คิมูระด้ง
คอลัมน์ สวรรค์ในครัว
คิมูระด้ง – ฝีมือและความเป็นตัวเอง ทำให้เราโดดเด่น
แต่การกล้าฉีกกฎเกณฑ์ ทำให้เราเป็นหนึ่ง…
แอบเกริ่นนำเรื่องด้วยข้อคิดคำคม เพราะมันเข้ากับเรื่องวันนี้มากๆ
ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ว่า วันก่อนได้รับเชิญจาก คุณแวว – ธีรวัลคุ์ เตชะอุบล บอสสาวโรงแรมในเครือเครป &แคนทารี โฮเทลส์ บอกว่าเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นแถวสยามพารากอน เป็นร้านดงบูริ ชื่อ “คิมูระด้ง” โดยจับมือกับเชฟระดับ มิชลินสตาร์
บอกตรงๆตอนแรกที่ตอบรับคำเชิญ เพราะเห็นแก่ผู้บริหารสาวคนเก่งอัธยาศัยดี แค่นั้นจริงๆ
แต่พอไปถึงที่ร้าน มันไม่ใช่แค่นั้นแล้ว?!
เพราะสิ่งที่เจอคือ โอ้โห..ลูกค้าเพียบ ส่วนใหญ่เป็นเชฟญี่ปุ่นร้านดังๆ แพงๆ ในไทย ทั้งนั้น
ทำไมล่ะ? คำตอบคือ มาเจอมาชิมฝีมือเชฟใหญ่คนนี้ ที่บินตรงจากญี่ปุ่น
โคจิ คิมูระ วัย 48 ปี ผู้ได้ชื่อสุดยอดเชฟด้านซูชิจากกรุงโตเกียว
อีกทั้งร้านของเขา ‘ซูชิ คิมูระ’ ซึ่งเป็นร้านโอมากาเสะ ยังคว้า มิชลินสตาร์สองดาว 5 ปีซ้อน
ลูกค้าเพียบ คิวจองแน่นเป็นเดือนๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า ซูชิของเชฟไม่เหมือนใคร ไม่ใช่ซูชิที่เนื้อปลาต้องสดใหม่ แต่เป็นซูชิที่นำเนื้อปลามาหมัก วิธีนี้จะดึงรสชาติความอร่อยที่สุดของเนื้อปลาได้อย่างดี
ซึ่งการปฏิวัติวงการอาหารครั้งนี้ ทำให้เชฟคิมูระได้รับสมญานามว่า Father of Aged Sushi
หรือเจ้าพ่อวงการซูชิด้วยการบ่มหมัก
ขณะที่การหุงข้าวก็สร้างชื่อให้กับเชฟเช่นกัน เป็นการหุงแบบโบราณสมัยเอโดะ
ข้าวเป็นเม็ดสวย นุ่มหนึบ ไม่เละนิ่ม
แต่แล้ววันนี้ ธุรกิจใหม่ที่ทำร่วมกับคุณแวว ถือเป็นการแหกกฎของเชฟอีกครั้ง!
เพราะในวงการอาหารญี่ปุ่น เชฟใหญ่ที่ขายโอมากาเสะ คอร์สละ 3-4 หมื่นกว่าเยน แล้วจู่ๆ มาทำร้านดงบูริ เขาว่าเป็นการลดชั้นอย่างแรง
แต่สุดยอดเชฟคนนี้กลับบอกว่า การเห็นรอยยิ้มของคนกินที่เพิ่มขึ้น มันคือความสุข
ร้านอยู่บนชั้น 4 สยามพารากอน เปิดปิดตามเวลาห้าง ราคา 285 – 2,000 บาท
อร่อยตื่นตาทุกเมนู