วันที่ 8 มี.ค. ที่พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดเจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร ในงานแถลงข่าวงานเดินวิ่งเพื่อการกุศล “ก้าวเพื่อธรรม” พิธีกร-นักแสดงหนุ่มเป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังจากที่ใช้เวลาบวชเพื่อศึกษาธรรมะร่วมเดือน

โดยทิดเป๊ก เผยว่า “สดชื่น (ยิ้ม) หลายคนบอกว่านิ่งขึ้น สงบขึ้น ผมว่าไม่หรอกครับ เหมือนเดิม คือคนเราเปลี่ยนยากอยู่แล้ว ถ้าออกมาแล้วที่เปลี่ยนอาจเป็นทรงผม คิ้ว ที่มันหายไป แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือภายในจิตใจมากกว่า ที่เขาบอกว่าบวชหาที่สงบหรอ หรือว่าหาทางสงบ ผมว่าเป็นอันหลังมากกว่า ที่ได้คือลมหายใจของเรา เราได้วิชา ได้อะไรต่างๆ ได้แก่นแท้ของแกนพระพุทธศาสนาที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจริงๆ พอเราออกมาแล้วเจอกับโลกที่วุ่นวายอย่างนี้ เราจะอยู่กับความวุ่นวายนี้ได้อย่างไร เราจะมีอะไรเป็นตัวช่วย แค่นั้นครับ พระพุทธเจ้าบอกว่าดำเนินชีวิตอย่าประมาท ก็คือการมีสตินั่นเอง”

เข้าใจภาษาบาลีมากขึ้นไหม
“เข้าใจมากขึ้น หลังจากที่เราได้ฟังพระที่มากพรรษาท่องปาฏิโมกข์ได้ภายใน 45 นาที โดยไม่หยุด ทำได้ยังไง คือเมื่อก่อนโนนอาจจะเข้าใจภาษาบาลี แต่ต่อมาจะเป็นท่องจำเสียมากกว่า แต่ว่าใครได้ศึกษา เข้าใจแล้วก็จะสามารถท่องได้โดยใช้เวลา 45 นาที โดยเข้าใจมัน พอเข้าใจความหมายแค่นั้นเราก็เข้าไปในจิตใจได้มากขึ้น ทำให้เข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น กับบทต่างๆ หรือพิธีกรรมต่างๆ เหมือนเราเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ที่พอเราเข้าใจความหมาย เราก็สารมารถสื่อสารได้มากขึ้น”

ความแตกต่างที่อยู่ที่วัดบวร กับไปอยู่ที่วัดป่า
“ต่างกันคืออยู่ที่วัดบวรได้ทฤษฎี แต่อยู่ที่วัดป่าได้ปฏิบัติ ที่วัดบวรบวชและเรียนด้วย พอเรียนเราก็ได้หลักธรรมต่างๆ นานา ทั้งเรื่องต่างๆ ไตรลักษณ์ ไตรสิกขา อิทธิบาท 4 อริยสัจ 4 มรรคแยกออกไปเท่าไหร่ สุดท้ายก็วนอยู่ในเรื่องนี้ ที่โยงกลับไปถึงการใช้ชีวิตปฏิบัติในชีวิตของเรา ผมก็บอกว่าจะไปคุยต่อที่วัดป่า แล้วพระอาจารย์ก็บอกว่าไม่ต้องคุยหรอกไปปฏิบัติเลย ผมก็ไม่เข้าใจว่าปฏิบัติหมายถึงอะไร สวดมนต์ นั่งสมาธิ หลายก็ทำ แต่พอไปปฏิบัติจริง ก็รู้เลย ตามที่พระอาจารย์บอกว่าที่ฉันให้ไปบอกต่อ โดยการปฏิบัติโดยเราทำเอง เรารู้ถ่องแท้มันมีน้ำหนักมากกว่า ฉะนั่นพอได้ทำจริง เรารู้แก่นของการนั่งสมาธิ รู้วิธีเดินจงกรม ทุกอย่างสนุกมาขึ้น เหมื่อนเราเข้าใจหลักพระพุทธศาสนามากขึ้น สามารถนำมาใช้ ปรับใช้ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น”

ปกติติดโซเชี่ยล แต่นี่ไม่ยุ่งเลย
“ก็ไม่ได้เล่นเลย จริงๆ ตัดได้หลายๆ อย่างเลย การบวชเป็นการปฏิเสธความสุขมากกว่า พอออกมาจะได้ปฏิเสธความทุกข์ได้ พอเราออกมาทั้งสุขทั้งทุกข์เราก็สามารถวางเฉยกับมันได้ ปรับใช้ได้หลายอย่าง มีความสุขแล้วที่ได้มาบวช ก็ถือว่ามิชชันคอมพรีต บวชเพื่อพ่อแม่ แฟน อีกอย่างก็คือการทำบุญด้วยวิธีนี้มันยาก ปกติคนทำทานด้วยเงินก็เอาเงินบริจาค แต่พอออกมาแล้วรักษาศีล 227 ข้อ แล้ว ทำแบบนั้นอยู่กับหนันหนึ่งเดือนรู้สึกยาก แต่เราๆ ได้ทำแล้ว ทั้งสวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิ ส่งผลบุญให้กับคนที่เรารัก นี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผมทำได้ ถึงแม้จะสึกออกมาเป็นทิดเป๊กแล้วก็จะพยายามรักษาศีล ภาวนาต่อไป ลาสึกออกมาเมื่อวันที่ 1 มีนา”

แคปชั่นบอกว่า วันสึกเลือกได้ ไม่ต้องดูฤกษ์สึกหรือ
“ตอนแรกก็คิดแบบนั้น เป็นคนมีความเชื่อเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่พอบวชเข้ามาเรียนรู้แล้ว โดยหลักคำสอนของพระอาจารย์ที่สอนเราที่นี่ สุดท้ายอยูที่ใจเราที่ความคิดเรา บางทีแล้วแต่ว่าเป็นความคิดดีไว้ก่อน ผมคิดแล้วว่าเป็นฤกษ์ดีของเรา เป็นวันมาฆบูชาด้วย เขาบอกว่าวันพระห้ามสึก แต่ผมออกสึกมาเพื่อช่วยพระ เพื่อช่วยวัด ผมสึกเช้า แล้วก็มาช่วยกิจกรรมดีๆ ของวัดบวรตอนเย็นนั้นเลย ผมได้ทำบุญเลย ก็ไม่เห็นว่าต้องคิดอะไรเราก็เอาความสบายใจ ผมอยู่ช่วยวัดตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนถึงเวียนเทียน ผมว่าอยู่ที่ใจทั้งหมดครับ ก็เลยคิดว่าวันสึกเลือกได้ก็แล้วแต่ความเชื่อครับ ส่วนที่ใครมีฤกษ์งามยามดีก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ ถามว่ามีคนติงเรื่องนี้ไหม ไม่มีครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน