การสวมบท “ขายข้าวสาร” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นการสวมบทของ “แม่ค้า”อย่างแน่นอน
เมื่อเป็น “แม่ค้า” ก็น่าจะ “ปากจัด”
เมื่อเผชิญกับการดาหน้า เข้ามารุกไล่ เพื่อหวังจะบดขยี้และทำ ลายจาก “ปรปักษ์” ทางการเมืองจะรอบทิศ รอบทาง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะ “แรงมา” ก็”แรงไป”
เพราะฝ่ายตรงกันข้ามเล่นงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนักหนาและสาหัสอย่างยิ่ง
นักเขียนการ์ตูนบางคนถึงกับเปรียบเหมือน KAREE
นักการเมืองซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีบางคนถึงกับใช้คำว่า “อีโง่” อย่างไม่ขัดเขิน
แต่”แม่ค้า”อย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่เคย”หลุด”
แม้กระทั่งเมื่อเผชิญกับศึกเสือเหนือใต้จากบรรดา”ไอ้ห้อย” บรรดา”ไอ้โหน”ของคสช.
“คุณปู”ก็ยังตอบโต้อย่าง”นิ่มนวล”อ่อนหวาน
ต้องอ่านและพิจารณา
ดีใจและภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการริเริ่มช่วยชาวนาขายข้าว 2 ครั้งที่ผ่านมา
ช่วยให้ชาวนามีทางเลือกหากไม่ได้รับราคาที่เป็นธรรม
และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ชาวนาขายข้าวเองได้โดยตรง จะทำให้คุ้มต้นทุนหรือเหลือกำไรบ้าง
ไม่เคยคิดกดราคาหรือเอาเปรียบชาวนาตามที่มีใครกล้างอ้าง
เพราะซื้อข้าวเปลือกในราคา 12 บาท หรือข้าวสาร 20 บาทซึ่ง เป็นราคาที่ชาวนามีกำไรและพออยู่ได้
และลดต้นทุนด้วยการไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม
ขายข้าวตามสภาพและรับผิดชอบขนส่ง หากคิดเอากำไรหรือผลักภาระส่วนนี้ไปยังผู้ซื้อ
ก็ต้องขายด้วยราคา 25 บาท
แต่ไม่ต้องการเช่นนั้น เพื่อให้ผู้ซื้อได้ซื้อข้าวราคาเดียวกับที่ชาวนาขายที่ต่างจังหวัด
ไม่ว่าจะตรวจสอบในฐานะครู”ภาษาไทย” ไม่ว่าจะตรวจสอบในฐานะ “นักภาษาศาสตร์”
ไม่มี “คำด่า” ไม่มี “คำหยาบ”
เป็นการชี้แจงอย่างกระจ่าง ในฐานะ “คนกลาง” ระหว่าง “ชาวนา” กับ “ผู้ซื้อ”
อ้างอิงตัวเลขไม่มาก
เพียงแค่ 12 กับเพียงแค่ 20 กับเพียงแค่ 25 จากข้าวเปลือกไปยังข้าวสาร
ตรงเป้า เข้าประเด็น ไม่ยอกย้อน
ตอบคำถามในเรื่อง “ทุบราคา” แจ่มชัด ตอบคำถามในเรื่อง”ท้ำร้าย”ชาวนาด้วยความโหดเหี้ยม อำมหิต อย่างที “คนปากจัด”บางท่านกล่าวหาครบถ้วน
บ่งชัดว่า 20 บาท “ชาวนา” มี”กำไร”และอยู่ได้
บ่งชัดว่าหากต้องการกำไรเข้าพกเข้าห่อก็ต้องขาย 25 บาท
