ซีรีส์ Yakuza หรือชื่อดั้งเดิมในภาษาญี่ปุ่นคือ Ryu Ga Gotoku นั้นเรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์ที่ดังและมีแฟนๆเฝ้าติดตามอยู่เป็นจำนวนที่มากพอตัวในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความที่เนื้อหาและโทนของเกมนั้นเป็นสิ่งที่นำเอาสิ่งที่ประสบพบเจอได้ในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่นมานำเสนอผ่านเรื่องราวที่เข้มข้นดุเดือดและในบางครั้งก็ดราม่ากินใจ จึงเรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ซีรี่ส์นี้ยังคงยืนหยัดมาอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน แต่แค่ลำพังเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเพียงอย่างเดียวย่อมไม่สามารถนำพาซีรี่ส์มาได้นานขนาดนี้แน่ เพราะมีองค์ประกอบอีกหลายประการที่ทำให้ซีรี่ส์นี้โดดเด่นขึ้นมาได้ในตัวเอง

เนื้อหา

สำหรับเรื่องราวของภาคซีโร่นี้ จับเอาสภาพสังคมญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1988 มานำเสนอ ซึ่งเป็นยุคที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะฟองสบู่ (กล่าวคือราคาอสังหาริมทรัพย์รวมถึงหุ้นต่างๆดีดตัวขึ้นไปสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็นในความเป็นจริง พูดอีกอย่างคือเงินเฟ้อเต็มที่) ดังนั้นสภาพแวดล้อมของเกมจึงเปี่ยมไปด้วยสีสันเช่นประเทศญี่ปุ่นในยุคนั้น ผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันอย่างฟุ้งเฟ้อ เงินสะพัดกันไปอย่างถ้วนทั่ว จึงทำให้โลกของเกมในภาคนี้แปลกตาและสดใหม่กว่าภาคก่อนๆไปมากพอดูแม้ว่าจะเป็นเมืองคามูโร่โจ (ที่อ้างอิงต้นแบบมาจากคาบูกิโจ) ในโตเกียวหรือโซเท็นโบริ (ที่อ้างอิงต้นแบบมาจากโดทงโบริ) ในโอซาก้าที่เคยปรากฏในภาคก่อนๆมาแล้วก็ตาม

ทางด้านของตัวละครที่มีให้เล่นกันในภาคนี้จะมีด้วยกัน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคิริว คาซึมะพระเอกตลอดกาลของซีรี่ส์นี้ แต่ในคราวนี้คิริวมีวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเพิ่งเข้าสู่วัยหนุ่มมาหมาดๆ ดังนั้นในภาคนี้คุณจะได้เห็นบุคลิกลักษณะของคิริวที่ต่างออกไปจากที่คุณเคยเห็นและเคยได้รับรู้ อย่าหวังว่าคุณจะได้เห็นคิริวที่สงบนิ่ง สุขุม พูดน้อยต่อยหนัก ในทางกลับกันคุณจะได้พบกับคิริวที่เลือดร้อน มุทะลุดุดัน และบ้าบิ่นอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังแทน ส่วนอีกรายที่มีให้เล่นก็คือตัวละครสุดเพี้ยนและเปี่ยมความบ้าในตัวประจำซีรีส์อย่างมาจิมะ โกโร่ (ซึ่งภาคนี้ถือเป็นภาคแรกที่คุณจะได้เล่นเป็นมาจิมะในภาคหลักจริงๆซะที หลังจากไปควงปืนถล่มซอมบี้ในภาคพิเศษอย่าง Dead Souls มาก่อนหน้านี้) ซึ่งมาจิมะในภาคนี้มีอายุ 24 ปี และก็เช่นกันที่คุณจะไม่ได้เห็นมาจิมะในแบบเดิมๆ อย่าคิดจะได้เห็นมาจิมะที่ทำอะไรเพี้ยนสุดกู่ คาดเดาไม่ได้ ในทางกลับกันคุณจะได้พบกับมาจิมะที่สุขุมนุ่มลึก ใจเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามวู่วาม และยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่คิดไม่ถึงแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุการณ์ในภาคย้อนอดีตนี่เองที่จะบอกให้เรารู้ว่าเพราะเหตุใดทั้งสองจึงได้กลายมาเป็นคนแบบที่เราเห็นกันในภาคก่อนๆ

กราฟิก

หากจะว่ากันด้วยในส่วนของกราฟิกเมื่อเทียบกับภาคก่อนหน้านี้อย่างอิชินแล้วคงต้องถือว่าไม่ได้หนีกันมากนัก และด้วยความที่ภาคนี้ในคราวที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นนั้นเป็นเกมซึ่งลงทั้ง PS3 และ PS4 ทำให้เกมในเวอร์ชัน PS4 มีความคมชัดและความละเอียดมากกว่าในระดับ 1080P และสามารถแสดงผลได้ที่ 60FPS แต่กระนั้นก็ยังไม่เทียบเท่ากับเกมที่พัฒนาเพื่อลง PS4 โดยตรงอยู่ดี เพราะคุณภาพของกราฟิกจะยังคงดูเป็นเกม PS3 ที่มีการปรับความละเอียดให้สูงขึ้นและคมชัดขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้นแล้วบรรยากาศของตัวเมืองในยามค่ำคืน ก็นำเสนอแสงสี ความมีชีวิตชีวาและภาพรวมของผู้คนในยุคปี 80s ออกมาได้อย่างเพลินตาและเพลินใจ เสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครต่างขับความเป็น 80s ออกมากันอย่างไม่มีเม้มไม่มีกั๊ก เรียกได้ว่าหากคุณต้องการเห็นสภาพสังคมและความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นล่ะก็ เกมนี้จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

เกมเพลย์

ระบบการเล่นนั้นแม้จะดูเข้าใจง่ายแต่แท้จริงแล้วมีความหลากหลายและลึกซึ้งในตัวพอดู ทั้งสองตัวละครจะมีสไตล์การต่อสู้ให้เลือกใช้กันคนละ 3 สไตล์ โดยจำแนกได้เป็น สไตล์มาตรฐานที่เน้นสมดุล (Brawler Style สำหรับคิริว และ Thug Style สำหรับมาจิมะ) สไตล์ที่เน้นความเร็ว (Rush Style สำหรับคิริว และ Breaker Style สำหรับมาจิมะ) และสไตล์ที่เน้นพละกำลัง (Beast Style สำหรับคิริว และ Slugger Style สำหรับมาจิมะ) ซึ่งแต่ละสไตล์ก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยรวมถึงสกิลที่สามารถใช้ได้ต่างกันออกไป ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้และสลับสับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามแต่สถานการณ์ การเปลี่ยนสไตล์ก็ทำได้ง่ายดายเพียงแค่การกด D-pad ซ้าย บน หรือขวา เท่านั้น และสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นมีบุคลิกลักษณะที่ต่างจากในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิงก็แสดงออกผ่านทางท่าทางโจมตีเช่นกัน แม้จะเป็นสไตล์ปกติของคิริวแต่การเคลื่อนไหวของคิริวจะแสดงให้เห็นถึงความมุทะลุ ไม่ว่าจะเป็นการเหวี่ยงหมัดอย่างไร้รูปแบบ ท่าโจมตีที่ทุ่มทั้งตัวโดยไม่คิดป้องกันตัวเอง ในขณะที่มาจิมะนั้นจะเคลื่อนไหวอย่างมีแบบแผนประหนึ่งผู้ช่ำชองและคร่ำหวอดในการแลกหมัดกับผู้อื่นมาโชกโชนกว่ามาก

โดยที่การอัพเกรดสกิลต่างๆในภาคนี้ จะไม่ใช้ค่าประสบการณ์เหมือนเช่นภาคก่อนๆอีกแล้ว แต่มีการปรับให้เหมาะกับยุคสมัยของเศรษฐกิจฟองสบู่มากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร ซื้อของกิน ซื้อไอเท็ม อัพเกรดตัวละคร ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น ยิ่งคุณมีเงินมากทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายดาย (การอัพเกรดสกิลขั้นสูงในภายหลังจำเป็นต้องใช้เงินถึง 1,000 ล้านเยนต่อสกิล แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะจำนวนเงินสูงสุดในเกมที่คุณจะเก็บได้คือ 9 ล้านล้านเยน) และนอกเหนือจาก 3 สไตล์ข้างต้นแล้ว คุณยังสามารถเล่นเนื้อเรื่องพิเศษนั่นคือ Money Island ของคิริวที่ต้องฝ่าฟันกับบรรดา 5 อภิมหาเศรษฐีแห่งคามูโร่โจเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้กุมเศรษฐกิจทั้งหมดแห่งคามูโร่โจ หรือ Nightlife Island ของมาจิมะที่ต้องฝ่าฟันการแข่งขันอันเข้มข้นในวงการสถานบันเทิงเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งให้ได้ และเมื่อคุณบรรลุวัตถุประสงค์ก็จะได้รางวัลเป็นการปลดล็อคสไตล์ที่ 4 มาใช้งาน ซึ่งคิริวจะได้สไตล์ “มังกรแห่งโดจิมะ” มาใช้ซึ่งมีท่าโจมตีที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีจากภาคก่อนๆ ที่มีคุณสมบัติเสมือนเป็นการรวมส่วนดีของทั้ง 3 สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน ส่วนมาจิมะจะได้สไตล์ “หมาบ้าแห่งชิมาโนะ” มาใช้ซึ่งมีท่าโจมตีในรูปแบบเดียวกันกับที่ทุกคนเคยเผชิญกับมาจิมะในฐานะบอสของภาคก่อนๆนั่นเอง แต่ความยอดเยี่ยมที่แท้จริงของสไตล์ที่ 4 นั้นไม่ใช่แค่ท่วงท่าการต่อสู้เท่านั้น หากแต่เป็นการอัพสกิลที่ช่วยเพิ่มค่าพลังต่างๆ ของตัวละครอย่างถาวรต่างหาก และยิ่งถ้าเราปลดล็อคขีดจำกัดในการอัพสกิลตัวละครไปแล้วเราจะสามารถเพิ่มค่าพลังตัวละครให้สูงขึ้นไปได้ถึงเลเวล 999 เลยทีเดียว (เราเคยทดสอบโดยการอัพไปจนถึงเลเวล 70 และก็พบว่าบรรดาคู่ต่อสู้ทั่วไปตามฉากแทบจะร่วงในหมัดเดียว)

เอกลักษณ์ของซีรีส์เช่นความรุนแรงของท่าฮีทแอ็คชั่นนั้นยังคงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ทุกหมัดและทุกฝ่าเท้าที่นาบลงไปบนใบหน้าของคู่ต่อสู้นั้นรวดเร็ว รุนแรงและหนักหน่วงจนเห็นแล้วต้องรู้สึกเจ็บตามในบางครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนท่าฮีทแอ็คชั่นที่เปรียบเสมือนท่าไม้ตายประจำซีรีส์ ในภาคนี้ก็มีจำนวนท่าฮีทแอ็คชั่นมากมายมหาศาลกว่าร้อยท่า การค้นหาว่าท่าไหนเป็นอย่างไรหรือเมื่อเราหยิบของธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวันมาใช้กับคู่ต่อสู้แล้วจะออกมาเป็นท่าแบบไหนก็ถือเป็นความเพลิดเพลินประการหนึ่งที่เกมนี้มอบให้เราได้ เพราะผมเชื่อว่าถ้าคุณหยิบ “กล่องใส่ประทัด” ขึ้นมาได้ในฉากสู้…คุณคงอยากรู้แน่นอนว่าคิริวและมาจิมะจะเอาประทัดพวกนี้มาใช้งานอีท่าไหน

นอกจากเนื้อหาหลักของเกมแล้ว เกมนี้ก็ยังอุดมไปด้วยซับสตอรี่ปริมาณมหาศาลเช่นเคย และการเคลียร์ซับสตอรี่เหล่านี้ไม่ได้มีคุณค่าแค่เงินที่ได้รับหลังจบเหตุการณ์เท่านั้น แต่เนื้อหาของแต่ละซับสตอรี่ยังสนุกสนานและออกแนวตลกโปกฮาตามสไตล์ละครตลกญี่ปุ่นมากมาย หลายเรื่องจะทำให้ผู้เล่นต้องนั่งขำหน้าจอกับความติงต๊องของเนื้อหาที่นำเสนออันแสนจะสวนทางกับความเครียดขึงจริงจังของเนื้อหาหลักอย่างไม่ต้องสงสัย และด้วยความที่ภาคนี้คือภาคเริ่มต้นนี่เอง เหล่าตัวละครที่เคยปรากฏในเรื่องราวหลังจากนี้จึงมาปรากฏตัวในรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป หากผู้เล่นอยากรู้ว่าในปี ค.ศ.1988 ตัวละครอย่าง โดจิมะ ไดโกะ เอย โกดะ ริวจิ เอย หรือแม้แต่ทานากะ ชินจิ ในวัยเด็กเป็นอย่างไร ภาคนี้จะทำให้คุณหายสงสัยและจะต้องคิดไม่ถึงเป็นแน่

ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ก็คือบรรดามินิเกมที่ขนกันมาให้เล่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพนันอย่างโป๊กเกอร์, แบล็คแจ็ค หรือแม้กระทั่งไพ่นกกระจอก เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีเกมอาร์เขดสุดคลาสสิคจากเซก้าให้ได้เล่นกันในเกมอีก เช่น Space Harrier เอย Outrun เอย Super Hang-on หรือ Fantasy Zone ซึ่งเป็นเกมที่ให้บริการอยู่จริงในยุคนั้นทั้งสิ้น รวมถึงมินิเกมใหม่ๆที่สื่อถึงยุคสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งรถจิ๋ว Pocket Circuit (ก็รถทามิย่านั่นแหละ) หรือการวางเดิมพันในทัวร์นาเมนต์ที่มีสาวๆนุ่งน้อยห่มน้อยมาสู้กันให้คุณได้ลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะ (และคอยวิตกว่าจะมีใครมาเห็นเข้าในระหว่างเล่นหรือไม่…) ผมกล้ายืนยันเลยว่าต้องมีหลายคนที่เนื้อเรื่องไม่เดินไปไหนเพราะมัวแต่ใช้เวลาจมไปกับมินิเกมเหล่านี้ และขอเตือนเอาไว้ว่าหากคุณได้ลองมินิเกมดิสโก้แล้วอาจจะเห็นลีลาระเบิดฟลอร์ของตัวละครเอกทั้งสองจนไม่อยากไปทำอย่างอื่นเลยก็เป็นได้

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ตัวเกมมี check list ให้เราว่าเราทำเงื่อนไขใดในเกมสำเร็จไปแล้วบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะคู่ต่อสู้ตามจำนวนที่กำหนด การเล่นมินิเกมให้ได้คะแนนทำลายสถิติ การเล่นพนันให้ชนะได้เงินตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ ฯลฯ และการทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ได้เราก็จะได้พอยต์มาเพื่อนำไปปลดล็อคไอเท็มพิเศษที่หาซื้อไม่ได้ในเกม หรือแม้แต่การปลดระบบเกมที่ช่วยสนับสนุนเราในการเล่นบางอย่าง เช่น การทำให้ตัวละครของเราวิ่งได้นานขึ้น หรือแม้แต่ทำให้เราได้เงินจากการต่อสู้มากขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น เรียกได้ว่าทุกอย่างที่เราเล่นและทำสำเร็จไปในเกมจะได้รางวัลตอบแทนกลับมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะไม่มีอะไรที่เราเล่นไปแล้วรู้สึกว่าเสียเปล่าและไม่ได้อะไรกลับมาแน่นอน

ปัจจัยแบบเกม RPG อีกอย่างหนึ่งก็คือตัวเกมจะมีระบบในการส่งคนไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อหาวัตถุดิบหรือหาแบบแปลนในการพัฒนาอาวุธหรือเครื่องป้องกันกลับมา และก็คงไม่ต้องแปลกใจว่าอาวุธหรือเครื่องป้องกันที่หามาได้ย่อมเป็นของดีกว่าที่มีขายตามร้านค้าทั่วไปในเกม พูดได้ว่าหากคุณต้องการได้ไอเท็มขั้นเทพมาใช้งานแล้วล่ะก็คุณจะสามารถใช้เวลาจมไปกับระบบนี้ได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียวเช่นกัน

เพลงประกอบ

สิ่งที่เยี่ยมยอดและต้องชมอีกอย่างหนึ่งของภาคนี้ก็คือเพลงประกอบครับ ภาคนี้เพลงประกอบติดหูมาก แถมยังมีการเลือกใช้เพลงประกอบได้อย่างชาญฉลาดแม้กระทั่งในฉากสู้ตามปกติ เมื่อเราเลือกสไตล์การต่อสู้มาตรฐานเพลงประกอบก็จะมีจังหวะจะโคนปานกลางไม่เร็วไม่ช้าไป แต่ทันทีที่เราเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ไปเป็นสไตล์รวดเร็วแล้วเสียงเพลงประกอบจะเปลี่ยนไปเป็นจังหวะที่รวดเร็วและแหลมเล็กกว่าเดิมให้สมกับสไตล์ และเมื่อเราเปลี่ยนไปเป็นสไตล์ที่เน้นพละกำลังจังหวะเพลงก็จะเชื่องช้าพลางเน้นเสียงเบสที่ทุ้มและหนักแน่นแทน ส่วนสไตล์ลับนั้นก็เป็นเพลงประจำตัวจากภาคก่อนๆ ของทั้งคู่ ที่แฟนประจำซีรีส์เมื่อได้ยินแล้วจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากเพลงประกอบในแต่ละฉากแล้ว บรรดาเพลงที่อยู่ในมินิเกมอย่างเช่นคาราโอเกะหรือดิสโก้ก็มีความไพเราะไม่แพ้กัน หลายเพลงจะทำให้ผู้เล่นต้องอยากกลับมาเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีกเพียงเพราะอยากจะฟังเพลงดังกล่าวแน่นอน

ข้อดี

– ระบบการเล่นที่สนุกและลึกซึ้งมากกว่าเป็นการรัวปุ่มโจมตีให้ผ่านๆไป

– มินิเกมที่หลากหลายรูปแบบราวกับกลัวผู้เล่นจะไม่คุ้มค่าเงิน

– ท่าฮีทแอ็คชั่นที่ตอบสนองความดิบของผู้เล่นได้อย่างถึงใจ

– เนื้อหาหลักที่เข้มข้นแต่ซับสตอรี่ตลกขบขันประหนึ่งเป็นคุโรมาตี้

– เพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉากสู้ ฉากเนื้อเรื่อง หรือแม้แต่ในมินิเกม

– มีของรางวัลจากการเล่นให้ปลดล็อคมากมายมหาศาล เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นให้ครบทุกซอกมุม

ข้อเสีย

– การทำอะไรสักอย่างจะค่อนข้างติดภาพลักษณ์เกมญี่ปุ่นยุคเก่าไปสักหน่อย เช่น การกดเล่นมินิเกมแต่จะต้องกดตอบตกลงซ้ำเพื่อยืนยัน เป็นต้น
– กราฟิกที่อยู่ในระดับธรรมดา และในระหว่างเล่นจะมีการ screen tearing เกิดขึ้นบ้าง

สรุป

ภาคนี้ยังคงมาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับแฟนๆที่ติดตามซีรี่ส์นี้มาโดยตลอดจะไม่ผิดหวังกับคุณภาพของเกมในภาคนี้แน่นอน แม้ว่าตัวเกมจะมีข้อควรปรับปรุงอยู่บ้างในบางจุด แต่เมื่อดูภาพรวมแล้วผมก็ขอให้คะแนนเท่านี้ครับ

คะแนน 4.5 ⁄ 5

โดย G-jang เว็บไซต์ Thaigamewiki

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน