เคลื่อนไหวแล้ว! เนเงิน เปิดแชทคุยกันครั้งสุดท้าย ก่อน เจนนี่ ตัดสินใจโพสต์ประกาศเลิกฟ้าผ่าสะเทือนวงการ จบกันด้วยดี-เหลือเพียงแค่ “เพื่อน”
ทำเอาแฟนๆต่างช็อกไปตามๆกัน เมื่อนักร้องรุ่นใหม่แดนใต้ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ” ประกาศเลิกรากับ แฟนหนุ่มอดีตนักมวย เนเงิน หรือ เจตริน ศรีสังข์ หลังจากเพิ่งถูกขอแต่งงานไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 เหลือเพียงแค่เพื่อน เนื่องจาก เหตุผลการใช้ชีวิตของเราสองคน จึงทำให้พักหลังไม่ค่อยเห็นอดีตแฟนหนุ่มออกงานคอนเสิร์ตด้วยกัน
จากนั้น เจนนี่ ยังชี้แจงอีกว่า “สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าทำไม เฟซ เจตริน ศรีสังข์ ของพี่เนไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะว่า ตอนนี้เฟซบุ๊กพี่เนโดนบล๊อก 30 วันนะคะ โพสต์ได้แค่สตอรี่ค่ะ”
- อ่าน ย้อนเส้นทางรัก! “เจนนี่-เนเงิน” จากวันที่ปิ๊ง-ผ่านดราม่า ก่อนวิวาห์ล่มเป็นแค่ “เพื่อน”
- อ่าน แต่งหมดถ้าสดชื่น! เนเงิน คุกเข่า ขอ เจนนี่ แต่งงาน กลางไลฟ์คอนเสิร์ต
- อ่าน ช็อก! ‘เจนนี่’ เลิกฟ้าผ่า ‘เนเงิน’ หลังเพิ่งคุกเข่าขอแต่งงาน ขอโทษที่เพิ่งแจ้งข่าว
ล่าสุดอดีตแฟนหนุ่ม เนเงิน เจตริน ออกมาเคลื่อนไหวในไอจีสตอรี่ เป็นภาพแชทสุดท้ายที่คุยกับเจนนี่ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะโพสต์ประกาศเลิ กโดยเนื้อหาของแชทดังกล่าว เป็นในเชิงให้กำลังใจและยังมีความรู้สึกดีๆให้กันสถานะเพื่อน
ซึ่ง เจนนี่ ตอบแชทอดีตแฟนหนุ่มว่า “ปรึกษากันได้ตลอด” จน เนเงิน ตอบกลับว่า “โพสต์ไรคิดดีๆอย่าให้คนด่าเจนแรง”
จากนั้น เจนนี่ ตอบกลับอีกว่า “ต่อไปนี้ขอให้ เนเงิน ดูแลตัวเอง เราและทุกคนที่บ้านจะเป็นห่วง เนเงิน เสมอ ขอบคุณที่เราจบกันด้วยความเข้าใจ และจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะ ขอให้โชคดีและขอให้ชีวิตเนเงินมีความสุขในทุกๆเรื่อง” ก่อนที่ เจนนี่ โพสต์เฟซบุ๊กประกาศเลิก
และ เนเงิน ตอบกลับปิดท้ายว่า “ฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ เพราะตอนนี้ เฟซผมทั้งใหม่และเก่าโพสต์เมนต์ไม่ได้ทั้ง 2 เฟซเลย ยังไงผมกับเจนก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ”
หากย้อนดูอินสตาแกรมของ เนเงิน จะพบว่า เมื่อวัน3ที่แล้ว เจ้าตัว โพสต์ภาพตนเอง พร้อมข้อความว่า “ไม่ว่าตอนนี้จะเจออะไรอยู่ อดทนหน่อยนะ มันผ่านเข้ามาได้ มันก็ต้องออกไปได้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ในขณะที่ เฟซบุ๊ก โพสต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนถูกบล็อก พร้อมข้อความด้วยว่า “หลายคนชอบถามว่าทำไมเราเปลี่ยนไป แต่ไม่มีใครถามว่าที่ผ่านมาเราเจออะไร ถึงได้เป็นแบบนี้”
ขอบคุณอินสตาแกรม chettarin_srisang และเฟซบุ๊ก เจตริน ศรีสังข์
