‘โรม’ จี้ยกเลิก ม.272 ตัดอำนาจส.ว. เป็นกุญแจดอกสำคัญช่วยหยุดการสืบทอดอำนาจระบอบประยุทธ์ วอนส.ส.หยุดเป็นหางเครื่องค่าตัวหลักแสนเล่นปาหี่แก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 23 มิ.ย. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ เหมือนเป็นบทใหม่ของแผนกินรวบประเทศสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ผ่านมาเราพยายามหยุดยั้งกระบวนการเหล่านั้น ด้วยการเสนอแก้ไขมาตรา 256 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ถูกหยุดยั้งด้วยส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

“วันนี้ที่เขาเสนอแก้ไข เพราะต้องการแก้แค่บางมาตราที่หมดประโยชน์ แต่มาตราไหนดีเป็นประโยชน์เขาก็กอดเอาไว้ พรรคพลังประชารัฐเดินหน้าแผนกินรวบต่อทันที โดยเสนอแก้รายมาตราแล้วบอกว่าเป็นการแก้วิกฤตให้ทุกอย่างดูดีไปหมด

พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่แค่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่ยังเป็นแม่น้ำสายหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อขยับเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แม่น้ำสายอื่นๆ ก็เตรียมขยับเพื่อเข้าสู่บทใหม่ในการสืบทอดอำนาจด้วย”

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เวลานี้พรรคก้าวไกลเห็นว่าประเด็นที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุด คือการยกเลิกอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 เราต้องยอมรับความจริงว่าส.ว. คือกลไกสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์ การที่ผู้ใดมีความชอบธรรมในการเลือกนายกฯ ผู้นั้นจะต้องได้รับมอบอำนาจจากประชาชน ซึ่งส.ว.ไม่ได้มีความชอบธรรมนั้นเลย ถือเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ประชาชนปรารถนา

“มาตรา 272 เป็นการแช่แข็งประเทศไม่ให้เดินไปข้างหน้า ทำลายความหวังของประชาชน และคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง จนประชาชนนึกไม่ออกว่าแบบนี้จะมีส.ว.ไว้ทำไม จึงต้องยอมรับต่อไปอีกว่าวันนี้ข้อเสนอของสังคมไปไกลกว่าการยกเลิกมาตรา 272 แต่อาจคิดไปถึงการยุบส.ว. เหลือสภาเดียว วันนี้หวังว่าส.ว.จะสำเหนียกตัวเองสละอำนาจอย่าทำบาปทำกรรมกับประเทศไปมากกว่านี้เลย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการอภิปรายของนายรังสิมันต์ ที่ระบุว่าขอให้ ส.ว.สำเหนียกตัวเองสละอำนาจ ส่งผลให้นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ลุกขึ้นประท้วง โดยระบุว่า ส.ว.ในบทเฉพาะกาลมีประชาชนลงมติ 16 ล้านคน แต่ ส.ส.ที่กำลังอภิปรายมีพื้นที่หรือไม่

คะแนนที่ได้มาก็มาจากการปัดเศษ ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงประธานว่าปล่อยให้ ส.ว.ลุกขึ้นมาประท้วงโดยไม่ชี้แจงว่าผิดข้อบังคับข้อไหน ประธานต้องควบคุมการประชุมให้ดี

จากนั้นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นมาประท้วงนายกิตติศักดิ์ที่พูดถึง ส.ส.ปัดเศษ ท่านกำลังเสียดสีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐอยู่ ขอให้ท่านถอน ให้เกียรติท่านไพบูลย์ด้วย ส่งผลให้ที่ประชุมฮาครืน

จากนั้นนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธาน ขอให้นายกิตติศักดิ์ประท้วงและแจ้งข้อบังคับให้ชัดเจนก่อนการอภิปรายและอย่าไปเสียดสีคนอื่น และให้นายกิตติศักดิ์นั่งลง โดยนายกิตติศักดิ์ระบุว่าหากพูดถึง ส.ว.อีกก็จะประท้วงอีก จากนั้นจึงยอมนั่งลง ก่อนเข้าสู่การอภิปรายต่อไป

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐต้องการแก้บางมาตรา เพื่อให้เป็นไปตามแผนการรวบอำนาจของคสช.เท่านั้น การเปลี่ยนเขตเลือกตั้งก็เพราะต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขีดเส้นแบ่งเขตใหม่ใช่หรือไม่ ถามว่าแบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ตนเคารพการตัดสินใจของประชาชน แต่เราต้องยอมรับด้วยว่ามีกระบวนการที่บิดเบือนความต้องการของประชาชนอยู่จริง หรือบางเรื่องที่เสนอเข้ามาก็แก้เพื่อโกง เช่น มาตรา 144 และ 185 เท่ากับว่าต่อจากนี้จะแทรกแซงจะก้าวก่ายก็ทำได้

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ที่อ้างว่าจะแก้ทีหลังตนไม่เชื่อ แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ส่วนสิทธิเสรีภาพก็แค่เติมแต่งเข้าไป แต่หากการแก้รัฐธรรมนูญยังเป็นแบบที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ ต่อให้แก้เรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างไร สุดท้ายคนเห็นต่างก็ยังจะถูกข่มขู่คุกคามอยู่ดี การแก้เหล่านี้จึงไม่ต่างอะไรจากไม้ประดับที่คอยหลอกตาประชาชน คอยสูบกินการเมืองไทยต่อไปไม่จบสิ้น การแก้ไขไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไร แค่ปรับแต่งรัฐธรรมนูญ 60 ให้กลายพันธุ์ดูดีน่าคบหาเท่านั้น”

“ถามว่าจะเล่นปาหี่กันแบบนี้อีกนานไหม ผมขอเรียกร้องให้กลับมาสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่าหนทางหนึ่งในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่รวดเร็วที่สุด คือการจัดทำประชามติถามประชาชนไปเลยว่า ต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 60 และต้องการสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชนหรือไม่ เพื่อไม่ให้เหลือข้ออ้างอีกต่อไป”

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เลิกเสียทีกับการพยายามจำกัดเนื้อหาไม่ให้จัดทำในหมวด 1 และหมวด 2 อันเป็นการไม่เคารพต่อเจตจำนงของประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ประชาชนจะเขียนในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ก็ให้พวกเขาได้รณรงค์ และหาข้อสรุปด้วยตัวเอง สำหรับญัตติแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันเห็นชอบกับการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่สุดเฉพาะหน้าในการทลายการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์

“หากปรากฏว่าในท้ายที่สุดญัตติยกเลิกมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ถูกคว่ำลงอีกครั้ง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ละครฉากนี้ที่มีนักแสดงค่าตัวแพงทั้งหลายในห้องนี้ เป็นแค่เพียงละครปาหี่ต่อพี่น้องประชาชนเพื่อกินรวบอำนาจของประชาชนทั้งกระดานเท่านั้นเอง”

“พอได้แล้วหรือไม่กับการยอมให้ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เลิกเล่นตามเกมของผู้ที่ไม่เคยศรัทธาในประชาธิปไตย แล้วหันมาเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในแบบที่ประชาชนได้เป็นผู้กำหนด และได้รับประโยชน์สูงสุดจริงๆ หยุดทำตัวเป็นหางเครื่องค่าตัวหลักแสนให้กับละครสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ และฝ่ายเผด็จการคสช.เสียที” นายรังสิมันต์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน