ยิ่งอยู่นาน กระบวนท่า และ”ลีลา” ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งแยบยล

แยบยลเพราะมิอาจ “คาดหมาย”
วันหนึ่งอาจปรากฏที่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และจบลงที่สุรินทร์
แสดงบทบาทในการซื้อ
วันต่อมาอาจปรากฏที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ ย่านถนนรามอินทรา
แสดงบทบาทในการขาย
เมื่อประสบความสำเร็จขายได้หมดภายใน 1 ชั่วโมงก็ไปปรากฏที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง สมุทรปราการ
ขายได้หมดภายใน 30 นาที
จากนั้นก็เดินทางไปร่วมในงานบุญทอดกฐิน “มหากุศล” ณสำนักถ้ำแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน
แล้วก็”หาย”ตัวไปอย่างไร้”ร่องรอย”

หากสรุปตามสำนวนแบบลาว-ลาวจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงก็ต้องบอกว่า
ดำเนินไปแบบ “กองหลอน”
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถจับทิศทาง จับเบาะแสว่ากระบวนการเคลื่อนไหวจะดำเนินไปอย่างไร
คน 1 ที่เหนื่อยคือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม
อีกคน 1 ที่เหนื่อยคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชี่วะ เพราะจะต้องเฝ้าติดตาม
ติดตามแล้วออกมา วิพากษ์วิจารณ์
ติดตามแล้วก็วิเคราะห์ว่า ควรจะกำหนดท่าทีอย่างไร จะเมินเฉย หรือว่าจะกระทำไปในเส้นทางเดียวกัน
เหมือนกับที่เพิ่งออกมา “ขายข้าว”

กระบวนท่าและลีลาการเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เช่นนี้หากประเมินจากมุมของนักการทหาร
ถือได้ว่าเป็นกระบวนท่า “ซุ่มซ่อน”
อาศัยช่วงจังหวะและสถานการณ์อันเหมาะสมจึงค่อยปรากฏบทบาทออกมา
เหมือนกับที่เดินทางไป อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์
นั่นเป็นห้วงเวลาที่สังคมรับรู้ในความเดือดร้อนของชาวนาอันเนื่องแต่ราคาข้าวเปลือก เสื่อมทรุดและตกต่ำ
ตกต่ำลงไปกระทั่ง 1 กิโล 5-6 บาท
การซื้อข้าวหอมมะลิจาก “ชาวนา” มาขายในราคา 20 บาท 1 กิโล จึงเป็นการหนุนช่วย กระทั่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็เดินตามด้วยการซื้อจากชาวนาแล้วมาขาย
เพียงแต่ในราคา 25 บาท 1 กิโล
บทบาทของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะ”กองหลอน”จึงจะยังดำเนินต่อไป
เพียงแต่ว่าจะเป็น “เรื่อง”ใด และ”ประเด็น”ใดเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน