มนต์ต้องรัก เชน-แพร เปิดใจหลังสละโสดครั้งแรก พร้อมอัพเดตงานวิวาห์

มนต์ต้องรัก เชน-แพร – เปิดใจข่าวดี สำหรับคู่รักนักแสดงหนุ่ม เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ และแฟนสาว แพร พิไลรัมภา สิริสุรีภัสร์ กับโมเมนต์สละโสด เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอฝ่ายหญิงแต่งงานในวันเกิด ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกบนเรือหรูกลางทะล

ล่าสุด เชน-แพร ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ เผยถึงแผนการเซอร์ไพรส์คุกเข่า สวมแหวน ในทริปทะเล ก่อนที่จะเปิดใจถึงความรู้สึกการถูกขอแต่งงาน และอัพเดตความคืนหน้าเรื่องานวิวาห์

วางแผนเตรียมตัวยังไง ก่อนที่จะมีภาพขอแต่งงานออกมา? เชน : “เตรียมไว้นานครับ เตรียมเรื่องแหวน และสถานที่ ซึ่งที่นี้เปลี่ยนเป็นที่ที่สามครับ ตามนโยบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็ต้องขอโทษที่ต่างๆที่ขอแคนเซิลเพราะว่าเราไม่สามารถไปได้จริงๆ แต่เขาก็น่ารักเขาเข้าใจครับผม ซึ่งเราก็อยากทำให้วันเกิดเขาเป็นวันพิเศษวันหนึ่ง เราก็เลยบอกเขาว่าเราอยากพาเขาไปที่ที่ไม่มีใคร ห่างไกลผู้คนแบบไม่ต้องกลัวว่าจะเจอคนเยอะครับ”

ทำไมเลือกขอแต่งงานในวันเกิดแพร? เชน : “กับสถานการณ์ที่เราเครียดกันอยู่ตอนนี้ อยากจะทำให้วันนั้นเป็นวันที่เขายิ้มออกก็เลยเลือกวันที่ทำให้เขามีความสุข”

มีการเซอร์ไพรส์กันยังไงบ้างในวันเกิดวันนั้น? แพร : “จริงๆ ทุกปีเราจะไปต่างจังหวัดกันอยู่แล้วค่ะ มันก็เลยเหมือนทุกปีที่เราได้ไปพักผ่อน แต่พอทริปนี้มีนอกเหนือกว่านั้น ซึ่งจริงๆแพรคิดว่าเขาน่าจะเครียดแหละ เพราะว่าเขาชวนไป แต่แพรบอกไม่ไป คือเรากลัวเรื่อง ดราม่าโควิดรัฐบาลประกาศเลื่อน เราก็เลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า จนเขางอแงว่าไม่ได้ เชนอยากไป เราก็เลยรู้สึกว่าทำไมต้องงอแงขนาดนี้ เพราะมันไม่ควรไป

เชน : ผมคิดไว้ทุกอย่างตอนแรก ผมแพลนไว้ว่าจะมีแค่เราสองคนไปหาที่ไหนก็ได้ swab test ไปแจ้งศูนย์ แบบ ขอร้องเถอะวันนี้เป็นวันสำคัญของผมกับแพร แต่สุดท้ายผมก็ยอมรับว่าเราต้องอยู่ตามกฎ เราไม่สามารถเดินทางได้อะไรที่มาจากความตั้งใจของเรา บางทีเราก็ต้องเปลี่ยน จนมาจบที่บนเรือ ซึ่งก็ไม่มีใครเลย มีแค่ผมกับครอบครัวผม กับครอบครัวแพร”

มีการเลือกแหวนยังไงบ้าง? เชน : “คือผมเป็นคนไม่รู้เรื่องเพชรเลยนะ แพรเขาจะรู้”
แพร : “จริงๆเขาต้องโดนจับได้แหละ แต่คราวนี้เนียนมากคือเพื่อนสนิทแพร เขาทำจิวเวอรี่อยู่แล้วทักมาส่วนตัวว่าแพรช่วยเลือกแหวนแต่งงานหน่อย บอกว่ามีเจ้าสาวจะแต่งงาน มีแบบในใจไหม จะให้เขาเอาไปเป็นพอร์ตเลือก ซึ่งเพื่อนจะรู้ว่าแพรเป็นคนชอบดูการดีไซน์ แพรก็นั่งเลือกทั้งวัน แล้วเชนก็ตั้งกรุ๊ปส่วนตัวดูว่าจะเป็นแหวนหมั้น หรือ แหวนเช้าค่ะ ก็ไม่สงสัยว่าเป็นเชน เพราะว่าเราไม่คิดว่าเขาจะขอดีกว่าก็เลยไม่ได้มีเอะใจว่าเป็นเราหรือเปล่า เนียน”

 

รู้สึกยังไงบ้าง ตอนคุกเข่าขอแต่งงาน? เชน : “ตอนแรกตื่นเต้นเป็นเรื่องปกติครับ ว่าพอถึงวันแล้วมันจะมีอะไรที่มาทำให้เราทำนั่นนี่ไม่ได้อีกไหม แต่สุดท้ายโอเคเราขึ้นไปอยู่บนเรือได้ แต่วินาทีที่จะขอจริงๆมันทำตัวไม่ถูก”
แพร : “เหมือนสคริปต์ที่เตรียมมาพูด(ยิ้ม)”
เชน : “มันไม่มีครับ วินาทีนั้นไม่ได้พูดอะไรเลยแล้วเราก็ไม่รู้จะพูดยังไง มันพูดไม่ออก รู้สึกว่ามันเอ่อล้นว่าว่าตอนนี้สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราทำจากใจสุดๆที่เราตั้งใจทำมานานแล้ว และมันก็เกิดขึ้นแล้ว มันก็ตื่นตันนะ และดีใจมากๆที่มีเขาอยู่ตรงนี้”
แพร : “จริงๆเราก็ไม่เก็ตฟีลนี้นะ เพราะเราก็ไม่เคยมีใครมาขอแต่งงานเหมือนกัน มันก็เป็นอีก ความทรงจำหนึ่งที่ถ้าไม่เกิดกับตัวก็อธิบายไม่ได้เหมือนกัน แพรรู้สึกว่าการคุกเข่าขอแต่งงานมันมากกว่าการแต่งงานด้วยซ้ำ

การแต่งงานมันต้องมีการเตรียมตัวคุยกันสองคน เรื่องการ์ด โรงแรมความตื่นเต้นมันจะไม่เหมือนกับการโดนขอแต่งงาน เพราะว่าอันนี้มันคือการเซอร์ไพรส์ แล้วตัวเขาเองก็ต้องเหวอเหมือนกัน ถ้าสมมุติว่าผู้หญิงปฏิเสธล่ะ”
เชน : “ใช่ มันลุ้นไปหมดเลย เพราะว่าเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ครับ ซึ่งทำให้ผมลุ้นมากว่าจะเซย์เยส หรือ เซย์โน(หัวเราะ)

 

แอบเอะใจไหมว่าวันนี้เขาดูแปลกๆ ต้องมีอะไรพิเศษๆในวันเกิดเราแน่ๆ? แพร : “ไม่มีค่ะ ไม่มีเลย แล้วตอนคุกเข่าก็คิดว่าเขาจะถ่ายรูปเล่น ไม่ได้คิดว่าจะขอแต่งงาน จนแบบน้องชายเชนถือเวลมาติดผม เริ่มมีกล่องแหวนจริงๆ ออกมาแล้วก็หันหน้าหนีตกใจ
เชน : “ตอนนั้นเหมือนแบบหูดับครับคือเสียงคลื่นและเสียงคนอื่นเราไม่ได้ยินอะไรแล้ว”

อะไรดลใจให้เชนคิดว่าเวลานี้แหละ และคนนี้แหละ จะต้องร่วมใช้ชีวิตด้วย? เชน : “แพรคือคนในครอบครัวของผมอยู่แล้วครับ ด้วยความรู้สึก และพ่อแม่ผมรักแพรมาก รักมากกว่าผมแล้วมั้งตอนนี้ ทุกๆวันที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันมีแต่เราปรับ จนกระทั่งเราเริ่มเข้าที่มากที่สุด ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะทำอะไรให้มันชัดเจนที่เป็นการให้เกียรติตัวแพร และครอบครัวก็เลยเกิดความคิดว่า ผมอยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต ตื่นมาเห็นหน้าเขาอยากให้เขาเป็นคนหนึ่งในครอบครัว พูดจริงๆตลอดไป เลยอยากทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษ เพราะว่าผมก็ไม่เคยทำแบบนี้เลย”

เรียกว่าเรารู้จักกันมายาวนานกว่า 20 กว่าปีเลย? เชน : “รู้ทุกซอก ทุกมุมครับ รู้มากกว่าที่ผมรู้จักเขาอีก เพราะแพรเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดมากๆ เขารู้เลยว่าอีกครึ่งชั่วโมง ผมจะหิว รู้ทุกอย่างที่เป็นตัวผม”
แพร : “เหมือนรู้ระบบร่างกายเขาทุกอย่าง”

อึ้งไหมที่ก่อนหน้านี้เรายังเป็นเพื่อนกัน และคบกันมานาน ผ่านมาแว๊บเดียว เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว? แพร : “จริงๆทุกวันเหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่การแต่งงานมันเป็นการเติมเต็ม เป็นโมเมนต์เติมความสุขที่มันสุขอยู่แล้ว ก็ให้มันเพิ่มเข้าไปอีก เพราะในทุกๆวันคือเราทะเลาะกันมาหมดแล้ว คือมันไม่มีอะไรเกินที่จะเริ่มแจ๊กพอร์ตมาในอนาคต เราไม่รู้ว่าใครจะนอกใจใคร ไอ่เรื่องที่พร้อมจะแจ็กพอร์ต เราไม่สามารถจะการันตีในอนาคตได้ แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องของการที่คนสองคนเจอกัน มันเป็นเรื่องที่เราสองคนเคลียร์กันหมดเรียบร้อยแล้ว อยู่แล้วเป็นตัวเองได้จริงๆ”
เชน : “ใช่ ไม่มีคำว่าฝืน ไม่มีคำว่าอึดอัด”

 

ตอนนี้โควิดไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเราสองคน? แพร : “เป็นปัญหา”
เชน : “เป็นปัญหาแน่นอน มันก็มีเรื่องที่ทำให้เราสองคนต้องเครียด ซึ่งทุกคนก็เจอเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามีหลายคนถามว่า ทำไมต้องเป็นตอนนี้ ซึ่งมันตอบไม่ได้หรอกว่าทำไมต้องเป็นตอนนี้คือผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วไม่ว่าตอนนี้มันจะเจออะไรเราจะสู้ไปด้วยกัน นั่นแหละที่ผมอยากจะบอกว่าให้เขาเป็นครอบครัวเดียวกับผม ไม่ว่าเราจะเจออะไร เราจะสู้ไปด้วยกัน”
แพร : “ส่วนตัวแพร คือโควิดทุกคนเจออยู่แล้วแหละ ดูข่าวแล้วก็ซึมๆ อยู่ในบ้าน แล้วสุดท้ายเรามามองแง่บวกว่า เราจะมีความสุขอยู่กับมันไปให้ได้ พอเราเจอเคสนี้ พี่เชนคุกเข่ามันก็เป็นสิ่งที่ทำให้แพรยิ้มได้มา 2-3 วันติด พอนึกถึงก็มีความสุข ดูแหวนมีความสุข ดูตัวเองที่ใส่เวลมีความสุข ดูรูปคู่มันทำให้เราลืมช่วงเวลาเครียดไปได้เยอะ
เชน : “เหมือนมีพลังผมก็อยากให้แพรได้รับสิ่งนี้แหละ สิ่งที่เป็นเหมือนกำลังใจให้เขาอย่างมีความสุขยิ้มแบบที่ไม่ใช่ว่าเปิดข่าวมาแล้วนั่งเครียด”

หลายคู่เลื่อนงานแต่ง งานฉลองไปแล้ว อย่างคู่ของเราวางแผนไว้ยังไงบ้าง? เชน : “รอให้ทุกอย่างสถานการณ์ดีขึ้นก่อนครับแล้วเราค่อยมานั่งคุยกันอีกที อย่างที่เราบอกว่าตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการทำก็คือทำทุกอย่างให้มันชัดเจน เริ่มต้นจากครอบครัวผมจะไปคุยกับครอบครัวแพรก่อน แล้วเราค่อยมาวางอนาคตกันอีกทีหนึ่งว่าเมื่อไหร่ ตอนนี้รอให้ทุกอย่างโอเคก่อนครับเรายังไม่ได้วางแผนอะไร”

พ่อแม่มีคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นกันหรือยัง? เชน : “ยังไม่ได้คุยครับ สิ่งแรกที่ผมทำก็คือโทรบอกคุณแม่ก่อนเลยครับว่า “แม่ครับ ผมขอลูกแม่แล้วนะ” แม่ก็บอกว่ากำลังจะถามเลยว่าวันเกิดจะเซอร์ไพรซ์อะไรแพร ผมก็บอกเซอร์ไพรส์ครับแม่ เซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน(ยิ้ม) คือเราไม่ได้คุยเรื่องสินสอดอะไรเท่าไหร่หรอก คุณแม่แพรน่ารักมากๆ เดี๋ยวเราก็ขอให้ทางผู้ใหญ่ไปคุยกันให้เรียบร้อยก่อน”

หลังแต่งงานแพลนว่าจะอยู่ด้วยกันมีลูกเลยไหม? แพร : “จริงๆทุกวันที่แพรคบเชนก็เหมือนคนแต่งงานกันแล้ว ทุกอย่างเราดูแลกันเหมือนคนในครอบครัวอยู่แล้วฉะนั้นจากการคุกเข่าขอแต่งงานมันไม่ต่างจากตอนนี้เลย”
เชน : “เหมือนครอบครัวกันอยู่แล้วครับ ไม่ต่างกันเลย สำหรับเราสองคนจะมีความสุขมากขึ้น มีอะไรที่มันชัดเจนมากขึ้น แต่ถามว่าต่างกันมั้ยไม่ต่าง เพราะเราสองคนเคยพูดไปแล้วว่าเราขอลองที่จะอยู่ด้วยกันก่อน เพราะจะได้รู้ว่าการที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง มันย่อมจะเจออะไรเล็กๆน้อยๆ และอย่างที่บอกเราได้ปรับจูนกันมาหมดแล้ว จนตอนนี้มันรู้แล้วว่าต่างคนต่างชอบหรือไม่ชอบอะไร แล้วก็พร้อมแล้วครับ”

แต่งปุ๊บอยากมีลูกเลยไหม? แพร : “ไม่อยาก คือแพรไม่ได้ปิดเหมือนไม่มีเลยแต่ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้คือยังไม่มีฟีล (ยิ้ม)
เชน : “ส่วนตัวแพรไม่อยาก ส่วนตัวผมอยาก แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆด้วยหลายๆอย่างครับ แต่ถ้าเกิดวันข้างหน้าใครจะเปลี่ยนใจ เดี๋ยวค่อยมานั่งคุยกัน”

คนรอบข้างว่าอย่างไรบ้าง สำหรับข่าวดีของเราสองคน? แพร : “ทุกคนที่เป็นเพื่อนสนิทจะบอกว่ายินดีด้วยเขาก็บอกจริงป่ะเนี่ย เพราะเหมือนพวกเราชอบคุยเล่นกัน ทุกคนก็จะถามว่าเรื่องจริงใช่มั้ย มีโมเมนต์คุกเข่าจริงหรอ”
เชน : “ทุกคนชอบถามอยู่แล้วว่าเมื่อไหร่จะแต่งบางทีเราก็ยังไม่มีคำตอบให้เขา เพราะเราไม่รู้ว่าจะตอบยังไงจริงๆ เรารู้สึกว่าไม่ต้องถามหรอก ถ้าวันไหนเราพร้อม เราเลือกผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แน่นอนไม่มีทางเปลี่ยนเพราะฉะนั้นไม่ต้องถามว่าเมื่อไหร่จะแต่ง เพราะผมก็จะอยู่กับคนๆนี้แหละ”

ยืนยันคอนเฟิร์คนนี้แหละที่ใช่? เชน : “(ยิ้มเขิน) 300 เปอร์เซ็นต์ ห้ามทิ้งครับ”
แพร : “อย่างที่แพรบอกเชนว่าผู้หญิงในการตัดสินใจ อันนี้คือคิดแล้วที่ตอบว่าโอเค เพราะอย่างที่บอก เราปรับมาจนเรารู้ว่า เราทะเลาะกันเรื่องอะไร มันจูนกันครบ 100%แล้ว ไม่ต้องมานั่งเคลียร์อะไรแล้วค่ะ อยู่ทุกวันนี้สบายใจค่ะ”

ถ้าวันนี้ให้พูดถึงกันและกัน เหมือนโมเมนต์วันนั้นที่พูดไม่ออก จะพูดอะไร? แพร : “คงขอบคุณเขาที่น่ารักขึ้นทุกวัน ยิ่งช่วงก่อน 1-2 เดือนนี้ แพรบอกเล่นของป่ะเนี่ย คือเขามาทำให้วุ่นรักในใจตลอดเวลา แบบว่าช่วงนี้น่ารักจัง ต้องขอบคุณเขาที่ทำตัวน่ารักขึ้นมากๆ”
เชน : “ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เข้ามาทั้งเติม ทั้งปรับ ทั้งเปลี่ยนให้ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดีขึ้น มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น เป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนอะไรมากมายในชีวิตที่ทำให้ตัวผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นเปลี่ยนหนักมากๆ แล้วอยากจะบอกว่าทุกๆวันมีความสุข ตื่นมามีความสุขทุกวันที่เห็นหน้าเขามีรอยยิ้มแล้วก็รักมากครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน