ทำเกินกว่าเหตุ – จากกรณีนายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ชาวบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม คลุ้มคลั่งอาละวาด หลังพี่สาวไม่ให้เงินซื้อยาบ้า จากนั้นใช้อาวุธมีดปลายแหลมฟันศีรษะและต้นแขน ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ ซึ่งเดินทางมาระงับเหตุจนบาดเจ็บสาหัส ก่อน ร.ต.ท.วิจิตร ใช้อาวุธปืนยิงที่ขานายลำเพย 2 ข้าง ทั้งอ้างว่านายลำเพย พยายามแย่งปืนก่อนลั่นใส่หน้าอกจนเสียชีวิต เหตุเกิดวันที่ 25 ก.ค. นั้น

ล่าสุด วันที่ 26 ก.ย. นางทองคำ วัย 56 ปี พี่สาวนายลำเพย ผู้ตาย พร้อม น.ส.โยธกา จันทองหลาง อายุ 30 ปี หลานสาว และ น.ส.ชไมพร จำปา วัย 17 ปี คนที่บันทึกคลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้ขณะเกิดเหตุ ได้นำคลิปหลักฐานมาโพสต์ในโลกออนไลน์ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย เนื่องจากติดใจการทำงานของตำรวจ โดยระบุว่ากระทำเกินกว่าเหตุ เพราะผู้ตายหมดทางสู้ แต่ถูกตำรวจจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เพื่อให้ตำรวจที่ก่อเหตุแสดงความรับผิดชอบ

นางทองคำ กล่าวว่า รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่านายลำเพย น้องชายชอบดื่มสุรา เคยมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ถูกจับคดีเสพเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ระยะหลังนายลำเพยจะดื่มแค่เหล้า มีอาการคลุ้มคลั่งบ้างหากขอเงินไม่ได้ ส่วนภรรยาแยกทางกัน มีแค่ลูกชายวัย 15 ปีผู้ตายจะไม่เคยทำร้ายใคร แต่โวยวายได้เงินแล้วหนี

พี่สาวผู้ตาย กล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุตนเป็นคนโทร.บอกตำรวจคนเดิมให้มาระงับเหตุ เพราะเคยมาก่อนแล้วเมื่อหลายเดือน ครั้งล่าสุดตนจึงโทรไปแจ้งระงับเหตุ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย จนน้องชายมาจบเสียชีวิตเพราะถูกตำรวจยิงตาย ตนและญาติติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังพบว่าผู้เป็นหลานสาวได้บันทึกคลิปเหตุการณ์ไว้ขณะเกิดเหตุ

“ในคลิปพบว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ถึงแม้นายลำเพย น้องชายจะใช้อาวุธมีดฟันตำรวจก่อน เพราะมีการทำร้ายร่างกายกันก่อน จากนั้นตำรวจที่มาระงับเหตุคนนี้ ยิงเข้าที่ขาสองข้างนายลำเพยจนหมดแรงทรุดลง แต่ตำรวจยังยิงซ้ำอีก ถือว่ารุนแรงเกินไป อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับน้องชายตนด้วย”

หากไม่ยิงซ้ำคงไม่ตาย

ขณะที่นายพฤษภา จันทองหลาง อายุ 27 ปี หลานชายที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ นายลำเพยเข้ามาโวยวายในบ้าน เพราะขอเงินจากแม่ของตนไม่ได้ ก่อนคว้าอาวุธมีดเดินวนไปมาตามบ้าน ทางนางทองคำ แม่ของตนจึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ พอตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ นายลำเพยกำลังจะขับรถ จยย.หนีออกไป ตำรวจคนที่ยิงมาคนเดียว กระโดดถีบรถ จยย. นายลำเพยเสียหลักล้มลง ทำให้นายลำเพยไม่พอ จนมีการทำร้ายร่างกายชกต่อยกันถนนหน้าบ้าน

นายพฤษภา เล่าวต่อว่า จากนั้นนายลำเพย ผู้ตาย ได้ใช้อาวุธมีดฟันตำรวจ เสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บ พอตำรวจคนนี้ตั้งตัวได้ จึงยิงไปที่ขาใกล้ขาสองข้าง จนนายลำเพยทรุดลงกับพื้น ตนได้พยายามเข้าไปห้ามตำรวจคนนี้ และขอร้องให้หยุดยิง เพราะนายลำเพยหมดแรง ตนจึงเข้าไปชิงมีดโยนทิ้ง แต่ไม่คิดว่าตำรวจจะมาจับมีดเดินเข้าไป และเตะไปที่ใบหน้านายลำเพย 1 ครั้ง

“ทำให้นายลำเพยพยายามโผเข้ากอดตำรวจ ตนพยายามห้ามร้องขอชีวิตจากตำรวจว่าหยุดยิง แต่สุดท้ายไม่เป็นผล ขณะที่ตำรวจคนนี้ชักปืนจ่อยิงนายลำเพย เข้าลำตัวอีก 2 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลานสาวตนได้บันทึกคลิปวีดีโอไว้ได้ จึงอยากให้ตำรวจที่กระทำเกินกว่าเหตุรับผิดชอบ หากไม่ยิงซ้ำคงไม่ตาย ส่วนที่ผิดก็ให้ดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริง อยากเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายด้วย เพราะคลิปมันฟ้อง” นายพฤษภา กล่าว

ให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย

ด้าน พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า หลังได้รับรายพล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว. ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และไปให้กำลังใจ ร.ต.ท.วิจิตร ตำรวจที่บาดเจ็บที่ รพ.นครพนม เบื้องต้นคดีนี้จะต้องรอการสอบสวนตามขั้นและรอผลการชันสูตร ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.พลาเดช กล่าวต่อว่า ส่วนญาติติดใจสาเหตุการตายจะต้องรอขั้นตอนของตำรวจและรอทางญาติมาแจ้งความ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พฐ. อัยการจังหวัด แพทย์เวรชันสูตร รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุในรูปแบบคดีวิสามัญ ส่วนขั้นตอนจะต้องรอการสอบสวน และการแจ้งความเอาผิดทั้งผู้ตาย รวมถึงผู้ก่อเหตุ ไปจนถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายกิตติศักดิ์ จำปา กำนัน ต.บ้านค้อ ได้พานางทองคำ พี่สาวผู้ตาย ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ในข้อหาตำรวจละเว้นการดำเนินคดีมาตรา 157 ส่วนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะแจ้งข้อหาตำรวจคู่กรณีที่ใช้อาวุธปืนยิงนายลำเพย เสียชีวิตนั้น ก็แล้วแต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน