การชุมนุมทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพที่จะเริ่มในเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน คือ ประสบการณ์”ใหม่”สำหรับ “คสช.”
ใหม่เพราะนี่มิได้เป็นเรื่อง”การเมือง”
“คสช.” มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการกับการเคลื่อนไหวที่มีกลิ่นอายและสีสันทางการเมืองอย่างอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มาแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มนัดกินแม็ค” ไม่ว่าจะเป็น”กลุ่มชู 3 นิ้ว” ไม่ว่าจะเป็น”กลุ่มอ่าน 1984″
หรือแม้กระทั่ง”Start Up” ก็มองออก
แต่พลันที่มีการก่อรูปเพื่อ”ทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ”ขึ้นที่เชียง ใหม่ “คสช.”ก็มองอย่างงงๆ
เพราะนี่เป็นเรื่องของ”ป่า” เรื่องของ”สิ่งแวดล้อม”

หากดูจากคำประกาศของโฆษกเครือข่ายฯล่าสุดก็จะสัมผัสได้ใน ความเติบใหญ่ ขยายตัว
เดิมอาจมี 16 แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 35
“มีแนวร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแสดงออกผ่านสังคมโซเชียล ส่วนตัวและเข้ามาร่วมกิจกรรมโดยที่ไม่ได้ร้องขอ”
เจตนารมณ์ของพวกเขาแจ่มชัด
แจ่มชัดในความต้องการว่า “ไม่ต้องการให้ศาลอยู่ 10 ปี ช่วยที รื้อหมู่บ้านป่าแหว่ง”
เป็นการสื่อตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มีความพยายามจะลากโยงให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไปสัมพันธ์กับ”การเมือง” โดยระบุว่าเป็นเรื่องของ”รัฐบาล”ในกาลอดีต
แต่ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสกัดขัดขวาง
พิจารณาจากจำนวนแนวร่วมที่เพิ่มจาก 16 เป็น 35 เครือข่ายยืนยันมั่นคงในการเติบใหญ่ ขยายตัว

สายตาทุกสายตาในขอบเขตทั่วประเทศจึงทอดมองไปยังเชียงใหม่ ไปยังดอยสุเทพไม่เพียงแต่จะดูว่า “จุดติด” หรือไม่
หากแต่ยังดูด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบริการจัดการเรื่องนี้อย่างไร จะเดินตามแนวเดิม หรือจะเดินตามคำเรียกร้องของประชาชน วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน มีคำตอบ
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตอบแบบไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน