คีพบ๊อกซ์ ฟาร์ม เมนูเมล่อนสุดฟิน

คอลัมน์ อิ่มอร่อย

คีพบ๊อกซ์ ฟาร์ม – จากที่ดิน 2 ไร่เศษ ที่เดิมตั้งใจจะปลูกสร้างเป็นคอนโดมิเนียมหรู มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท แต่ เอก–ภคิน ไทรงาม หนุ่มวิศวกรไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และ กวาง–ณันทิยา ไทรงาม ภรรยา ที่มีใจรักในอาชีพการเกษตร ได้ชักชวนกันมาทดลองปลูกเมล่อนในโรงเรือนไว้กินเองไม่กี่ต้น เมื่อปี 2559

และปลูกผักทุกอย่างที่ครอบครัวอยากจะกิน ทั้งสตรอว์เบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ ผักคะน้า ผักสลัด หญ้าหวาน ต้นเก๊กฮวย พริกสด มะเขือ แตงกวา กล้วยหอมทอง ตลอดจนไม้ดอกไม้ประดับ เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงไส้เดือน และทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เองด้วย

โดยตั้งชื่อว่า “คีพบ๊อกซ์ ฟาร์ม” ฟาร์มเกษตร 4.0 แห่งแรกในจ.ตรัง

ผ่านไป 9 เดือน ทุกอย่างก็เริ่มให้ผลผลิตที่งดงาม และเหลือกินจนสามารถเก็บไปขายได้ ทำให้เกิดการต่อยอด และศึกษาเรียนรู้วิธีการปลูกพืชผักเมืองหนาว ควบคู่กับผักทางภาคกลาง และภาคใต้ ได้อย่างลงตัว

โดยเฉพาะเมล่อน 3 สายพันธุ์ ทั้งพันธุ์ คิโมจิ เลดี้กรีน และเลดี้โกลด์ เป็นพืช ชนิดแรกๆ ที่ปลูกได้สำเร็จภายในคีพบ๊อกซ์ ฟาร์ม

พร้อมเปิดให้ลูกค้าเข้าเที่ยวชม และตัด เมล่อน หรือผลผลิตบางอย่างด้วยตัวเอง

นอกจากนั้น ยังเปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆ เพื่อให้ผู้คนที่มาเยือนได้ชิมผลผลิตทางการเกษตรแบบสดๆ โดยเฉพาะเมล่อน ที่เป็นอาหารจานหลัก เช่น สเต๊กเมล่อน ฮิตถูกปากไม่น้อย อาทิ สเต๊กไก่ หรือสเต๊กหมู โดยนำไก่หรือหมูมาหมักแล้วย่างให้เหลืองสุก จัดวางใส่จานพร้อมเครื่องสลัดครบครัน และที่ขาดไม่ได้คือเมล่อนสดๆ หั่นวางไว้ข้างจาน อร่อยสุดฟิน

ส่วนเมนูอื่นๆ เน้นเป็นเมนูของหวานหรือเมนูกินเล่นที่ล้วนมีเมล่อนและผัก ผลไม้ ที่ส่วนใหญ่ปลูกในฟาร์มแห่งนี้ มาเป็นวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเมล่อนชิ้น หรือเมนูสลัดเมล่อน สลัดโรล ตำเมล่อน บิงซูเมล่อน ไอศกรีมเมล่อน นำเมล่อนสดๆ หั่นวางไว้ข้างจาน อร่อยสุดฟิน

จุดเด่นคือ เน้นความสดของเมล่อนที่เก็บมาจากฟาร์ม แล้วปรุงแต่งเป็นเมนูชนิดต่างๆ แบบสั่งปุ๊บไปตัดมาทำปั๊บ

ฟาร์มแห่งนี้ยังมีที่พักน่ารักๆ เป็นแบบสไตล์ โมเดิร์น เป็นตู้คอนเทนเนอร์ จะมีชื่อของพันธุ์เมล่อนติดอยู่ เรียกว่านอนในฟาร์มเมล่อนกันเลยทีเดียว ตื่นเช้ามามีอาหารเช้าอร่อยๆ แถมเมล่อนหวานๆ ให้กินด้วย

“คีพบ๊อกซ์ ฟาร์ม” ตั้งอยู่ในซอยคอกม้า ถนนมหาราช เขตเทศบาลนครตรัง ขับรถผ่านเจ้าแม่กวนอิม ตรงไป 400 เมตร ฟาร์มอยู่ซ้ายมือ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. แต่จะให้สิทธิ์เข้าชมฟรีถึงในโซนโรงเรือน เฉพาะลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรม เพื่อเป็นการควบคุมโรค นอกจากเป็นการรวมกลุ่มของเกษตรกรและทำหนังสือแจ้งมาล่วงหน้า

สำหรับโซนด้านหน้าสามารถมานั่งเล่น ถ่ายภาพ เลือกซื้อสินค้าการเกษตร หรือสั่งอาหาร สั่งน้ำ มาทานได้ตามสะดวก โทร.0-93653-6633