโต๊ะข่าวด้วย เป็นการอ่านข่าวครั้งแรกของเจนนี่ จริงๆ รายการเขาดังอยู่แล้วแหละ เราก็ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนั้น สำหรับใครที่ชื่นชอบในรายการของเรา หรือมีอะไรที่อยากแนะนำก็สามารถที่จะมาบอก พูดคุยได้ค่ะ

ค่ายเพลงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? “หลังจากที่ทำเพลงออกไปตอนนี้ก็มีน้องๆ แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ ก็มาวัดกันที่ยอดวิวว่าจะสำเร็จหรือไม่ หรือจะมีใครต่อมั้ย ตอนนี้ปล่อยเพลงไปแล้วค่ะ มีการโปรโมทไปเรียบร้อย ก็สามารถชมได้ในช่องยูทูบกับเพลงดาวติ๊กต็อก ก็มานั่งคุยกันว่า 2 เดือนสุดท้ายน้องๆ ก็อยากกลับบ้านพอดี เพราะช่วงนี้ก็ติดสงกรานต์ด้วย เราก็เลยให้กลับบ้านแยกย้ายกันไป แล้วรอดูผล ส่วนที่รับไว้ก็คือกลับมาทำกันเวลาถึงคิวค่ะ”

ก็ดูแลทั้งสองหน้าที่เลยใช่ไหม? “ดูแลทั้งสองหน้าที่ค่ะ แต่ถ้าค่ายเพลงจะเน้นให้ลิลลี่ช่วย ลิลลี่ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ด้วยความที่เขาเริ่มโตและอยู่กับเราตลอด ถ้าเราดูอย่างนี้จะเหมือนเขาเป็นเด็กนะ แต่ถ้าเรื่องงานเขาจะเป็นคนบอกมาตลอดเลยว่าพี่เจนอย่าลืมอันนั้นอันนี้นะ ก็ช่วยได้เยอะค่ะ ก็ให้เรียนรู้ไป ได้ไม่ได้อนาคตก็ช่วยกันอยู่ดี”

จะให้ลิลลี่เป็นผู้บริหารค่ายเพลงเลยไหม? ก็ตั้งใจนะ ถ้าน้องทำได้หนูก็อยากให้น้องดูแลเต็มที่ เพราะเราก็เริ่มมาอินกับสิ่งที่เราทำทุกวันนี้ คอนเสิร์ตก็ยังรับนะคะ แต่เดือนนึงอาจจะ 7-10 คิว เพราะสงสารลูกเวลาเดินทาง ถ้าไปแล้วไม่มีลูกก็ทำไม่ได้จริงๆ คิดถึง เราก็จะพายูจินไปตลอด (ยิ้ม)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน